“๙ ศาสตรา”

อำนวยการสร้างโดย EXFORMAT FILMS

จัดจำหน่ายโดย บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด

ประเภทภาพยนตร์ แอนิเมชั่นเรื่องยาว

แนวภาพยนตร์ แอคชั่น ผจญภัย แฟนตาซี

กำหนดฉาย 11 มกราคม 2561

นักแสดงผู้ให้เสียงพากย์

กนกฉัตร มรรยาทอ่อน (ไต้ฝุ่น KPN) พากย์เสียง อ๊อด

วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ “ เทหะยักษา

สาวิตรี สุทธิชานนท์ (โบว์ AF5) “ เสี่ยวหลาน

รัชพล แย้มแสง (มิวสิค AF4) “ วาตะ

ศิริชัย เจริญกิจธนกุล “ อสูรสีชาด

นิมิตร ลักษมีพงษ์ “ พรานทมิฬ

สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ “ หลวงพ่อสิน

ควบคุมการสร้างฝ่ายบริหาร ศิโรตม์ เสตะพันธุ, อภิเษก วงศ์วสุ

ควบคุมการสร้างฝ่ายผลิต ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์

ผู้กำกับภาพยนตร์ ณัฐ ยศวัฒนานนท์, กันย์ พันธ์สุวรรณ

บทภาพยนตร์ ณัฐ ยศวัฒนานนท์ และ ศุภชัย เหรียญสุวรรณ

เพลงประกอบภาพยนตร์ เพลง ท้า โดย วงสล็อตแมชชีน

ชื่อภาพยนตร์ ชื่อไทย “๙ ศาสตรา” (เก้าศาสตรา)

ชื่อภาษาอังกฤษ THE LEGEND OF MUAYTHAI : 9 SATRA

(เดอะ เลเจนด์ ออฟ มวยไทย ไนน์ศาสตรา)

แนวทางนำเสนอ

“๙ ศาสตรา” เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นขนาดยาว เรื่องแรกของบริษัท EXFORMAT FILMS (เอ็กซ์ฟอร์แมท ฟิล์มส์) ที่นำเสนอในแนวแอคชั่น ผจญภัย แฟนตาซี ฉีกรูปแบบของแอนิเมชั่นสัญชาติไทยที่เคยมีมา โดยทีมงานมืออาชีพในวงการแอนิเมชั่นทั้งในไทยและฮอลลีวู้ดกว่า 200 คน ใช้เวลาดำเนินการสร้างกว่า 4 ปี ทุนสร้างมากกว่า 200 ล้านบาท เรื่องราวในโลกที่มีการอยู่ร่วมกันของ คน ยักษ์ อสูร ลิงฯ ดำเนินเรื่องด้วยความตื่นเต้น สนุกสนาน เอฟเฟกต์ตระการตา แต่ยังคงความซาบซึ้งในความสัมพันธ์ของตัวละคร มีการออกแบบลีลาการต่อสู้ ด้วยศิลปะการต่อสู้ ทั้งมวยไทยและการใช้อาวุธต่าง ๆ ในศึกระหว่างฝ่ายอธรรมที่ทรงพลัง กับฝ่ายธรรมะที่ต่อสู้โดยอาศัยพลังความสามัคคีและพลังใจของนักรบอย่างแท้จริง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดต่างประเทศ โดยเบื้องต้น เดอะ ไวน์สตีน คอมพานี (The Weinstein Company) ได้เจรจาขอซื้อสิทธ์จัดฉายไปทั่วโลก แต่ทางบริษัทมีปัญหาภายในเสียก่อน จึงได้ถอนตัวออกมาและอยู่ในระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรรายใหม่ ส่วนในประเทศจีน ทาง บริษัท เรียลลีกู๊ดฟิล์ม (Really Good Film) ที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทภาพยนต์ยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน โบน่า ฟิล์ม (Bona Film Group) ได้เจรจาจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศจีนกันเรียบร้อยแล้ว

เนื้อเรื่องภาพยนตร์ “๙ ศาสตรา”

“๙ ศาสตรา” เป็นเรื่องราวการผจญภัยของ อ๊อด เด็กหนุ่มที่ชะตาลิขิตให้เป็นส่วนหนึ่งในการกอบกู้อาณาจักร รามเทพนคร แผ่นดินเกิดของเขาให้รอดพ้นอำนาจของ เทหะยักษา เจ้าแห่งยักษ์ผู้เข้ามายึดครองอาณาจักร และก่อความทุกข์เข็ญให้กับเหล่าประชาชน ซึ่ง อ๊อด ได้ฝึกฝนเคี่ยวกรำ ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มวยไทย ที่เคยหายสาบสูญไป จากครูมวยอันดับหนึ่งของแผ่นดิน โดย อ๊อด มีภารกิจอันยิ่งใหญ่ ในการนำสุดยอดศาตราวุธ ๙ ศาสตรา ไปมอบให้องค์ชายรัชทายาทแห่ง รามเทพนคร เพื่อใช้ในการกอบกู้อาณาจักร พร้อมกับพลพรรคเพื่อนพ้อง ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยวหลาน” โจรสลัดอากาศสาวงามชาวจีน พร้อมด้วยลิงทะโมน นามว่า “วาตะ” เจ้าชายแห่งอาณาจักรลิง รวมถึง “อสูรสีชาด” ยักษ์สีแดงร่างใหญ่ใจดี

อ๊อด และพรรคพวกจะสามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จอย่างไร เขาจะคว้าชัยชนะในศึกครั้งใหญ่กับกองทัพโหดทมิฬมหึมาของเหล่ายักษาได้หรือไม่ ใครคือวีรบุรุษที่จะมาช่วยปลดปล่อยประชาชนที่ตกเป็นทาสจากอำนาจมืดนี้ ติดตามได้ใน “๙ ศาสตรา” ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ยิ่งใหญ่ตระการตา และสนุกตื่นเต้นครบรสทุกอารมณ์

๙ ศาสตรา คืออะไร

๙ ศาสตรา เป็นอาวุธวิเศษในตำนาน เกิดขึ้นจากอุกกาบาตดาวหางสีเขียวมรกต ที่ตกลงมาครั้งกองทัพอสูรแผ่อำนาจปกครองมนุษย์ ผู้นำแห่งศรัทธาได้ใช้หนึ่งใน 9 ส่วนของดาวหางจัดการกับเหล่าอสูร แล้วรวบรวมส่วนที่กระจัดกระจาย มาสร้างเป็นศาสตราวุธ โดยใช้ช่างตีเหล็กยอดฝีมือ 9 คน และนักบวช 99 รูป ร่ายมนต์ทำพิธีตลอด 9 วัน 9 คืน เพื่อหลอมรวมเทหะวัตถุทั้ง 9 ให้กลายเป็นหนึ่ง โดยผู้ที่จะใช้ได้ต้องมีคุณสมบัติทั้ง 9 อันได้แก่ เชี่ยวชาญ, กล้าหาญ, เสียสละ, เข้มแข็ง, ปกป้อง, เมตตา, สติ, สมาธิ, ศรัทธา และผสานกับศาสตร์แห่งการต่อสู้ นั่นคือ มวยไทย ที่มีอาวุธสำคัญอยู่ 8 อย่าง คือ มือทั้ง 2 ข้าง เท้าทั้ง 2 ข้าง เข่าทั้ง 2 ข้าง และศอกทั้ง 2 ข้าง ประสาน 1 ดวงจิตแรงกล้า รวมกันเป็น ๙ ศาสตรา ศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ ที่มีพลังปกป้องบ้านเมือง

ตัวละครใน ๙ ศาสตรา

อ๊อด (Ott)

ให้เสียงพากย์โดย กนกฉัตร มรรยาทอ่อน (ไต้ฝุ่น KPN)

เด็กหนุ่มชาวรามเทพนคร มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน พ่อแม่ที่แท้จริงของอ๊อดเป็นช่างตีฆ้อง ในหมู่บ้านฆ้องเหล็ก ซึ่งถูกพวกยักษ์ที่มารุกรานเมืองฆ่าตาย อ๊อดได้รับการเลี้ยงดูจาก จมื่นพันธ์วรเดช ซึ่งเขาหลงคิดว่าชายผู้นี้คือพ่อแท้ ๆ มาโดยตลอด แต่ก็ยังสงสัยว่าทำไมพ่อถึงเย็นชากับเขานัก เพราะหลังจากทั้งคู่หลบหนีมาอยู่ที่หมู่บ้านนกแอ่น จมื่นพันธ์วรเดชก็คอยเคี่ยวเข็ญ ให้เขาร่ำเรียนวิชามวยไทยจากเฒ่าใบ้ และฝึกฝนสมาธิจากหลวงพ่อสิน จนมีวิถีชีวิตต่างจากเด็กทั่วไป

กระทั่งวันหนึ่งอ๊อดได้รู้ความจริง เขาจึงตั้งใจพัฒนาตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อรับหน้าที่แทนจมื่นพันธ์ ในการนำศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ไปมอบแก่องค์ชายรัชทายาท เพื่อกอบกู้รามเทพนครจากเหล่ายักษ์

เสี่ยวหลาน (Xiaolan)

ให้เสียงพากย์โดย สาวิตรี สุทธิชานนท์ (โบว์ AF5)

โจรสลัดสาวสวยชาวหมิง ผู้ทำหน้าที่ดูแลเรือเหาะทะยานเมฆแทนบิดา คอยปล้นสะดมกองเรือยักษ์ และช่วยเหลือทาสมนุษย์ที่ถูกจับ เชี่ยวชาญการใช้อาวุธระยะไกลซึ่งฝึกฝนมาจากเฒ่าฉ่อย ภายนอกนั้นเสี่ยวหลานดูห้าวหาญเด็ดเดี่ยว แต่ภายในนั้นกลับซ่อนความอ่อนไหวดั่งศิลปินไว้

เดิมนั้นเสี่ยวหลานเติบโตมาด้วยความรักที่จะเป็นนักดนตรี แต่เหตุการณ์แปรเปลี่ยน เมื่อเทหะยักษารู้ว่า ฟงเอ๋อ พี่ชายของนางนั้นเกิดใต้ฤกษ์คำทำนายว่าจะเป็นผู้กอบกู้รามเทพนครได้ จึงสั่งสมุนยักษ์มาชิงตัวไป การต่อสู้ในครั้งนั้นทำให้เสี่ยวหลานสูญเสียบิดาและมารดา เด็กสาวธรรมดาจึงต้องลุกขึ้นมาจับอาวุธ เพื่อช่วยพี่ชายที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน

วาตะ (Vata) / เจ้าชายวณราวาตะที่ ๓ แห่งราชวงศ์มณีโคต

ให้เสียงพากย์โดย รัชพล แย้มแสง (มิวสิค AF4)

วานรน้อย รัชทายาทแห่งของอาณาจักรมณีโคต อาณาจักรของลิงที่ถูกกองทัพยักษ์บุกเข้าโจมตี จากเคยใช้ชีวิตสุขสบายในฐานะเจ้าชาย วาตะจึงต้องระหกระเหิน ออกไปใช้ชีวิตเร่ร่อน ข้างถนนอย่างยากลำบาก ลักเล็กขโมยน้อยเพื่อความอยู่รอด และด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไวทำให้วาตะไม่เคยโดนจับได้ ซ้ำยังไม่มีใครรู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเขา

จนเมื่อวาตะเดินทางมาถึงเมืองนาคาวรรณ และได้พบกับอสูรสีชาด ผู้ที่เห็นกับตาว่าวาตะสามารถใช้เกราะแขนกลอาวุธแห่งอาณาจักรวานร ที่จะเปล่งพลังสูงสุด เมื่ออยู่กับผู้สืบเชื้อสายเท่านั้น จากนั้นทั้งคู่จึงได้ร่วมเดินทางไปยังรามเทพนครด้วยกัน โดยวาตะต้องการล้างแค้นพวกยักษ์ที่ทำลายเผ่าพันธุ์ของเขา

อสูรสีชาด/ยักษ์แดง (Red Asura)

ให้เสียงพากย์โดย ศิริชัย เจริญกิจธนกุล (ชัย)

ยักษ์สีแดงผู้มีความผิดแผกจากเผ่าพันธุ์ ไม่เพียงแต่นิสัยที่สุขุม รอบคอบ ชอบใช้ความคิดมากกว่ากำลัง หรือถนัดอ่านหนังสือมากกว่าสู้รบ และการศึกสงคราม แต่อสูรสีชาดยังหลงรักมนุษย์ จึงถูกขับไล่ออกจากผองยักษ์ แต่ยักษ์นอกคอกตนนี้ก็พยายามกลับไปยังรามเทพนคร เพื่อช่วยคนรักที่ถูกคุมขังไว้

ระหว่างทางอสูรสีชาดได้เจอกับวาตะ และ อ๊อด และด้วยความรอบรู้ของเขา ทำให้อสูรสีชาดกลายเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้

เทหะยักษา (Dehayaksa)

ให้เสียงพากย์โดย วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ (น๊อต)

เป็นเทพแห่งยักษ์ เดิมชื่อ ทารคา เป็นราชบุตรของ อนันตยักษา ผู้ปกครองนครคีรีกัณฑ์ แต่ถูกกาฬสูตรซึ่งเป็นยักษ์ต่างเมืองลอบโจมตี โดยใช้เชลยมนุษย์เป็นไส้ศึก บิดาของทารคาถูกฆ่าตาย เขาจำต้องหลบหนีออกจากเมืองพร้อมน้องชาย และเติบโตมาท่ามกลางภัยอันตราย ทั้งจากสัตว์ร้ายและมนุษย์ ที่คอยตามล่าเพราะชิงชังบิดาของเขา

เวลาผ่านไป บนเส้นทางแห่งการเข่นฆ่าเพื่อเอาตัวรอด ทักษะการต่อสู้ของทารคาพัฒนาถึงขั้นสูง ขณะเดียวกันความพยาบาทที่ฝังลึกในใจ ก็ทำให้ ทารคา กลายเป็นยักษ์ที่โหดเหี้ยม ดุร้าย ยากหาใครมาต่อกร ซึ่งยิ่งทำให้ทารคาหรือเทหะยักษาหลงใหลในอำนาจ ปรารถนาจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง โดยมีแม่หมอการ์ณีชา ยักษีชราเป็นผู้รับใช้

พรานทมิฬ (Black Jager)

ให้เสียงพากย์โดย นิมิตร ลักษมีพงศ์ (ดีเจบ๊อบบี้)

หนึ่งในเผ่าพันธุ์ทมิฬที่ยังคงหลงเหลือ มีพลังในการควบคุมสัตว์และมีพรสวรรค์ในการไล่ล่า จนวันหนึ่งเขาเห็นมารดาตายไปต่อหน้าต่อตา ความเจ็บปวดทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ รู้ตัวอีกครั้ง เขาก็กลายเป็นเครื่องมือล่าสัตว์ให้กับพวกนายพราน และถูกซื้อขายราวสิ่งของสู่มือสลัดอากาศ

เขาทำงานรับใช้ถวายหัวให้เจ้านายโจรสลัดมาเนิ่นนาน กระทั่งได้ล่วงรู้ความจริงว่า เจ้านายเขานั้น คือ คนที่ฆ่าแม่ของเขาอย่างเลือดเย็น ด้วยแรงแค้นทำให้เขาสังหารเหล่าโจรสลัดตายสิ้นทั้งกองเรือ เหล่ายักษ์ได้เห็นความสามารถนี้ จึงนำตัวเขามาถวายแด่เทหะยักษา จากนักล่าจึงกลายเป็นนักฆ่าที่เก่งกาจที่สุดที่กองทัพยักษ์เคยมีมา และได้ฉายาว่าพรานทมิฬ

การ์ณีชา (Geeza)

ให้เสียงพากย์โดย สุวรรณดี จักราวุธ (ลิง)

ยักษีชราผู้สามารถมองเห็นอนาคตได้ เคยทำงานรับใช้กาฬสูตรผู้ยึดครองกรุงคีรีกรรณต่อจาก อนันตยักษา แต่เมื่อคำทำนายของการ์ณีชา ไม่เป็นที่ถูกใจ คล้ายเป็นคำดูถูกบารมีอันยิ่งใหญ่ กาฬสูตรจึงขับไล่การ์ณีชาออกจากเมือง แม่หมอชราหนีมาสวามิภักดิ์กับเทหะยักษา คอยทำพิธีต่าง ๆ เพื่อต่อดวงชะตา และเตือนเทหะยักษา เกี่ยวกับการปรากฏของศาสตราวุธ