ผู้กำกับ: Kazuhito Nakae
นักแสดง
 Hidetoshi Nishijima
Seiyô Uchino
Kôji Yamamoto
ตลอดมาและตลอดไป ความรักจะอร่อยไม่เปลี่ยน

เรื่องย่อ

สร้างจากมังงะเรื่อง Kinou Nani Tabeta? ของ อ.ฟูมิ โยชินางะ

 

เรื่องย่อ: บทสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของความรักที่แสนหอมกรุ่นระหว่าง ชิโระ คาเคย์ (ฮิเดโตชิ นิชิจิมะ) ทนายหนุ่มมาดขรึมและ เคนจิ ยาบุกิ (เซโย อุจิโนะ) ช่างตัดผมอารมณ์ดี ซึ่งครั้งนี้เส้นทางชีวิตคู่ของ

พวกเขาได้เดินทางมาถึงจุดที่เติบโตงอกงามคงทนยิ่งกว่าเดิม และนั่นก็อาจหมายถึงการเปิดตัวความสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รับรู้ จนนำไปสู่เรื่องราวต่างๆ ที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน

 

เกร็ดไฮไลต์ของภาพยนตร์

1) จากมังงะเรื่องเยี่ยมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งยอดขายกว่า 5 ล้านเล่มและสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวที Kodansha Manga Award สำหรับหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่จัดขึ้นโดยมีสำนักพิมพ์ใหญ่สุดอันดับๆ ของในญี่ปุ่นอย่าง “โคดันฉะ” (Kodansha) เจ้าของผลงานดังก้องโลก Attack on Titan และ Tokyo Revengers การันตีถึงความปังที่ไม่มีใครไม่ยอมรับ

2) สู่ปรากฏการณ์ซีรีส์ที่สร้างสถิติยอดผู้ชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของรายการช่วงดึกในญี่ปุ่น พร้อมกระแสฮิตติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ทุกสัปดาห์ที่ซีรีส์ออกอากาศ พร้อมกวาดรางวัลใหญ่สุด “ซีรีส์ยอดเยี่ยม” จากเวที Television Drama Academy Awards ครั้งที่ 101 และ “ละครยอดเยี่ยมแห่งปี” จากที่สุดแห่งเวทีรางวัลของวงการโทรทัศน์ญี่ปุ่นอย่าง Galaxy Awards ปี 2020 ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลสำคัญของญี่ปุ่นเทียบได้กับ Emmy Awards ของฝั่งอเมริกาเลยทีเดียว

3) ถูกต่อยอดกระแสความคลั่งไคล้มาเป็นภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอยมากที่สุดแห่งปี 2021 กับบทสรุปส่งท้ายที่ทุกเสียงต่างยืนยันว่าประทับใจเต็ม 10 จนห้ามพลาด! วัดได้จากยอดรายได้สูงถึง 1,500 ล้านเยนแซงหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ Eternals ขาดลอยคาตารางบ็อกซ์ ออฟฟิศในญี่ปุ่น

4) พบ 2 ตัวพ่อทางการแสดงกับการประกบคู่ที่ทุกคนฮือฮา “ฮิเดโตชิ นิชิจิมะ” นักแสดงรุ่นใหญ่ฝีมือเข้มที่คนทั้งโลกกำลังพูดถึงมากที่สุดจากภาพยนตร์แห่งปีเจ้าของรางวัลออสการ์ Drive My Car (2021) ควงคู่ “เซโย อุจิโนะ” นักแสดงเจ้าบทบาทคมบาดลึกที่เคยฝากความสุดยอดในอารมณ์จากผลงานภาพยนตร์ขึ้นหิ้งเรื่อง 13 Assassins (2010) และ The Last Message – Rinjo: Gekijoban (2012) ซึ่งนับว่าเป็นหมุดหมายสำคัญที่คอนเทนต์ LGBTQ ได้ถูกนำเสนอผ่านฝีมือการแสดงของนักแสดงนำชายชื่อดังถึงสองคน และยังถูกผลักดันให้การพูดถึงเรื่องสังคมคนรักเพศเดียวกันในญี่ปุ่นถูกหยิบยกขึ้นมาให้อยู่บนกระแสหลักได้อย่างไม่น่าเชื่อ

5) ร่วมสมทบด้วย “โคจิ ยามาโมโตะ” จาก Kizoku Korin: Prince of Legend (2020), “ฮายาโตะ อิโซมุระ” จาก Tokyo Revengers (2021) และ “โฮคุโตะ มัตสึมูระ” นักร้องวง SixTONES บอยแบนด์ไอดอลตัวท็อปแห่งญี่ปุ่น ที่เคยฝากผลงานการแสดงจนเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ มาแล้วใน Liar x Liar (2021)

6) ผ่านฝีมือสุดละมุนของผู้กำกับ “คาซูฮิโตะ นากาเอะ” จาก The Lies She Loved (2018) หนึ่งในผู้กำกับที่ได้รับการจับตาในการนำเสนอความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเขาตั้งใจจะขับเน้นประเด็นที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนเพื่อปรับมุมมองทัศนคติเกี่ยวกับประเด็น LGBTQ+ ให้ดีขึ้นในสังคมญี่ปุ่น รวมถึงยังเป็นการสานต่อความสำเร็จเดิมจากฉบับมังงะและซีรีส์มาสู่เวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่รับประกันว่าแฟนๆ จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

7) พร้อมเพลงประกอบสุดไพเราะจากวงร็อกสายซึ้งระดับตำนานของญี่ปุ่น “สปิตซ์” (Spitz) ที่เคยได้รับแรงบันดาลใจจากห้างใหญ่ในเมืองไทยจนไปแต่งเป็นเพลงมาแล้วอย่าง “Robinson” กับเพลงล่าสุดที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อประกอบภาพยนตร์ “What Did You Eat Yesterday: The Movie เมื่อวานคุณทานอะไร” โดยเฉพาะคือ “Daikoubutsu”

8) และเตรียมท้องร้องให้มากขึ้น กับมื้อเย็นของตัวละคร LGBTQ+ ไม่ว่าจะเป็น “สตูว์ไก่, หมูผัดเห็ดเข็มทอง, สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ฯลฯ” บนโต๊ะอาหาร ซึ่งเหมือนสถานที่บ่มเพาะความสัมพันธ์ของตัวละครและเป็นการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในความสัมพันธ์ของ “ชิโระซังและเคนจิ” อย่างเข้าอกเข้าใจ โดยผู้ชมจะได้เห็นทั้งความหวานชื่นและขื่นขมผ่านสถานการณ์ บทสนทนา และความหลากหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของทั้งคู่

9) ในภาพยนตร์ “What Did You Eat Yesterday: The Movie เมื่อวานคุณทานอะไร” สิ่งที่โดดเด่นและเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เป็นที่รักของแฟนๆ ก็คือการทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวของละครสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ ผ่านเรื่องราวของเกย์ผู้ใหญ่สองคนที่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำและเผชิญหน้ากับปัญาไม่ต่างจากที่ชาว LGBTQ+ คนอื่นๆ ต้องประสบพบเจอในชีวิต โดยมีอาหารเข้ามาช่วยสื่อสารถึงความรัก ความห่วงใย ที่ฝ่ายหนึ่งมีต่ออีกฝ่ายแลกกับคำชื่นชมแสนธรรมดา แต่ทว่าอิ่มเอมหัวใจ

10) ไม่ใช่แค่นั้น ด้วยเนื้อหาที่ห่างไกลความแฟนตาซีขายฝัน ฉากเซอร์วิสเรี่ยราด หรือพล็อตเรื่องที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลจนต้องขมวดคิ้วหลายตลบ “What Did You Eat Yesterday: The Movie เมื่อวานคุณทานอะไร” ยังตั้งใจกะเทาะเปลือกความเข้าใจผิดๆ ของชีวิตคู่เกย์เอเชีย และตั้งใจเป็นมวลพลังเพื่อต่อสู้เรื่องกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ถึงแม้ว่าการแก้ไขเรื่องความเข้าใจและสิทธิของ LGBTQ+ จะไม่ใช่เรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ณ ตอนนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความจริงเรื่องนี้ควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ไม่ได้พิเศษอะไร ขอแค่อยากให้ปฏิบัติต่อกันในฐานะคนปกติก็เท่านั้นเอง เตรียมนับถอยหลังมาสัมผัสประสบการณ์ความรักที่คุณจะจดจำรสชาติและความอร่อยไปทั้งชีวิต สิ้นสุดการรอคอย 21 กรกฏาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์