หลังจากที่กิจกรรม ปั่นปันรัก พักเมืองรอง ได้ดำเนินการปั่นไปเที่ยวไป จนมาถึง สนามที่ 8 จังหวัดอุตรดิตถ์ ในวันที่ 27 ตุลาคม 2562 นี้ ก็ได้มีนักปั่นที่มาร่วมปั่นไปแล้วกว่า 4,000 คน ถือเป็นโครงการปั่นท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จมากอีกโครงการหนึ่ง และมีนักปั่นมาร่วมโครงการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งงานนี้ เจ้าภาพจากหลายองค์กรถึงกับยิ้มแก้มปริ จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้กิจกรรมนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2020 อีก 12 สนาม ในจังหวัดเมืองรองทั่วทุกภาคแน่นอน

สำหรับสนามอุตรดิตถ์ ได้ร่วมกันจัดงาน ระหว่าง สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน , ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว , บริษัท ฮาฮาริช  จำกัด และ สโมสรโรตารี่อุตรดิตถ์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2562 โดยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , วิริยะประกันภัย, ขนมปังเลอแปง, โตโยต้า, เกลิน คอลลา พลัส คิวเท็น (Kaelyn Colla plus Q10 ), น้ำดื่มตราสิงห์, บริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด,  โรงแรมต้นทอง, โรงแรมสีหราช, โรงแรมอารยรีสอร์ท, โรงแรมมาลาดี, โรงแรมโอยูเอ็ม, โรงแรมHobby, โรงแรมไทธนา เพื่อให้นักปั่นจะได้รับประสบการณ์ Traveling / Experience / CSR ในรูปแบบ Spot Tourism ถือเป็นสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนทั้งทางไลฟ์สไตล์และทางเศรษฐกิจอีกด้วย นักปั่นท่านใดที่สนใจ ให้ติดตามและสมัครได้ที่ เฟสบุค ปั่นปันรัก พักเมืองรอง เพจเดียวเท่านั้น

กิจกรรม  ปั่นปันรัก พักเมืองรอง  สนามอุตรดิตถ์ เส้นทางจุดเริ่มต้นตั้งแต่ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก ปั่นไปตามเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงาม จนมาถึงจุดแวะพักที่ ที่วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เป็นที่เชื่อกันมาแต่โบราณว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และมีความเชื่อว่าการได้มาสักการะพระบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ จะได้รับอานิสงส์สูงสุด จากนั้นปั่นไปจนถึง จุดแวะพักที่ 2 น้ำตกแม่พูล เป็นน้ำตกที่เกิดจากการตกแต่งธารน้ำ โดยการเทปูนให้น้ำไหลลดหลั่นจากบนเขาสูงลงมา ดูคล้ายน้ำตกธรรมชาติ  และนักปั่นจะปั่นกันต่อ จนมาถึง จุดแวะพักที่ 3 บ้านบนดอย นักปั่นจะได้สัมผัสกับสวนผลไม้บนเนินเขา เรียนรู้ความเป็นเมืองลับแลจากพิพิธภัณฑ์ชุมชน และสามารถเลือกซื้อหาสินค้าพื้นเมือง ของฝาก และของที่ระลึกได้จากที่นี่อีกด้วย รวมระยะทั้งสิ้น 46 กิโลเมตร

ปั่นปันรัก พักเมืองรอง”  เป็นกิจกรรมที่นักปั่นผู้ที่ชื่นชอบปั่นไปเที่ยวไป ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน , ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว และบริษัท ฮาฮาริช จำกัด ยังได้นำรายได้ส่วนหนึ่งสนับสนุนโครงการรถเข็น เพื่อผู้พิการ ด้านการเดิน และขาดแคลน ทุนทรัพย์ซึ่งเป็นโครงการที่บริหารจัดการโดยสโมสรโรตารีอุตรดิตถ์องค์กรที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อีกด้วย รวมถึงมอบของที่ระลึกกับนักปั่นขึ้นกล้องทุกจังหวัด  และที่พิเศษสุด สนามสุดท้ายนี้ เราจะได้รู้กันแล้วว่า ใครจะเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลนักปั่นขึ้นกล้องประจำปี 2019 นี้ ที่ปั่นมากที่สุดครบ จังหวัด ทั้งประเภทชายและหญิง จะได้รับรางวัลคนละ 50,000 บาท  โดยจะทำการสุ่มจับฉลากที่สนามอุตรดิตถ์นี่เอง ใครจะเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลนักปั่นขึ้นกล้อง ปั่นมากที่สุดในปีนี้ต้องคอยติดตามกัน..