แคลร์-จิรัศยา วงษ์สุทิน ผู้กำกับหนังสั้น VDO CALL กักตัว Stories ตอนสุดท้าย “What happened last night ? และ แพรวา-ณิชาภัทร นักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือ ชวนผู้ชมดูหนังสั้นตอนจบ ในวันอังคารที่ 9 มิถุนายนนี้ เวลา 20.00 น. ทาง Youtube Channel NadaoBangkok

 

แคลร์-จิรัศยา ผู้กำกับ เผยว่า “ค่อนข้างกดดันมากค่ะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายของโปรเจกต์นี้และเป็นเรื่องที่ 2 ของแคลร์ด้วยมันเลยยิ่งยากที่ต้องคิดเรื่องให้ไม่ซ้ำและยังน่าสนใจอยู่สำหรับคนที่ดูไปแล้ว 9 ตอน ก็เลยนึกถึงตัวเองช่วงกักตัว ว่าเราVDO CALLกลุ่มกับเพื่อนสนิทบ่อยมากๆ แล้วรู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างเพื่อนผู้หญิงนี่มันสนุกจังเลยนะ เลยตั้งโจทย์กับตัวเองว่าจะทำหนังเพื่อนผู้หญิงคุยกันทั้งเรื่องแต่ต้องสนุก ซึ่งฟังดูไม่ยาก แต่ยากมาก เพราะเราต้องจับนักแสดง 4 คนที่ไม่รู้จักกันเลย มาคุยกันให้เหมือนเพื่อนสนิทมานาน และให้มาเวิร์คช็อปแบบเจอกันไม่ได้ด้วย กระบวนการเขียนบทสนทนาและการสร้างเคมีระหว่างนักแสดงเรื่องนี้จึงค่อนข้างโหดค่ะ และการได้มาทำงานกับแพรวาเรื่องแรกรู้สึกประทับใจมาก แพรวาเป็นนักแสดงที่ทำงานด้วยง่ายมาก อารมณ์ดี ยิ้มตลอดเวลา ทำให้บรรยากาศการถ่ายทำสนุก และน้องตั้งใจทำงานมาก มีไหวพริบเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการ และแคลร์ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้ ได้เรียนรู้วิธีการทำหนังแบบใหม่ๆ และได้ทำงานกับน้องๆ นักแสดงนาดาวที่อยากทำงานด้วยมานาน รวมถึงภูมิใจมากๆที่ทุกยอดวิวของหนังสั้นทุกเรื่องจะกลายเป็นเงินไปบริจาคให้กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๋ง และศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยค่ะ”

แพรวา-ณิชาภัทร เผยว่า “กักตัว Stories เป็นการทำงานรูปแบบใหม่ที่เราไม่เคยทำมาก่อน และต้องลงมือทำเองหลายอย่าง ซึ่งยากมากต้องมาเรียนรู้วิธีการอัดหน้าจอคอม การอัดเสียง การขึ้นสเลทเอง รวมถึงการโหลดไฟล์ลงใน external hard disk รวมถึงบทการแสดงไม่ได้ต่างจากตัวเรามากนัก แต่เนื้อหาค่อนข้างแปลกใหม่มากสำหรับเรามาก โชคดีที่ได้ทำงานกับพี่แคลร์ เป็นการกำกับผ่านวิดีโอคอลที่ไม่มีปัญหาอะไรเลย รู้สึกสนุกมากค่ะที่ได้มาทำโปรเจกต์นี้ ขอฝาก กักตัว Stories ตอนที่ 10 เรื่อง “What happened last night ?” ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายด้วยนะคะ เป็นงานที่แปลกใหม่สำหรับนักแสดงอย่างพวกเรา รวมถึงผู้กำกับและทีมงานทุกคนมาก นอกจากความสนุกที่พวกเรามอบให้กับผู้ชมแล้ว รายได้จากทุกยอดวิวที่ทุกคนชม เราจะนำไปรายได้ไปมอบให้กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๋ง และศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยด้วยค่ะ”

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ