นักแสดงรุ่นใหญ่ ขวัญฤดี กลมกล่อม ที่วันนี้จะมาเปิดชีวิตในวงการบันเทิงกว่า 38 ปี พร้อมเล่าประสบการณ์เคยขึ้นหน้า1 มาแล้วเพราะประกาศแต่งงานฟ้าแลบกับพี่ปู อนุวัฒน์ พร้อมทั้งเคลียร์ประเด็นเป็นคุณแม่สุดหวงสแกนหนุ่มๆ ให้ลูกสาว น้องหยดน้ำ ซึ่งงานนี้คุณแม่ขวัญจะมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 38 ปีที่แล้ว เล่นเรื่องแรก เรื่องอะไร?
ขวัญฤดี : เรื่องตุ๊กตา แต่ไม่ใช่ผีนะ เป็นตุ๊กตาที่มาจากหนังสือการ์ตูน เป็นละครครอบครัว ผลตอบรับเรื่องแรกดีมาก แฟนคลับเยอะมาก เพราะเป็นละครตอนเย็น เป็นละครครอบครัว สมัยก่อนเขาเขียนจดหมายส่งมา พอละครออกไปได้สักระยะนึงจดหมายมาที่บ้านเยอะมาก
เห็นเขาบอกว่าถ้าเรียกขวัญต้อง ขวัญปานแดง เกิดอะไรขึ้น?
ขวัญฤดี : พี่ขวัญเป็นคนที่มีปานแดงมาตั้งแต่เกิด ทุกคนจะไม่ค่อยรู้ ซึ่งวันไหนพี่ขวัญไปกองหน้าเปลือย หน้าสด ทุกคนจะตกใจถามว่าไปโดนอะไรมา ทุกคนไม่ได้คิดว่าเป็นปานแดง นึกว่าแพ้เครื่องสำอางหรือโดนยุงกัด พี่บอกไม่ต้องตกใจเป็นมาตั้งแต่เกิดแล้ว พี่ไม่เคยคิดจะไปเอาออก เพราะคิดว่าเขาให้มา เราอาจจะได้อยู่วงการนี้ก็เพราะปายแดง
พี่ขวัญเป็นนางเอกยิ่งเล่น ยิ่งปัง ปังทุกเรื่อง เล่นละครที่เป็นนางเอกประมาณกี่เรื่อง?
ขวัญฤดี : เป็นนางเอก 10 กว่าเรื่องเอง
ช่วงนั้นกำลังพุ่งๆ เลย แล้วอยู่ดีๆ หยุดเล่นละครไปเลย เกิดอะไรขึ้น?
ขวัญฤดี : ก็ไปเจอเนื้อคู่ก็เลยได้ตกล่องปล่องชิ้น คือก่อนหน้าที่จะแต่งงานพี่ขวัญได้เป็นนางเองอยู่เรื่อยๆ จนเรื่องล่าสุด ดารายัณ ได้มาเจอกับพี่ปู อนุวัฒน์
สมัยก่อนเวลาคบกันเราต้องปิดบังไหม?
ขวัญฤดี : ไม่เลย พี่ขวัญกับพี่ปูนิสัยที่มันตรงกันอย่างนึงก็คือเป็นคนเปิดเผย คือถ้าคิดจะคบอย่าหลบๆ ซ่อนๆ
หลายคนช็อกอยู่ดีๆ ประกาศแต่งงาน?
ขวัญฤดี : ที่ช็อกไม่ใช่ประกาศแต่งงานนะ ที่ช็อกเพราะว่าได้ขึ้นหน้า1 ไทยรัฐ ขวัญฤดีท้องแล้วจ้า ในสมัยก่อนคนยังไม่ยอมรับเท่านี้ พี่ขวัญคิดว่าในเมื่อคนเรารักกัน ลูกของพ่อก็คือคนนี้ที่เราคิดจะเอาเป็นสามีในอนาคต ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เราไม่ใช่ท้องกับใครก็ไม่รู้
จะแต่งอยู่แล้วข่าวหลุดได้ยังไง?
ขวัญฤดี : พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลุดออกไปได้ยังไง เพราะตอนนั้นพี่ก็แพ้ท้องมาก ทำรายการอยู่ก็ต้องหนุด
เห็นตัวเองในหน้าหนังสือพิมพ์ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?
ขวัญฤดี : ดีใจ ตื่นเต้น พี่ปูดูอันนี้ได้ลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หน้า1
พอรู้ว่าท้อง ตอนนั้นตั้งใจไหม?
ขวัญฤดี : ก็ไม่ได้ตั้งใจ เขามาเอง พอรู้ว่าท้องไม่ตกใจนะ ดีใจมากกว่า พี่ขวัญคิดว่าอะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด แล้วเราไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แล้วมันเป็นชีวิตของเรา ที่จะสร้างครอบครัวขึ้นมา ถ้าใครว่าเราก็ไม่เป็นไร มันคือชีวิตของเรา แล้วเราก็รู้ว่าเรารับผิดชอบตัวเองได้
เห็นบอกว่ามีสตอรี่วันวาเลนไทน์เป็นยังไง?
ขวัญฤดี : เอาตอนเป็นแฟนกันก่อน เป็นแฟนกันวันวาเลนไทน์ เพิ่งจะได้เป็นแฟนกันหลังจากที่ตกลงกันแล้ว วันนั้นไปถ่ายละครดารายัณนี่แหละ ขึ้นรถตู้เสร็จปุ๊บ พี่ปูก็เอาดอกไม้มาให้พี่ขวัญ เราก็หูยยย ในชีวิตไม่เคยมีผู้ชายให้ดอกไม้วันวาเลนไทน์เลย น่ารัก โรแมนติกมากเลยผู้ชายคนนี้ เขาให้พี่ขวัญเสร็จเขาบอกว่ามีผู้หญิงเอามาให้เขาอีกทีนึง แต่ด้วยความที่แกเป็นคนตรง ความรักอีกเหมือนกันทำให้มองเขาว่าตรงดีนะ เปิดเผยจัง พี่ก็เอาดอกไม้วางไว้บนรถตู้ พอถ่ายละครเสร็จรถตู้ก็มาส่งพี่ที่บ้าน พี่ลืมดอกไม้ไว้ในรถตู้ แล้วรถตู้ก็กลับไปรับแก๊งพี่ปู พี่ปู้ผ็นไม่เอาดอกไม้ลง จบ เจ๊ากัน
จริงไหมที่หลังจากมีน้องหยดน้ำ ชีวิตการเป็นนางเอกของพี่ขวัญก็จบลงตั้งแต่นั้น?
ขวัญฤดี : ถูกต้องค่ะ พอพี่ขวัญมีลูก มีครอบครัว จบสิ้นการเป็นนางเอกตั้งแต่นั้นมา พอเรามีลูกแล้ว ด้วยคาแรคเตอร์ของพี่ขวัญด้วยมั้งก็เลยไม่ได้เป็นนางเอกแล้ว
จากนางเอกเป็นคุณแม่ จิตใจเราเป็นยังไงบ้าง?
ขวัญฤดี : พี่ขวัญโอเคมาก เพราะพี่ขวัญก็คิดว่าเป็นวัฏจักรไม่วันนี้ก็วันหน้าเราก็ต้องลงมาเป็นบทแม่ พี่ขวัญไม่เปฌนไรเลย ถือว่าเราได้มีอาชีพในวงการที่เรารัก เรายังได้เป็นนักแสดง จะได้รับบทอะไรก็ตาม พี่ขวัญว่ามันก็มีความสำคัญ แล้วพอได้รับบทแม่ แฮปปี้มาก
ตอนรับบทแม่ตอนนั้นรู้สึกว่าอายุเราน้อยไปไหม 27 ?
ขวัญฤดี : พี่ขวัญไม่เคยคิดอะไรเลย ตอนนั้น มีแต่ความรู้สึกว่าได้ทำงาน มีผู้จัดมาจ้างเรา แสดงว่าเรายังมีคุณค่าอยู่ เรายังมีงานทพอยู่ แล้วกลับบ้านเลี้ยงลูก พี่ขวัญคิดแค่นั้นเอง ไม่เคยคิดน้อยเนื้อต่ำใจเลยจริงๆ
เห็นบอกว่าพี่ขวัญเป็นแม่บ้านเต็มตัว ดูแลบ้านเองทั้งหมด ทำอะไรบ้าง?
ขวัญฤดี : หมายถึงตอนหยุดไปเลี้ยงลูกใช่ไหม คือพี่ขวัญเลี้ยงลูกอย่างเดียว แม่บ้านก็มีคนทำ แต่ว่ามีพี่เลี้ยง พี่ขวัญไม่เคยปล่อยให้พี่เลี้ยงอยู่กับลูกสองคน
พี่ปูเป็นสายเปย์ เปย์ขนาดไหน?
ขวัญฤดี : เปย์ แบบเรียกป๋าได้ ตอนเป็นแฟนกันเขาก็พาพี่ขวัญไปนู่น ไปนี่ ไปเที่ยวเมืองนอก นางก็พาไปแบบกินดี อยู่ดี คือแบบสบาย
เห็นว่าคู่ของพี่ พอลูกเริ่มโต ทั้งพี่และพี่ปูกลับมาเล่นละคร จนไม่มีเวลา แล้วทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในชีวิตคั้งนึง?
ขวัญฤดี : ไม่ค่ะ พี่ชอบ แต่ก็มีเหมือนกัน แต่ก็เล่นๆ กัน คือพี่ปูเขาออกไปทำงาน พี่ขวัญก็ทำงาน พี่ปูก็ฝากแซวเจอนักแสดง หรือทีมงานในกองถ่าย ถ้าทีมงานนั้นได้มาเจอพี่ขวัญอีกเรื่องนึง เขาก็จะฝากบอกขวัญด้วยนะว่า สวัสดี คืออยู่ที่บ้านไม่ค่อยได้เจอกัน ประชดประชันอะไรอย่างนี้ แต่พอมีลูกเราเข้าใจกันว่าต้องทำงาน คือการแยกกันอยู่บ้างอะดี คือหมายถึงว่าเราต่างคนต่างใช้ชีวิต ไม่ตำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลา สำหรับคู่ของพี่ขวัญมันก็ทำให้อยู่กันได้
พี่ปูเลี้ยงลูก ลูกคุณหนูมาก น้องหยดน้ำถูกประคบประหงม?
ขวัญฤดี : ใช่ค่ะ พ่อเขาหวงลูกเขามาก ที่บ้านก็จะเลี้ยงหยดน้ำ เพราะหยดน้ำเป็นลูกคนเดียว เป็นหลานคนเดียวของทั้งบ้าน ประคบประหงมมากคือมีพี่เลี้ยงคอยประกบ โตจนป่านี้นางยังไม่ระวังตัวเอง เดี๋ยวก็เจ็บตีบเรื่อย เดี๋ยวก็ไปเดินเตะนู่น ชนนี่
เลี้ยงลูกพี่ขวัญกับพี่ปูใครดุกว่ากัน?
ขวัญฤดี : พี่ปูเลี้ยงลูกแบบใช้เหตุผล แล้วก็หลักการ แต่พี่ขวัญเลี้ยงลูกแบบใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งก็คนละแนวกัน
ทะเลาะกับหยดน้ำบ่อยที่สุดเรื่องอะไร?
ขวัญฤดี : เรื่องการแต่งตัว หยดน้ำเนี่ย นางเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่แบบเปรี้ยว ไม่ใช่พี่ขวัญเลยนะ นิสัยไม่เหมือนพี่ขวัญเลย เขาเป็นเด็กที่ชอบแต่งตัวสบายๆ  เขาก็จะใส่แบบเปิดๆ กางเกงขาสั้น เพราะนางขี้ร้อน แบบมันสั้นไปแล้ว ไปเดินห้างแม่ไม่ไปด้วยนะ ไปเปลี่ยน ลูกบอกว่าเดี๋ยวเอาไปเปลี่ยนที่รถ พอถึงห้างปุ๊บเห็นอีกทีทำไมไม่เปลี่ยน คือมันหลอกพี่ไง ในที่สุดเราก็ต้องปล่อยเลยตามเลยไป
แล้วลูกใส่ชุดว่ายน้ำแล้วคุณแม่ว่าไง?
ขวัญฤดี : ถ้าใส่ชุดว่ายน้ำพี่ขวัญรับได้ เพราะพี่ขวัญทันสมัยเหมือนกัน แต่หมายถึงเธอจะต้องไปถ่ายข้างหลังเป็นทะเล เธอต้องใส่ชุดว่ายน้ำที่ทะเลเท่านั้น พี่ขวัญบอกหยดน้ำว่าแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะ โอเคให้อภัยได้ไม่เป็นไร แต่จริงๆ พ่อเขาหวง พ่อเขาไม่อยากให้ลงในไอจี
เลี้ยงลูกยัวไง โดยเฉพาะเรื่องสแกนหนุ่มๆ?
ขวัญฤดี : อย่างแรกเลยเราให้ความใกล้ชิดลูก  มีอะไรให้เขามาปรึกษาเราได้ เพราะพี่ขวัญกับหยดน้ำเราไม่เคยมีความลับต่อกัน
เวลามีใครเข้ามาจีบหรือรู้สึกชอบใคร เขาจะเล่าให้เราฟัง?
ขวัญฤดี : เล่าๆ แล้วถ้าถึงจุดจุดนึงก็พาไปกินข้าวด้วยกัน แม่ไปกินข้าวด้วย พี่ก็อยากรู้เหมือนกันเขาเป็นใคร ที่ผ่านมาถ้าลูกชอบใคร รักใครพี่ก็โอเค ทำให้ลูกเรามีความสุข แต่ถ้าวันใดลูกเราไม่โอเค แล้วมาปรึกษาเรา นั่นแหละพี่จะเริ่มสแกนละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่เขาสองคนว่าจะคบกันเวิร์กหรือไม่เวิร์ก ส่วนพี่ปูเขาก็หวง เขาก็มีท่าของเขา ซึ่งทำให้หนุ่มๆ ก็กลัวเหมือนกัน พี่ปูเหมือนฝรั่งเปิดใจกว้าง ลูกชอบใครก็ชอบด้วย แต่หนุ่มๆ ที่จะเข้ามส บอกอย่างแรกเลย จะต้องมีความจริงใจ เป็นคนที่ทำมาหากิน อาชีพสุจริต แล้วก็มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน อันนี้แหละพี่ขวัญถึงโอเค
เคยเห็นลูกมีน้ำตาเพราะหนุ่มๆ ไหม?
ขวัญฤดี : ไม่เคย หยดน้ำจะมีน้ำตาก็ต่อเมื่อโดนพ่อดุ
เห็นว่ามีหนุ่มในอินสตาแกรม คุณแม่ไฟเขียวไหม?
ขวัญฤดี : เขียวตั้งนานแล้ว เขาทำให้ลูกเรามีความสุข แล้วเขาก็เป็นคนจริงใจ เป็นคนดี อย่างที่พี่ขวัญบอกคุณสมบัติไป เขาทำให้ลูกเรามีความสุขได้เราก็โอเค เป็นคนดี โอเค พี่ขวัญไม่ว่าเลย เพราะถือว่าเป็นชีวิตของเขา จากนั้นก็ให้เขาเรียนรู้กันไปเอง ก็โอเค ลูกมีความสุข แม่ก็มีความสุขด้วย
ตอนนี้วางแผนอนาคตลูกไว้ยังไง?
ขวัญฤดี : พี่ไม่ได้วางแผน เขาวางแผนของเขาเอง พี่ได้แต่ซัพพอร์ตและให้คำแนะนำ

ติดตามรายการ “คุยแซ่บShow”  ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ขวัญฤดี กลมกล่อม

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ