“มิเชล โหย่ว” นักแสดงหญิงและแอ็กชั่นสตาร์ที่ทั้งโลกให้การยอมรับ ด้วยการทุ่มเทอย่างเต็มที่กับงานแสดงจนทำให้ชื่อของเธอกลายเป็นนักแสดงแถวหน้าที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “บอนด์เกิร์ล” ใน “007 Tomorrow Never Dies” (1997), “ฮัตสึโมโม่” ใน “Memoirs of a Geisha” (2005), “อองซานซูจี” ใน “The Lady” (2011), คุณนายยัง” ใน “Crazy Rich Asians” (2018), “เจียง หนาน” ใน “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings” (2021) หรือผลงานที่ส่งชื่อของเธอให้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม บนเวทีบาฟต้า อวอร์ดส ปี 2001 จาก “Crouching Tiger, Hidden Dragon” (2000) และกำลังจะมีบทบาทสำคัญที่ตอกย้ำความดังของเธออีกครั้งในแฟรนไชส์ “Avatar” อย่างภาคต่อ “Avatar: The Way of Water” (2022)

          แต่ในเดือนพฤษภาคมนี้ ถึงเวลาเปิดฤดูกาลซัมเมอร์กับภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ชั้นดีด้วยผลงานแอ็กชั่นทะลุมิติเรื่องล่าสุดที่ “มิเชล โหย่ว” มาพลิกบทบาทครั้งสำคัญจากตัวแม่มาดคมสู่มนุษย์แม่เดินดินที่จะต้องกอบกู้จักรวาลในภาพยนตร์เรื่อง “Everything Everywhere All at Once ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส ซึ่งเธอรับบทเป็น “เอเวอลิน หวัง” หญิงชาวจีนที่อพยพมาตั้งรกรากอยู่ในอเมริกาและต้องแบกรับภาระทุกอย่างของครอบครัว ที่มันค่อยๆ กัดกร่อนตัวเธอให้กลายเป็นคนด้านชา และลามไปถึงความไม่ลงรอยกับลูกสาว “จอย” (สเตฟานี่ ซู) จนในไม่ช้าทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เมื่อเอเวอลินเริ่มออกผจญภัยสู่ความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุดของจักรวาลที่เรียกว่า “มัลติเวิร์ส” ที่ทั้งบิดเบี้ยวและอันตราย รวมถึงการเผชิญหน้ากับศัตรูลึกลับที่หมายจะกำจัดตัวเธอในจักรภพอื่นๆ ให้สิ้นซากลงอีกด้วย

          พร้อมกับได้ผู้สร้างภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอย่างสองผู้กำกับ “รุสโซ่ บราเธอร์ส” จาก “Avengers: Infinity War” (2018) และ “Avengers: Endgame” (2019) มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับแฟนหนังได้เลยว่าจะต้องออกมาสนุกและถูกใจผู้ชมในวงกว้างอย่างแน่นอน ภายใต้ฝีมือการกำกับของสองคู่หู “แดเนียลส์” (แดน ควานแดเนียล ชีเนิร์ต) จากหนังสุดเวียร์ดขวัญใจผู้ชมทั่วโลกเรื่อง “Swiss Army Man” (2016) ซึ่งรอบนี้พวกเขาตั้งใจนำเสนอเรื่องราว การเดินทางของฮีโร่‘ ที่ผู้ชมคาดหวัง โดยบีบอัดและขยายโครงสร้างสามองก์ของเรื่อง ผ่านการผจญภัยอันไร้ขอบเขตสู่โลกที่เป็นไปได้ไปทั้งหมดอย่าง “มัลติเวิร์ส” ด้วยเรฟเฟอร์เรนซ์ของภาพยนตร์ยุค 90‘s ที่ทั้งคู่ชื่นชอบ

          “เราดูเรื่อง The Matrix ของวาเชาว์สกี้และ Fight Club ของฟินเชอร์ที่นิวเบเวอร์ลี และผมก็ตกหลุมรักภาพยนตร์พวกนั้นอีกครั้ง” ควานเล่า “ผมรู้สึกแบบว่า ถ้าผมสามารถทำหนังที่สนุกได้สักครึ่งนึงของ The Matrix แต่ใส่ตราประทับและจิตวิญญาณส่วนตัวของเราลงไป ผมก็คงจะตายอย่างมีความสุขแล้ว” ควานจำได้ว่าได้รับแรงบันดาลใจของหนังส่วนใหญ่ล้วนมาจากฉากต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ของ “The Matrix” (1999) มันทำให้เกิดความรู้สึกที่หวนนึกถึงความรักในภาพยนตร์กังฟูของพวกเขา โดยควานตั้งข้อสังเกตด้านความแตกต่างคือ “เราไม่รักในความรุนแรง แต่เรารักหนังแอ็กชั่น ซึ่งมันมีบางอย่างที่สนุกสนานและลึกซึ้ง และเราอยากจะลองใช้พลังงานนี้สร้างภาพยนตร์ที่น่าพึงพอใจและชี้ไปที่ความรักและความเข้าใจ” ควานกล่าวต่อ  “เป็นอีกหนึ่งความท้าทายสนุกๆ ที่พวกเราชอบ เราไม่รู้หรอกว่าจะต้องทำยังไง แต่เราก็อยากเห็นมันบนหน้าจอพร้อมๆ กับคนดูครับ”

          เตรียมรับแรงกระแทกและมันส์ไปกับมัลติเวิร์สที่จะทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นหนึ่งเดียวพบสุดยอด “มิเชล โหย่ว” เธอคือความหวังเดียวที่จะกอบกู้ทั้งจักรวาล ในผลงานสร้างจากผู้กำกับ “Avengers: Endgame” ที่จะทะลุทุกมัลติเวิร์สให้ไกลขีดสุดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ “Everything Everywhere All at Once ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส ปักหมุดด่วน 12 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์ (ซับไทย)

M Pictures ภูมิใจเสนอ

Everything Everywhere All at Once – ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส”

12 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

#EverythingEverywhere #ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส