หลังจากภาพยนตร์ Lock, Stock and Two Smoking Barrels (1998) หนังเรื่องแรกของพวกเขาได้สร้างนิยามใหม่ให้แก่ภาพยนตร์แอ็คชั่น และนี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า15ปีที่ซูเปอร์สตาร์ เจสัน สเตแธม  และ กาย ริตชี่ ผู้กำกับมากวิสัยทัศน์ที่มีสไตล์การทำหนังอันโดดและเป็นเอกลักษณ์ได้กลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในภาพยนตร์อาชญากรรมระทึกขวัญเรื่อง “WRATH OF MAN คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก” 

 หลังจากการซุ่มโจมตีอย่างรุนแรงต่อรถหุ้มเกราะคันหนึ่ง บริษัท ฟอร์ติโก้ ซีเคียวริตี้ ซึ่งตั้งอยู่ในลอสแองเจลิสได้ว่าจ้างพนักงานใหม่ผู้ลึกลับนาม แพทริค ฮิลล์ (เจสัน สเตแธม) ที่กลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “H”  ในขณะที่เขาเรียนรู้งานจากคู่หู บุลเลท (รับบทโดย ฮอลท์ แม็กคัลลานีย์ในตอนแรก ดูเหมือนจะเป็นคนเงียบๆเอาแต่ก้มหน้าทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่เมื่อเขาและบุลเลทกลายเป็นเป้าหมายของการโจรกรรม ทักษะที่น่ากลัวของเอชก็ถูกเปิดเผย เขาไม่เพียงแต่เป็นนักแม่นปืนผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจในการต่อสู้แบบประชิดตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่กล้าหาญไร้ความปรานีและเป็นตัวอันตรายอีกด้วย

 หนังสร้างโดยดัดแปลงจากเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่อง Le Convoyeur ภาพยนตร์เรื่องWRATH OF MAN นำเสนอนักแสดงคับคั่ง ได้แก่ เจสัน สเตทแธมฮอลท์ แม็คคัลลานีย์, เจฟฟรีย์ โดโนแวน,จอร์ช ฮาร์เน็ทนีห์ม อัลการ์ลาซ อลอนโซสก็อต อีสท์วูด และ เอ็ดดี้ มาร์ซาน ภาพยนตร์กำกับโดย กาย ริตชี่ บทภาพยนตร์โดย อิวาน แอตกินสัน, ,มาห์น เดวี่ย์ และกาย ริตชี่ โดยมี บิล บล็อค และ แอตกินสัน เป็นผู้อำนวยการสร้าง

 

เกี่ยวกับภาพยนตร์

 

 โดยก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์แนวจราจลเนื้อหารวดเร็วฉับไวแห่งยุค 90 ของพวกเขา เรื่อง Lock, Stock and Two Smoking Barrels และเรื่องSnatch  กายริตชี่ ผู้สร้างภาพยนตร์อันแหวกแนว และ เจสัน สเตแธม ดาราดาวรุ่งที่น่าจับตามองแห่งยุค ภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องเหล่านี้ส่งให้กายริตชี่เป็นผู้กำกับผู้สร้างสรรค์อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยวิธีการอันเป็นเอกลัษณ์และดันให้เจสันสเตแธมเป็นดารานำมากเสน่ห์ที่ตรึงหน้าจอได้อย่างเด็ดขาดในขณะแสดงบทบู๊กระโหลกแตกได้อย่างชาญฉลาด  แม้ว่าทั้งคู่จะยังคงทำงานร่วมกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากเรื่องRevolver ในปี2005 ผลงานบนจอของพวกเขาก็แตกต่างไปคนละทางมาจนถึงปัจจุบัน

           “WRATH OF MAN” ถือเป็นการกลับมารวมตัวของทั้งผู้สร้างและดาราคู่นี้อีกครั้งและมีเนื้อหาที่เข้มข้นกว่าและมืดมนน้อยกว่าการทำงานร่วมกันครั้งก่อนๆของพวกเขา หนังดัดแปลงจากภาพยนตร์ฝรั่งเศสระทึกขวัญเรื่อง Le Convoyeur ในปี 2004 เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นอย่างเคร่งขรึมโดยเจสันที่มาสมัครงานกับบริษัทฟอร์ติโก ซีเคียวริตี้ ภายหลังเหตุการณ์ปล้นรถหุ้มเกราะซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย  สิ่งที่เจ้านายของเขาไม่ได้ตระหนักคือ เอชไม่เพียงแค่มองหางานเท่านั้น แต่เขายังมาพร้อมความแค้นที่กำลังรอวันสะสางในการหาตัวผู้รับผิดชอบต่อการฆาตกรรมลูกคนเดียวของเขา  ในขณะที่การเล่าเรื่องดำเนินไป ความลับก็ถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ นำไปสู่การเผชิญหน้าอันน่าตระหนกระหว่างเอชกับกลุ่มศัตรู

 

 ตั้งแต่เริ่มต้น กาย ริตชี่ ตระหนักว่ามีนักแสดงเพียงคนเดียวที่สมบูรณ์แบบสำหรับบทเอช  และนั่นก็คือเจสัน  ผมสนใจเจสันในฐานะนักแสดงมาโดยตลอด จริงๆแล้วผมเป็นคนแรกที่เลือกเขาเป็นนักแสดงใน Lock, Stock and Two Smoking Barrels  ผมคิดเสมอว่าเขาควรจะเป็นดาราภาพยนตร์และผมดีใจมากที่ได้เห็นเขากลายมาเป็นดาราผู้ประสบความสําเร็จ  เขาอยู่ระหว่างการเดินทางของเขา ผมก็อยู่ในส่วนของผม  แต่มันรู้สึกเหมือนว่าเราควรกลับมารวมตัวกันอีกครั้งและผมคิดว่านี่จะเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบสำหรับเจสันและผมที่จะได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้มันไม่ตลกเลย  มันรุนแรงและดุดันมาก เราเล่นกับเนื้อหาของการแก้แค้น ครอบครัว บาปของผู้เป็นพ่อมาลงที่ลูกชาย

 

 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เจสัน นักแสดงนำต้องการการโน้มน้าวใจเพียงเล็กน้อย มันง่ายมากเลย เพียงแค่เรียกเขามาและพูดคุยกับเขาเพียงสองนาทีว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร” กาย ริตชี่ กล่าว เราทั้งคู่ไม่คิดมากจนเกินไป  เราชอบพื้นฐาน เราทั้งคู่พร้อมร่วมงานในช่วงเวลานั้น  ภาพยนตร์หลายเรื่องเกี่ยวข้องกับโอกาสในการค้นหาคนสองคนที่ต้องการสร้างภาพยนตร์เรื่องเดียวกันในเวลาเดียวกัน  ผมรู้สึกราวกับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำได้อย่างที่พูดไว้บนฉลาก นั่นคือ เจสัน สเตแธมในภาพยนตร์เกี่ยวกับการแก้แค้นอันชาญฉลาด

 

 เจสันกล่าวว่าเขาถูกจุดประกายกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความลึกลับที่แฝงในตัวละครที่เขาแสดง และวิธีการเล่าเรื่องที่เผยให้เห็นถึงแรงจูงใจที่แท้จริงของเอชอย่างช้าๆ มันน่าทึ่งมากเนื่องจากเดิมพันที่อยู่ในมือ” เจสันกล่าว เอชถูกบังคับให้หลอกล่อผู้คนด้วยวิธีการบางอย่างเพื่อให้รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาเป็นใคร แต่สุดท้ายใครบางคนจะต้องชดใช้

 

เมื่อพิจารณาถึงความเข้มข้นของเนื้อหา เจสันและกายจึงเห็นพ้องกันว่าความดุดันบนหน้าจอควรมีความรุนแรงและเห็นภาพชัดเจน แนวทางนี้เป็นจุดเริ่มต้นของผู้สร้างภาพยนตร์และเป็นสิ่งที่นำเสนอเรื่องราวทั้งหมดในท้ายที่สุด

 

 “กายต้องการให้รู้สึกสมจริงและไม่ให้ผมเคลื่อนไหวอย่างเท่และลื่นไหลจนเกินไป เจสันอธิบาย  วิธีการของเขาในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวคือการใช้วิธีแบบพื้นฐาน โดยในแต่ละวันคุณเข้าไปในโลกของเรื่องราวและคิดออกมาว่าตัวละครกำลังจะทำอะไรในสถานการณ์ที่เขาเป็นอยู่ในขณะที่ความตึงเครียดก่อตัวขึ้น วิธีนี้ช่วยสร้างความรู้สึกเหมือนจริงตามที่เราต้องการ ในปัจจุบันยากมากที่ผู้กำกับจะทำเช่นนี้ เว้นแต่คุณจะมั่นใจมากจนรู้ว่าต้องการจับภาพผ่านเลนส์ของกล้องอย่างไร  และกายก็ทำเช่นนั้น

 

H (Jason Statham)

          ไม่มีใครเล่นเป็นชายผู้แข็งแกร่งได้เหมือนเจสัน สเตแธม นักแสดงชาวอังกฤษผู้นี้ได้สร้างปรากฏการณ์โดยแสดงบทชายผู้มากด้วยความพยาบาทในภาพยนตร์เช่น The Transporter, Crank, The Expendables และ The Mechanic และอื่นๆอีกมากมาย  นอกจากนี้เขายังมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งในการแสดงความตลกอีกด้วย ซึ่งช่วยเสริมส่งบุคลิกของเขาในภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่องSpyปี2015

 

 ถึงกระนั้น WRATH OF MAN ก็ท้าทายให้เจสันแสดงให้เห็นถึงตัวละครที่น่ากลัวอย่างยิ่งในบทพ่อผู้ต้องเผชิญกับความเศร้าโศกซึ่งรักษาระดับความสามารถของเขาในการนำทางไปสู่โลกแห่งอาชญากรได้อย่างไร้ที่ติ  เขาเป็นคนเย็นชา ฉลาด มีสมาธิและเต็มไปด้วยแรงผลักดัน” กายริตชี่กล่าวถึงตัวละครผู้ซึ่งจมดิ่งไปสู่ความหมกมุ่นแห่งการแก้แค้นในขณะค้นหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการฆาตกรรมลูกชายของเขา

 

 

 ถึงกระนั้น ความเจ็บปวดที่ผลักดันเขายังมีความสัมพันธ์กันอย่างสิ้นเชิง  ผมเห็นว่าเขาเป็นคนซับซ้อน เหนือกว่าสิ่งใดก็คือความเป็นพ่อ” เจสันมีลูกชายหนึ่งคนชื่อแจ็คกับโรซี่ฮันทิงตัน – ไวท์ลีย์ ภรรยาของเขา เจสันกล่าวว่า  แม้ว่าผมจะกลายเป็นพ่อคนค่อนข้างช้า แต่ผมก็รู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตหมุนรอบลูกของผม ดังนั้นการที่จะลบมันออกไปนั้นเป็นเรื่องน่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้  คุณสงสัยว่าคุณจะกลับมาเป็นปกติหลังการสูญเสียลูกได้อย่างไรเพราะดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย  นี่คือบทสนทนาที่ผมมีกับกายเกี่ยวกับตัวละครของผม

 

สายสัมพันธ์ที่กายและเจสันได้สร้างขึ้นในช่วงแรกๆของการทำงานร่วมกันได้รับการปรับใช้เป็นอย่างดี เนื่องจากพวกเขาแบ่งปันมุมมองเดียวกันทั้งตัวละครของเอชและตัวภาพยนตร์  แม้จะไม่ได้ทำงานร่วมกันมานานกว่าทศวรรษ แต่พวกเขาก็กลับเข้าสู่จังหวะจะโคนแห่งก ารสร้างสรรค์ที่มีประสิทธิภาพร่วมกันได้อย่างง่ายดาย เราทั้งคู่มาไกลกันมากตั้งแต่เริ่มทำงานร่วมกันเมื่อ20กว่าปีก่อน เจสัน กล่าว  สิ่งที่คุณอยากทำจริงๆในสถานการณ์เช่นนี้คือดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ แต่ความจริงก็คือมันไม่มีเลย ผมตกหลุมรักอาชีพนี้ด้วยลอตเตอรีที่กายเป็นคนมอบให้ภาพยนตร์เรื่อง Lock, Stock and Two Smoking Barrels”

“ เขาดูไม่แก่ขึ้นเลยสักนิดซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก กายริตชี่กล่าวเสริม  “ผมไม่รู้ว่าเขากำลังทำยังไง  เขายังคงมีร่างกายที่กำยำเหมือนเดิม

 

BULLET (Holt McCallany)

 ในการจะสร้างกลุ่มนักแสดงไฟแรงสูงรอบๆตัวเจสัน กายริตชี่ จึงหันไปหาผู้ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งที่มีผลงานในปัจจุบัน ผู้โดดเด่นคือ ฮอลท์ แม็คคัลลานีย์ ซึ่งล่าสุดเห็นได้ในผลงานที่ได้รับรางวัลเรื่อง Mindhunter FBI ของ David Fincher  โฮล์ท รับบทบุลเล็ท อดีตทหารและพนักงานของFortico Securitiesผู้ชื่นชอบเอช  ด้วยความมุ่งมั่นที่จะแสดงให้น้องใหม่เห็น บุลเล็ทแนะนำเอชแก่ลูกทีมคนอื่นๆและเป็นพันธมิตรกับเขาเพื่อช่วยให้เขาเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดการประจำวันของรถบรรทุกหุ้มเกราะของบริษัท  โดยทั่วไปเขาเป็นคนเปิดเผยและชอบอยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่เขาไม่พอใจกับชีวิตและโอกาสของเขานับตั้งแต่ออกจากกองทัพ โฮลท์กล่าวถึงตัวละครนี้

 

โฮลท์ชอบบทของบุลเล็ททันที โดยเขาสังเกตเห็นว่าตัวละคร มีเสน่ห์และรักสนุก” พร้อมกับมี อารมณ์ขันที่ดี  แต่เขายังรู้สึกเชื่อมโยงกับดาราภาพยนตร์แอ็คชั่นรุ่นเก๋าคนหนึ่งที่มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างลึกซึ้ง

 

ตอนผมเป็นเด็ก นักแสดงคนโปรดของผมคือSteve McQueen ” โฮลท์กล่าว  แม่ของผมเป็นนักแสดงที่เคย[ทำงาน]กับภรรยาคนแรกของเขา เธอชื่อนีล อดัมส์  พวกเขาจะมาหาผมเป็นครั้งคราวและผมจะได้พบกับสตีฟ ผมคิดว่าสตีฟเป็นนักแสดงที่เจ๋งที่สุดในโลกและภาพยนตร์เรื่องBullittของเขาเป็นเรื่องที่นักวิจารณ์มักกล่าวว่าสามารถถ่ายทอดคุณภาพของดาราได้มากกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นใด ในใจของผมผมอ่านบทนี้และคิดว่ามันเป็นการแสดงความเคารพต่อสตีฟ แม็คควีน

 

ในตอนแรกทั้งเอชและบุลเล็ทไม่รู้ว่าอีกฝ่ายปฏิบัติการอย่างมีวาระลับส่วนตัว แม้ว่าบุลเล็ทจะเริ่มเก็บงำความสงสัยเกี่ยวกับคู่หูคนใหม่ของเขาหลังจากที่พวกเขาพบกลุ่มโจรที่วางแผนจะขโมยเงินสดจากรถหุ้มเกราะที่ทั้งคู่ขับ

 

 “บุลเล็ทชื่นชมและนับถือเอชเป็นอย่างมากเพราะเห็นได้ชัดว่าเอชเป็นคนที่มีความสามารถมาก” โฮลท์กล่าว  เมื่อเขาขัดขวางแผนการโจรกรรม บุลเล็ทจะได้เห็นไม่เพียงแค่ความสามารถของเอชในฐานะนักสู้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมีไหวพริบและวิธีที่เขาตอบโต้ภายใต้แรงกดดันที่น่าประทับใจมาก  แต่ในขณะเดียวกันสิ่งนี้ก็ทำให้บุลเล็ทเริ่มสงสัยในตัวเอชเล็กน้อย ว่าเหตุใดคนที่เก่งรอบด้านเช่นนี้ที่จึงมาทำงานรักษาความปลอดภัยที่มีค่าตอบแทนต่ำนี้?  บุลเล็ทเริ่มถามตัวเองว่าที่จริงแล้วเอชมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็นหรือเปล่า

 

JACKSON (Jeffrey Donovan)

ฮีโร่ทุกคนต้องการคู่ปรับที่คุ้มค่า  ในWRATH OF MAN ตัวละครนั้นคือแจ็กสันที่แสดงโดยเจฟฟรีย์ โดโนแวน  แต่แจ็คสันไม่ใช่คนเลวแบบในหนังทั่วไป เขาเป็นทหารผ่านศึก เป็นสามี และเป็นพ่อลูกสองที่หมดหวังในการหาเลี้ยงชีพเพื่อดูแลครอบครัวของเขาแต่ก็ไม่อะไรเหลือให้เขาทำ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องขอบคุณโครงสร้างเรื่องที่แหวกแนวและเปลี่ยนมุมมองด้านตัวตนของแจ็คสันและแรงจูงใจของเขา ไปจนถึงการแสดงสมทบของเจฟฟรีย์ในภาพยนตร์เรื่องนี้

 

การหยุดรบที่แย่ในอัฟกานิสถานทำให้เขาถูกปลดออกจากกองทัพอย่างน่าอับอายซึ่งหมายความว่าเขากลายเป็นอาชญากรและไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้” เจฟฟรีย์อธิบาย เขาเป็นที่รู้จักของผู้ชมสำหรับบทบาทของเขาในภาพยนตร์ปี2020เรื่องLet Him Go รวมทั้งในซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องFargoและBurn Notice  “เขาต้องหาทางเลี้ยงชีพไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามที่เขาทำได้  เขาเป็นทหารผู้มีทักษะสูง แต่มันมีไม่กี่งานสำหรับทหารที่ไร้อาวุธ  ดังนั้นเขาจึงมีความคิดที่จะปล้นรถบรรทุกเงินสดเพราะเขาคิดว่ามันเป็นอาชญากรรมที่ไม่มีเหยื่อสูญเสียชีวิต

 

เพื่อช่วยให้แผนการสำเร็จ เขาจึงเกณฑ์ทหารจำนวนมากที่เขาเคยเป็นผู้นำในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในตะวันออกกลาง  ทหารเก่าเหล่านี้ล้วนเคยร่วมปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเดียวกัน” เจฟฟรีย์กล่าว  แจ็คสันเป็นจ่าฝูงของพวกเขา ทุกคนจะทำทุกอย่างเพื่อเขาและเขาจะทำทุกอย่างเพื่อทุกคนในกลุ่มเช่นกัน  พวกเขาไม่ต้องการฆ่าใคร  พวกเขาไม่ต้องการทำร้ายใคร  พวกเขาแค่พยายามหาเลี้ยงครอบครัว  นี่คือรถบรรทุกเงินสดที่มีประกัน [คนในทีมแจ็คสันทุกคนมองว่า]เป็นแค่การเอาเงินจากธนาคาร  พวกเขาจะได้เงินคืน

 

อาชญากรทุกคนคิดว่าพวกเขาไม่ใช่อาชญากร และแจ็คสันก็ไม่ต่างกัน” เจฟฟรีย์กล่าวต่อ  ผมคิดว่าเขามีเกียรติมากกว่าคนส่วนใหญ่จากวิธีที่เขาปฏิบัติต่อลูกทีมและปฏิบัติต่อเหยื่อในการปล้น  แต่แผนการที่ดีใดๆก็ล้วนอาจมีข้อผิดพลาดได้อย่างน่ากลัวและเดิมพันก็สูงขึ้นไปอีก เขาต้องเร่งเกมของเขา และนั่นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้น

 

BOY SWEAT DAVE (Josh Hartnett)

Boy Sweat Dave เป็นหนึ่งในตัวละครเสริมที่เพิ่มสีสันในบรรดาพนักงานของFortico โดยเป็นชื่อเล่นที่ยากจะลืมเลือนที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้  สิ่งที่ผมสังเกตเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์ทุกเรื่องของกายก็คือ ผู้คนมักจะใช้ชื่อของกันและกันบนหน้าจอเยอะมาก ดังนั้นชื่อจึงต้องน่าจดจำ” โจช ฮาร์เนตนักแสดงนำเสนอ  ผมชอบชื่อนี้ ผมว่ามันตลกดี  นั่นคือหนึ่งในเอกลักษณ์ของภาพยนตร์ของกายริตชี่

 

แม้ว่าโจชจะไม่เคยร่วมงานกับกายริตชี่มาก่อน แต่เขาก็คุ้นเคยกับภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นมามากโดยได้แสดงในภาพยนตร์เช่น Black Hawk Down และ Sin City ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา  เขาจึงค้นพบจุดของตัวเองในWRATH OF MANได้อย่างง่ายดาย  เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจต่อเอช แต่เขาเป็นคนที่อาจจะติดตลกเกินกว่าที่จะจริงจัง” นักแสดงหนุ่มกล่าวถึงตัวละครของเขา เพื่อทำให้คนอื่นตกใจ เขาขู่มากกว่าที่จะกัด และเห็นได้ชัดว่าเอชไม่ตอบสนองต่อสิ่งนั้น  นั่นคือสาเหตุที่Boy Sweatถูกคุมให้อยู่เบื้องหลัง

 

 เพื่อให้สวบบทได้สมจริงมากขึ้น โจชได้คิดค้นเรื่องราวพื้นหลังให้ตัวละครBoy Sweat Daveเป็นเวลานานก่อนที่การถ่ายทำจะเริ่มขึ้น  ความคิดของผมเกี่ยวกับเดฟคือเขาอยากเป็นทหารแต่ไม่สามารถเป็นได้ด้วยเหตุผลมากมาย ส่วนใหญ่เป็นเพราะนิสัยใจคอของเขา” โจชกล่าว  จากนั้นเขาก็ย้ายไปยังลอสแองเจลิสเพื่อเป็นนักแสดงและเขาก็พบว่าตัวเองก็ไม่ได้เก่งกาจเช่นกัน    เขาคิดว่าเขาสามารถใช้ทักษะทั้งสองด้านดังกล่าวในงานเช่นนี้ ซึ่งเขาจะแกล้งทำเป็นว่าเขาแข็งแกร่ง แต่จริงๆแล้วเขาเป็นเด็กที่เติบโตมาโดยไม่มีพ่อ ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองให้ทุกๆคนเห็น

 

DANA (Niamh Algar)

ดาน่าเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ทำงานในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยผู้ชายของFortico แต่มันเป็นสภาพแวดล้อมที่เธอเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าได้สบายๆ ตามมุมมองของNiamh Algar นักแสดงหญิงชาวไอริช(จากเรื่องRaised by Wolves)  “ฉันคิดว่าดาน่าเป็นผู้หญิงในโลกของผู้ชายมาตลอด” อัลการ์กล่าว  สำหรับฉันฉันสร้างเรื่องราวภูมิหลังนี้ขึ้นมาโดยที่ว่าเธอเติบโตมากับพี่น้องผู้ชายมากมาย ด้วยเหตุนี้เธอจึงสามารถรับมือกับหนุ่มๆทั้งหมดในทีมได้  เธอเป็นคนเข้มแข็งและรวดเร็วและให้คืนได้มากเท่าที่เธอได้รับ  เธอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มนี้ แม้ภายนอกเธอดูแข็งแกร่ง แต่ภายในเธอค่อนข้างบอบบางและแตกร้าว

 

เมื่อเอชเข้ามา เธอรู้สึกถูกดึงดูดเข้าหาพนักงานขับรถคนใหม่คนนี้ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับพลิกผันโดยไม่อาจคาดเดาได้  ตอนที่เอชเข้ามาร่วมทีมเป็นครั้งแรก มันเหมือนกับว่าเขาเป็นของเล่นชิ้นใหม่ที่จะเล่นด้วย” อัลก้ากล่าว  เธอเห็นหนุ่มชาวอังกฤษคนนี้และค่อนข้างชอบเขามากทีเดียว  ฉันคิดว่าเธอรู้สึกทึ่งที่ได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขาเพราะเขาค่อนข้างลึกลับและเงียบๆ  เธอพัฒนาความสัมพันธ์กับเขาจนกลายเป็นความโรแมนติกและจากนั้นก็ค้นพบอะไรอีกมากมายเกี่ยวกับตัวเขาที่เธอไม่อยากจะได้รู้

 

JAN (Scott Eastwood)

มีคำเดียวที่จะอธิบายบทแจนในแบบของสก๊อต อีสต์วูด นั่นคืออันตราย” นักแสดงกล่าว  เขาอันตรายมาก  เขาเป็นคนหัวร้อนที่คาดเดาไม่ได้

 

แจนเป็นสมาชิกที่น่าเชื่อถือน้อยที่สุดในทีมของแจ็คสันอย่างไม่ต้องสงสัย เขาหิวโหยความมั่งคั่งและสถานะ ซึ่งเป็นลักษณะที่สก๊อตเลือกที่จะเน้นผ่านรูปลักษณ์ที่สร้างขึ้นสำหรับตัวละคร  ผมอยากให้แจนเป็นคนฉูดฉาด หลงใหลในรูปลักษณ์ของตัวเองและสิ่งต่างๆในสิ่งของตนและทุกๆสิ่ง” นักแสดงซึ่งเป็นที่รู้จักจากบทบาทของเขาในภาพยนตร์เช่น Pacific Rim: Uprising, The Fate of the Furious และ Fury กล่าว  กายอยากทำให้ผมดูลุยๆขึ้นอีกหน่อย เราจึงตัดสินใจทำแผลเป็นเทียมและคอนแทคเลนส์ที่วาดลายโดยเฉพาะเพื่อสร้างดวงตาสีน้ำนมที่ผมใส่ตลอดทั้งเรื่อง

 

 

สก๊อต อีสต์วูดรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้แสดงฉากผาดโผนอันน่าทึ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการ มันเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น  ที่เราวิ่งไปรอบๆถือปืนยิงคน สู้กับทั้งคนเลวและคนดี  ผมเป็นคนที่ค่อนข้างกระตือรือร้นอยู่แล้วดังนั้นการแสดงผาดโผนจึงเป็นเรื่องสนุกสำหรับผม  ผมคิดว่านั่นอาจเป็นจุดที่ผมทำได้ดี

เช่นเดียวกับตัวละครทุกตัวที่ประดับอยู่บนจอในWRATH OF MAN แจนแทบจะไม่ได้เป็นนักเลงหัวไม้เลย แม้ว่าเขาจะมีส่วนร่วมในฉากกราดกระสุนของภาพยนตร์เรื่องนี้มากอยู่ก็ตาม  สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์ของกายริตชี่คือเขาชอบที่จะสำรวจโลกอาชญากรเช่นนี้ แต่ตัวละครทุกตัวมีข้อบกพร่องและประเด็นของตัวเอง” สก๊อตกล่าว  ทุกตัวละครล้วนต้องผ่านอะไรบางอย่างมา  คุณเชื่อมโยงกับตัวละคร  แม้ว่าบางตัวอาจเคยทำในสิ่งเลวร้ายที่คุณไม่อาจเข้าใจได้แต่คุณก็สามารถเชื่อมโยงได้กับบางส่วน  ซึ่งมันทำให้ภาพยนตร์น่าสนใจเพราะสิ่งต่างๆไม่ใช่ขาวหรือดำไปเสียทีเดียว

TERRY (Eddie Marsan)

ผู้จัดการคลังรถหุ้มเกราะ เทอรี่เป็นศูนย์กลางที่คนขับรถทุกคนพบปะ  เขาเป็นผู้กำหนดเส้นทางและตรวจสอบธุรกรรมต่างๆ และภายหลังการโจรกรรมที่เปิดเรื่องภาพยนตร์เรื่องนี้เขาคำนึงถึงความปลอดภัยมากขึ้นและกลัวว่าจะสูญเสียคนขับรถของเขาไปอีกคน” เอ็ดดี้ มาร์ซาน นักแสดงผู้มีประสบการณ์ในภาพยนตร์หลายเรื่องของกายริตชี มาจนถึงเรื่องSherlock Holmes ในปี 2009  “เอชก้าวเข้ามา และในตอนแรกดูเหมือนเขาจะมีประสิทธิภาพและสงบมาก แต่เทอร์รี่ตระหนักดีว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องนัก  เขาคิดว่าเอชนั้นอันตรายเกินไปในแง่ที่ว่าเขาจะไม่ทำตามขั้นตอนหากมีการโจรกรรม เขาจะพยายามต่อสู้กับพวกโจร  เทอร์รี่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะขัดต่อขั้นตอนและอาจทำให้เขาสูญเสียคนขับรถไปอีก

 

 

และแล้ว สัญชาตญาณของเทอรี่ก็ถูกต้องทั้งหมด แม้ว่าเขาจะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเอชก็ตาม เอชสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ในทางตรงกันข้าม เทอรี่ไม่ได้แสดงความเป็นชายชาตรีเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นอะไรที่โอเคกับเอ้ดดี้  ในภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยชายอฉกรรจ์เหล่านี้วิ่งไปมาในเสื้อเกราะกันกระสุน พนักงานชายในออฟฟิศขี้กังวลเป็นตัวละครที่น่าสนใจสำหรับผมที่จะเล่น” เขากล่าว

 

เกี่ยวกับการสร้าง

 

 แม้ฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้จะอยู่ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ แต่WRATH OF MANก็ถ่ายทำส่วนใหญ่ในกรุงลอนดอนโดยใช้โถงทางเดินย่านอุตสาหกรรมเป็นฉากแทนบริเวณเสาคอนกรีตในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักของแอลเอ อย่างไรก็ตามการถ่ายทำฉากภายนอกในแคลิฟอร์เนียเพื่อให้ภาพยนตร์มีความรู้สึกด้านสถานที่อย่างเหมาะสม  ซึ่งเป็นตัวเลือกที่สำคัญเนื่องจากกายกระตือรือร้นที่จะแน่ใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสมจริงมากที่สุดตั้งแต่สถานที่และปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ไปจนถึงจังหวะและท่วงท่าลของำดับการปล้น

 

เราต้องการทำออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือและมันก็เป็นไปได้อย่างที่เราต้องการ” กายริตชี่กล่าว  ตัวอย่างเช่นฉากผาดโผนในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ไม่ได้รับการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี  เราต้องการให้มันดิบและสมจริงในแง่ของการดำเนินเรื่องและวิธีการที่คนต่อสู้กันจริงๆ และไม่ให้มันออกมาดูเป็นบัลเล่ต์ที่ถูกออกแบบท่าเต้นเกินจินตนาการว่าผู้คนต่อสู้กันอย่างไร

 

 

  ก่อนที่การถ่ายทำหลักจะมีขึ้น กายได้รวมตัวนักแสดงทั้งหมดเพื่อซักซ้อมสดของทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นวิธีการที่เขาขนานนามว่า“Black Box”  คือแทนที่จะรวมตัวกันรอบโต๊ะและอ่านบท กายชอบแนวทางที่เน้นการเคลื่อนไหวมากกว่าเพื่อทำความเข้าใจว่าการถ่ายทำจะเป็นอย่างไร  ด้วยฉากและอุปกรณ์ประกอบฉากที่จำกัด นักแสดงจึงแสดงภาพยนตร์ทั้งเรื่องต่อหน้ากล้องในช่วงเวลาประมาณแปดชั่วโมงเพื่อให้เกิดภาพร่างคร่าวๆของทุกฉาก

สิ่งที่เราพยายามทำคือสร้างแผนงานที่ไม่ให้ชัดเจนเกินไป” กายกล่าว  ผมพยายามร่วมกับนักแสดงในวันนั้นเพื่อปรับปรุงบทสนทนาหรือเนื้อเรื่องให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  จากประสบการณ์ของผมมันจะดีขึ้นอีกประมาณ15% สิ่งนี้ทำให้เกิดความท้าทายในตัวนักแสดงมากขึ้นเพราะนักแสดงต้องเริ่มเรียนรู้การปรับใหม่นั้นๆอย่างรวดเร็ว  ซึ่งทำให้พวกเขาตื่นตัวและอาจทำให้ตกใจได้

 

  แม้ว่าโฮลท์จะยังใหม่กับกระบวนการกล่องดำนี้ แต่นักแสดงหนุ่มกล่าวว่าเขาพบว่ามันมีประโยชน์ในการกำหนดแนวทางของเขากับตัวละครบุลเล็ท และวิธีที่เขาจะทำงานร่วมกับผู้ร่วมแสดงคนอื่นๆในแต่ละฉาก  คุณได้โอกาสที่จะปูพล๊อตหนังส่วนใหญ่เกือบทั้งเรื่องหรือไว้ตั้งแต่เริ่มต้น โฮลท์กล่าว  บ่อยครั้งมากในกระบวนการถ่ายทำภาพยนตร์เราแค่ถ่ายทีละฉากอย่างละเล็กอย่างละน้อย คุณไม่เคยถ่ายทำซีเควนซ์ยาวๆทีเดียวหรือได้แสดงส่วนใหญ่ทั้งหมดในคราวเดียว  ดังนั้นจึงเปิดโอกาสให้คุณเห็นบุคลิกลักษณะของตัวละครในแบบที่แตกต่างจากที่คุณแค่ซ้อมอ่านบทก่อนการถ่ายทำที่โต๊ะตามมาตรฐาน แต่แบบนี้คือทุกอย่างถูกถ่ายทำไว้ทั้งหมด ดังนั้นมันจึงเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากการซักซ้อมช่วงแรกตามปกติอย่างมาก

 

 

อัลก่าเสริมว่า ถือเป็นการแนะนำที่ดีในการดูวิธีการทำงานของกาย โดยช่วยให้คุณเข้าใจได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำงานร่วมกับคุณอย่างไรในวันนั้น กายเปลี่ยนบทสนทนาบ่อยมากเพราะเขาได้ยินมันจริงๆ เขาเป็นคนที่มีสัญชาตญาณและเขาก็ทำตามสัญชาตญาณของเขา  หากบทฟังดูไม่โอเคนักเขาก็มีคำพูดอีกแบบที่คุณสามารถใช้แทนได้ทันที และนั่นก็เป็นสิ่งที่ใช้ได้เป๊ะเลย เขาไม่เหนี่ยวรั้งนักแสดงและนั่นเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก

 

การมีหูด้านภาษา/คำพูดที่ดีนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้กายริตชี่แตกต่างจากคนรุ่นราวคราวเดียวกัน  แม้ว่าผู้สร้างภาพยนตร์คนนี้จะทำงานในหลากหลายด้านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การสร้างภาพยนตร์จากหนังอินดี้งบต่ำไปจนถึงหนังสตูดิโอฟอร์มยักษ์บล็อกบัสเตอร์หนึ่ง ในช่องทางที่เชื่อมโยงโปรเจ็กต์ทั้งหมดของเขาคือการเล่นคำอย่างมีไหวพริบในตัวละครของเขา

 

 

 “มีความหลากหลายทางด้านภาษาที่มีอยู่มากในภาพยนตร์ของกาย ซึ่งผมชอบมาโดยตลอด” โฮลท์เสนอ  บางส่วนก็อาจค่อนข้างหยาบคาย  บ่อยครั้งที่ตัวละครล้อเลียนเสียดสีกัน แต่มันแสดงให้เห็นถึงวิธีที่ผู้ชายมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ใช้เรียกว่า ภาษาของผู้ชาย” นี่คือสิ่งที่กายเข้าใจจริงๆ

กายริตชี่ชอบฟังบทสนทนาไปพร้อมๆกับการประเมินการแสดงไปด้วยเมื่อกล้องหมุน  ภาพยนตร์ของเขามีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องต่อหน้ากล้อง  ทุกสิ่งที่ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถทำได้เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของตัวละคร วิธีที่พวกเขาเคลื่อนไหว วิธีการพูด สภาพแวดล้อมรอบตัว แม้แต่ตัวเนื้องเรื่องเอง  แต่แนวทางดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้นักแสดงและทีมงานมีทั้งความยืดหยุ่น ความมั่นใจ และความคล่องตัวในการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการใหม่ๆที่อาจเกิดขึ้นได้

 

กายทำงานในแบบที่ผมไม่เคยทำงานด้วยมาก่อน” โจช ฮาร์เนทกล่าว  เขาคิดไอเดียอยู่ตลอดเวลา  เขาเข้ากันกับสิ่งที่เขาอยากทำมาก  ผมเดาว่ามันเป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณสำหรับเขา เขามองหาการปลดปล่อยทางอารมณ์ในประสบการณ์การสร้างหนัง  เขานั่งคิดไอเดียในขณะที่เราทำงาน  ดังนั้นเมื่อคุณเดินเข้าในแต่ละวัน คุณจะไม่รู้เลยว่าคุณจะต้องทำอะไรบ้าง  ซึ่งผมชอบ  ผมชอบที่เราต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆในแต่ละวัน

 

 

สก๊อต อีสต์วูดเสริมว่า เขาเป็นผู้กำกับที่ไม่พล่ามมาก ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งและชอบมาก  เขาเป็นคนที่ทำให้งานเสร็จ ออกไปและลงมือทำ

 

เอ๊ดดี้ มาร์สันก็เห็นด้วยเช่นกัน เขากล่าวว่าเขารู้สึกซาบซึ้งกับอิสระที่มาพร้อมกับการทำงานในฉากที่มีพลังงานที่เกิดขึ้นในตัวเอง  มันสร้างสรรค์มากขึ้น” เขากล่าว  คุณรู้สึกใจเต้นกับกล้องมากขึ้นเพราะกล้องมีความอิสระยืดหยุ่นมากและเคลื่อนที่ไปรอบๆตัวคุณในทางที่ดี ถ้าคุณรู้สึกว่ามีการเคลื่อนกล้องไปกับคุณหรือคุณกำลังทำอะไรบางอย่างเพราะคุณรู้สึกได้ถึงเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่งที่จะมีต่อการถ่ายทำตรงนั้น นั่นเป็นเรื่องที่น่าสนุกสำหรับผมมาก  คุณแทบจะรู้สึกได้ถึงการตัดสินใจที่สร้างสรรค์ในฉากนั้นๆ

 

กายริตชี่เป็นคนแรกที่ยอมรับว่าเขาเรียกร้องความต้องการที่ไม่เหมือนใครจากนักแสดงของเขา เขาไม่มีอะไรเลยนอกจากการยกย่องนักแสดงWRATH OF MANของเขาทุกคน  พวกเขาทุกคนเป็นนักแสดงที่เปิดกว้างมาก” ผู้สร้างภาพยนตร์กล่าว  ผมต้องบอกคุณว่าผมสนุกกับการทำงานกับนักแสดงเหล่านี้มาก  พวกเขาทั้งหมดให้ความเคารพและเป็นมืออาชีพมาก”  ถึงแม้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การแสดงอย่างPost Malone ศิลปินนักร้องที่ได้รับรางวัลแกรมมี่ก็สร้างความประหลาดใจให้กับนักแสดงในWRATH OF MAN โดยเขาปรากฏตัวในฉากเผชิญหน้ากับเอชอย่างโดดเด่นในหนึ่งในฉากที่น่าจดจำที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้

 “โพสต์ มาโลนเป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา” กายริตชี่กล่าว  เขามีมารยาทที่ยอดเยี่ยม  เขาสุภาพอย่างไม่น่าเชื่อและเป็นมืออาชีพมากที่พร้อมจะทำงานล่วงเวลาโดยไม่บ่น  จริงๆแล้วนั่นคืออากาศที่บริสุทธิ์ให้กับทุกคนในกองถ่าย  ทุกคนต่างตกตะลึงกับความใจดีและยืดหยุ่นของเขา  เขามีความคิดสร้างสรรค์และทำงานร่วมกับทุกคนได้ดี  เขาคิดสร้างสรรค์ได้เองและแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

 สำหรับการทำงานกับเจสันเอง กายริตชี่กล่าวว่าไดนามิกในฉากของเขากับนักแสดงผู้นี้ยังคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลง ความร่วมมือของพวกเขาเป็นสิ่งที่เกิดจากความสนิทสนมกันและมิตรภาพที่เติบโตมาตลอดหลายทศวรรษ  ในความเป็นจริงแล้วพวกเขากำลังทำงานในโปรเจ็กต์ต่อไปด้วยกันซึ่งเป็นโปรเจ็กต์หนังสายลับของMiramax ที่จะรวมนักแสดงWRATH OF MANไว้ด้วย

 “เจสันกับผมมีความสัมพันธ์เช่นเดิมตลอด22ปีที่เรารู้จักกัน” กายริตชี่กล่าว  อย่าคิดว่าผมกับเจสันโกรธกัน  ผมไม่คิดว่าเราเคยพูดขัดกัน  เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผม  มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เจสันสามารถจัดการกับชีวิตของเขาได้อย่างชำนาญและเขามีสติปัญญาที่ยอดเยี่ยม  ผมเคารพเขาในฐานะนักแสดงและในฐานะมนุษย์คนหนึ่งอย่างแท้จริง

 เจสัน สเตแธมกล่าวเสริมว่า ถ้าทั้งหมดที่ผมทำมาตลอดอาชีพของผมคือการทำงานให้กับกายริตชี่ ผมกล่าวได้ว่าผมเป็นคนที่มีความสุขมากเลย