ไม่มีเรื่องอะไรที่จะใหญ่เท่าเรื่องไวรัส Covid-19 (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้อีกแล้ว และเป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องตระหนักรวมถึงให้ความร่วมมือในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้ได้ ถ้าพวกเราทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ และร่วมมือร่วมใจกันทั้งประเทศก็จะช่วยลดการแพร่ระบาดแล้วยังช่วยให้แพทย์ไม่ต้องทำงานหนักอีกด้วย เท่ากับได้ ต่อ เพื่อตัวเอง เพื่อหมอ และเพื่อชาติ ตัวแทนดีเจจากบ้าน เอไทม์ มีเดีย จึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยรณรงค์และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อนำไปปฏิบัติได้ง่ายๆ ตามนโยบายของรัฐบาล #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ

            เริ่มจาก ดีเจ.โบ ธนากร ชินกูล จากรายการ #ใต้โต๊ะทำงาน ทางคลื่นชิล ออนไลน์ กล่าวว่า สำหรับคนที่ยังจำเป็นต้องออกไปทำงานในทุกๆ เช้า ก่อนออกจากบ้านควรสังเกตอาการของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีไข้ ปวดศรีษะ ปวดเมื่อย หรือมีน้ำมูกก็ไม่ควรออกจากบ้านนะครับ และต้องเตรียมหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจลให้พร้อมอยู่เสมอ ตอนออกจากบ้านควรใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา เมื่อขึ้นรถสาธารณะก็ไม่ควรเอามือสัมผัสใบหน้า โดยหลังจากลงจากรถแล้วควรใช้แอลกอฮอล์เจลล้างมือทุกครั้ง เลี่ยงการสัมผัสลิฟท์ด้วยมือควรใช้ศอกช่วยในการกดลิฟท์แทน เวลาทานอาหารควรเลือกกินอาหารจานเดียวที่ปรุงสุกร้อนๆ ถ้าเป็นไปได้ลองใช้จานชามช้อนส้อมส่วนตัวของเราเองก็จะดีครับ และสำหรับโต๊ะทำงานควรทำความสะอาดอยู่เสมอทั้งก่อนและหลังทำงานทุกวัน ตอนกลับเข้าบ้านก็อย่าลืมล้างมือและเปลี่ยนชุด หรืออาบน้ำสระผมชำระร่างกายทุกครั้งด้วยนะครับ

            ด้าน ดีเจ.ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ จากคลื่นอีเอฟเอ็ม 94 กล่าวว่า สำหรับใครที่ทางบริษัทมีนโยบาย Work From Home สามารถให้ทำงานที่บ้านได้ก็ถือว่าดีมากๆ เลยค่ะ ช่วงนี้ถ้าไม่มีความจำเป็นขอให้อยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อ ในส่วนของผู้ที่มีความเสี่ยงจะต้องมีการกักตัว 14 วัน หอมเองก็มีแนวทางปฏิบัติง่ายๆ มาแนะนำกันค่ะ เริ่มจากหยุดเรียนหรือทำงาน รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ และอยู่แต่ในที่พักเพื่อสังเกตอาการ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชู่ทุกครั้งที่ไอและจาม หากไม่มีกระดาษทิชชู่ ให้ใช้ต้นแขนด้านในหรือข้อศอกตัวเองแทน ห้ามกินอาหารและใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น รวมถึงควรแยกของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ด้วย เช่น ผ้าเช็ดตัว หมอน ผ้าห่ม แก้วน้ำ จาน ชาม เป็นต้น ควรสวมหน้ากากอนามัยและอยู่ห่างจากผู้อื่น 1 – 2 เมตร ควรแยกห้องนอนและทำความสะอาดที่พักและของใช้ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล และทิ้งหน้ากากอนามัยหรือกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้ว โดยการทิ้งใส่ในถุงพลาสติกปิดสนิทก่อนทิ้งลงถังขยะที่ปิดมิดชิด และที่สำคัญที่สุดคือการสังเกตอาการของตัวเอง โดยการวัดอุณภูมิร่างกายและจดบันทึกไว้เป็นประจำทุกวัน หากมีไข้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ และหายใจเหนื่อยหอบ หรือมีอาการป่วยอย่างใดอย่างหนึ่งจากที่ได้บอกมานั้นควรพบแพทย์ทันที หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือเบอร์ 1669 นะคะ

            ปิดท้ายที่ ดีเจ.พี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล จากคลื่นกรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม กล่าวว่า พี่อ้อยก็ขอส่งกำลังใจให้ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลค่ะ เราในฐานะคนทำงานยังสามารถทำงานที่บ้านได้เพื่อลดการติดเชื้อได้ แต่คนที่เป็นหมอและพยาบาลทำแบบนั้นไม่ได้ ความเสียสละตรงนี้ไม่คิดว่าเป็นแค่เรื่องของอาชีพอย่างเดียว แต่ทุกคนทำด้วยหัวใจที่อยากจะให้คนอื่นรอด อยากทำให้คนอื่นปลอดภัย อยากทำให้ประเทศเรามีจำนวนผู้ติดเชื่อน้อยลงๆ ในฐานะเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ขอสัญญาค่ะว่าจะดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด เว้นระยะตามหลัก Social Distancing อาวุธสำคัญของการลดการแพร่ระบาด แล้วก็อยากชวนทุกคนปฏิบัติตัวแบบนี้ด้วยกัน อย่างน้อยการดูแลตัวเองดีเป็นเหมือนการดูแลคนอื่นด้วย และเราจะได้ทำให้ภาระของคุณหมอและพยาบาลน้อยลง ขอบคุณทีมฮีโร่ทุกคนที่ช่วยให้คนไทยอุ่นใจมากขึ้น คือทีมคุณหมอและพยาบาลค่ะ ส่งกำลังใจให้นะคะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ