กรุงเทพฯ 10 พฤษภาคม 2561 – เนื่องในโอกาสวันหืดโลก (World Asthma Day) ในช่วงเดือนพฤษภาคม ฟิลิปส์ ตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหอบหืด โดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากภูมิแพ้ และรณรงค์ให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญการดูแลสภาพอากาศภายในบ้านเพื่อป้องกันให้ห่างไกลจากโรคหอบหืดและภูมิแพ้ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ต้องทนทุข์ทรมานจากโรคหอบหืดทั่วโลกถึง 334 ล้านคน และคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าอีก 100 ล้านคนภายในปี พ.ศ. 2568[2]ในขณะที่ในประเทศไทยคาดว่ามีผู้ป่วยโรคหอบหืดประมาณ 3 ล้านคน เสียชีวิต 1,000 คนต่อปี และพบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 จากประชากรทั้งหมด[3]

โรคหอบหืด (Asthma) คือ โรคของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเกิดจากการหดตัวหรือตีบตันของช่องทางเดินหายใจ ทำให้อากาศเข้าสู่ปอดน้อยลง แท้จริงแล้วเป็นผลจากการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก ไอ มีเสมหะที่เหนียวออกมามาก โดยเฉพาะเมื่อหายใจออกเกิดอาการเหนื่อยเวลาหายใจ เมื่ออาการหอบเพิ่มขึ้นเวลาหายใจจะมีเสียงดังวี้ดๆ เมื่อเป็นมากขึ้นจะเหนื่อยจนไม่สามารถหายใจเข้าออกได้ อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันได้[4]

โรคหอบหืดส่วนมากนั้นจะเริ่มเป็นตั้งแต่เด็กๆ โดยนับเป็นโรคเรื้อรังที่พบมากที่สุดในเด็ก ตรวจวินิจฉัยได้ยาก และมักพบเมื่อเด็กมีอายุเกิน ปีไปแล้ว เด็กกว่าร้อยละ 80 มีอาการหอบหืดจากภูมิแพ้[5] ซึ่งถูกกระตุ้นโดยสารก่อภูมิแพ้ เช่น สปอร์ เชื้อรา ขนสัตว์ ไรฝุ่น และละอองเกสรดอกไม้ต่างๆ รวมถึงอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5แบคทีเรีย ไวรัส การเปลี่ยนแปลงของความชื้นในอากาศและอุณหภูมิที่มาจากการทำกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน เช่น การทำอาหาร การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง การตกแต่งบ้านด้วยพรมและดอกไม้ เป็นต้น

นายแพทย์ Chiang Wen Chin ประธาน สมาคมโรคหืดและโรคภูมิแพ้ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า การรักษาคุณภาพอากาศภายในบ้านมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยลดสารกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้ มลพิษ และความชื้นในอากาศ ที่ทำให้อาการหอบหืดในเด็กกำเริบได้ ถึงแม้เราจะไม่สามารถควบคุมมลพิษในอากาศภายนอกบ้านได้ แต่พ่อแม่สามารถเริ่มจัดการกับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ดีขึ้นได้

ด้าน นางสาวสิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจ Personal Health บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลายๆ คนให้ความสำคัญกับเรื่องมลพิษทางอากาศภายนอกบ้าน โดยลืมคิดไปว่าจริงๆ แล้วเราใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในบ้านมากกว่า และจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ว่าอากาศในบ้านของเราอาจมีมลพิษมากกว่าอากาศภายนอกถึง 2-5 เท่าโดยกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ และอาการของโรคหืดหอบให้กำเริบได้ หรือแม้กระทั่งเมื่อใดคุณเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ก็อาจนำสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ และอนุภาคที่เล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) เข้ามาในบ้านของคุณได้ หรือสิ่งของตกแต่งภายในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ อาจปล่อยก๊าซและสารระเหยTVOC ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้เช่นกัน สำหรับผู้ปกครองที่ลูกได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหอบหืดต้องประสบกับภาวะความเครียดและความกังวลเป็นอย่างมาก อีกทั้งอาการหอบหืดเรื้อรังจะทำให้เด็กเกิดอาการนอนไม่หลับ รู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวัน และขาดเรียนบ่อย ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำของเด็กๆ ด้วย

ดังนั้น ฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เราตอกย้ำแนวคิดในการนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เราจึงมุ่งมั่นที่จะร่วมให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคหอบหืดและภูมิแพ้ พร้อมทั้งสนับสนุนให้คนไทยหันมาใส่ใจการดูแลสภาพอากาศภายในบ้าน ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier Series 3000i  มีระบบกรองอากาศสามารถดักจับอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.7% ซึ่งเป็นขนาดทั่วไปของสารก่อภูมิแพ้ อนุภาค แบคทีเรียและไวรัส พร้อมจับมือกับแอพพลิเคชั่น Air Matters ที่สามารถตรวจวัดมลพิษ เก็บข้อมูลย้อนหลัง และแสดงผลให้ผู้ใช้สามารถวัดได้ว่าค่ามลพิษสูงถึงระดับใดเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นอาการภูมิแพ้และหอบหืด เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้สูดอากาศบริสุทธิ์ และสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น นางสาวสิริวรรณ กล่าวเพิ่มเติม

เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier Series 3000i โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี AeraSense ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับอนุภาคในอากาศ พร้อมแสดงผลระดับคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และมาพร้อมโหมดการปรับตั้งค่าอัตโนมัติ Allergen Mode  ที่จะตรวจจับและเมื่อพบการเพิ่มขึ้นของสารก่อภูมิแพ้ จะทำการเร่งความเร็วลมของเครื่องฟอกอากาศแบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้ทันที สามารถใช้งานได้กับห้องที่มีขนาดสูงสุด 95 ตร.ม.2 เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier Series 3000ไม่เพียงแต่สามารถลดสารก่อภูมิแพ้เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดกลิ่น สารอินทรีย์ระเหยต่างๆ หรือ แม้กระทั่งแบคทีเรียบางชนิด ผ่านระบบฟอกอากาศVitaShield IPS  เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์ ราคา 26,900 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ ศูนย์ข้อมูลผู้บริโภคฟิลิปส์ โทร. 02-614-3340 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ฟิลิปส์ได้ที่ www.philips.co.th หรือเฟซบุ๊ก www.facebook.com/philipsthailand

###

 

*ค่าจริงคืออัตราส่วน 1.62-6.37 ระหว่างภายใน/ภายนอกอาคารสำหรับเดือนในฤดูร้อน และ 2.05-10.99 สำหรับเดือนในฤดูหนาว ข้อความและรูปมาจากT. Salthammer Angewandte Chemie Int. Ed. 52, (2013), 3320 ข้อมูลเดิมจากB. Wang et al. / Atmospheric Environment 41 (2007)2851–2861

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ

ฟิลิปส์