เปิดมิติวงการแพทย์อีกครั้ง หลัง 3 บริษัทชั้นนำ โดย บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด บริษัท เน็กซเตอร์ ลีฟวิ่ง จำกัด และ บริษัท มาย เฮลท์ กรุ๊ป จำกัด  ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาระบบดูแลติดตามอาการผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล IoMT เพิ่มคุณภาพบริการด้านสุขภาพ เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบดูแลติดตามผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรังประเภทไม่ติดต่อ พร้อมระบบสื่อสารกับผู้ป่วยที่ดูแลตัวเองที่บ้าน สร้างระบบการดูแลติดตามอาการกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังด้วยระบบ IoMT อย่างสมบูรณ์ เดินหน้าสู่แผนบูรณาการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้านระบบการบันทึกและจัดเก็บเต็มรูปแบบ ตอกย้ำการเล็งเห็นถึงความสำคัญด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพได้ตลอดเวลา 

 

นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทชั้นนำทั้งสามแห่ง  นำโดยบริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด บริษัท เน็กซเตอร์ ลีฟวิ่ง จำกัด และ บริษัท มาย เฮลท์ กรุ๊ป จำกัด  ได้ตกลงจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โดยทั้งสามฝ่ายร่วมมือกันดำเนินการเพื่อเพิ่มคุณภาพการบริการด้านสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล Internet of Medical Things IoMT) ในการดูแลติดตามผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรังประเภทไม่ติดต่อ  ซึ่งเป็นการติดต่อกับผู้ป่วยในขณะที่ดูแลตัวเองที่บ้านเมื่อมีปัญหา และรวมไปถึงตรวจคัดกรองด้านสุขภาพในเรื่องต่างๆ เพื่อทำให้ผู้ป่วยเกิดการรับรู้และปรับปรุงสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น 

สำหรับวัตถุประสงค์ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือสำหรับการปรับปรุงอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล IoMT เพื่อใช้ประโยชน์ในการดูแลติดตามและคัดกรองอาการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาให้เกิดระบบการดูแลติดตามอาการกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยใช้ IoMT ได้อย่างสมบูรณ์ ยกระดับคุณภาพการบริการด้านสุขภาพให้มีมาตรฐานสูงขึ้น นอกจากนี้ เพื่อสร้างรูปแบบบูรณาการด้านการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้านระบบการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลผลตรวจด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ ช่วยให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องติดตามอาการโรคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระบบเตือนและติดต่อผู้ป่วยเมื่อมีปัญหาและใช้วางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

นายแพทย์พิชิต กล่าวต่อด้วยว่า โรงพยาบาลรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย และช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเป็นนวัตกรรมระบบติดตามสุขภาพทางไกลที่ช่วยให้คนไข้ได้รับการดูแลที่ดีอย่างต่อเนื่องจากที่บ้าน จากบริษัท Nexter Living พร้อมกันนี้ยังคาดหวังว่าการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ไทย เพราะนวัตกรรมด้านสุขภาพทางไกลจากที่บ้านนี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพได้ในระยะยาว เนื่องจากสามารถติดตามและดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจากทีมโรงพยาบาล อีกทั้งช่วยลดเวลาการเดินทางไปโรงพยาบาลในกรณีที่ไม่จำเป็นอีกด้วย

                สำหรับทั้งสามบริษัทจะร่วมประชุม เพื่อการวางแผนพัฒนาและเตรียมจัดให้บริการแก่ผู้ป่วยที่มีความประสงค์รับบริการใช้ระบบดูแลติดตามอาการผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล IoMT ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์

                นายวชิระชัย คูนำวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซเตอร์ ลีฟวิ่ง  จำกัด (Nexter Living Co.,LTD) เปิดเผยว่า “DoCare – Smart Technology for Healthy Living” เป็นนวัตกรรมระบบติดตามสุขภาพทางไกลที่ช่วยให้คนไข้ได้รับการดูแลที่ดีอย่างต่อเนื่องจากที่บ้าน จากบริษัท Nexter Living ในกลุ่มเอสซีจี ซึ่งด้วยอุปกรณ์อัจฉริยะที่สามารถเก็บข้อมูลสุขภาพอัตโนมัติ และส่งตรงถึงโรงพยาบาลเมื่อมีการวัดค่า ทำให้สามารถช่วยเหลือคนไข้ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดมีความผิดปกติ รวมถึงมีประโยชน์ในการช่วยให้ทีมแพทย์และพยาบาลปรับแผนการรักษาได้แม่นยำยิ่งขึ้น อาทิ การปรับยาให้เหมาะสม โดยสังเกตจากการตอบสนองของคนไข้แต่ละบุคคลจากที่บ้าน เป็นต้น

ทั้งนี้ DoCare หรือ นวัตกรรมระบบติดตามสุขภาพทางไกลจากที่บ้านนี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพในระยะยาว เนื่องจากสามารถติดตามและดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจากทีมโรงพยาบาล อีกทั้ง DoCare  ยังช่วยลดเวลาการเดินทางไปโรงพยาบาลในกรณีที่ไม่จำเป็นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยจากที่บ้านอีกมากมาย ที่จะช่วยยกระดับการอยู่อาศัยให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจไร้กังวล อาทิ เทคโนโลยีตรวจจับการล้ม การขอความช่วยเหลือฉุกเฉินแบบไร้สาย และเทคโนโลยีตรวจสอบคุณภาพการนอนหลับ เป็นต้น

นายฤทธิชัย จิตภักดีบดินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาย เฮลท์ กรุ๊ป จำกัด (myHealthGroup Co.,LTD)ความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทางโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทย อีกทั้งทางบริษัท myHealthGroup ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านสุขภาพและเทคโนโลยีมาตั้งแต่ปี 2561 โดยเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้ามาเป็นส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน พร้อมกันนี้ ยังให้ความสะดวกกับส่วนงานของโรงพยาบาล ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถให้คำปรึกษากับผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาร่วมพัฒนาการจัดการภายในโรงพยาบาลด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวข้างต้นช่วยให้โรงพยาบาลลดค่าใช้จ่ายลงจำนวนมาก อีกทั้งโรงพยาบาลยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้ ด้วยเทคโนโลยีที่กล่าวมาสามารถต่อยอดให้ความสะดวกแก่บุคลากรทางการแพทย์และคนไข้ให้ได้เข้าถึงการรักษาสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ โดยพัฒนาเทคโนโลยีต่อยอดร่วมกับทางโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ซึ่งประโยชน์สูงสุดที่ได้รับ คือ ภาคประชาชนให้สามารถเข้าถึงบุคลากรทางการแพทย์อย่างโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมืองได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนได้อีกด้วย

“ในความร่วมมือกันครั้งนี้มายเฮลท์ กรุ๊ป มีส่วนช่วยในด้านการสนับสนุน Mobile Application myHealthFirst” และโปรแกรม “myHealthWorld” เพื่อรองรับการให้บริการผู้ป่วยด้วยระบบดูแลติดตามอาการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล IoMT โดยมีระบบเตือนมาที่โรงพยาบาล รวมไปถึงช่วยสนับสนุนการวัดผลด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เชื่อมต่อ และให้สามารถใช้งานได้ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อการดูแลติดตามอาการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เปิดสิทธิการใช้งาน โดยอนุญาตให้เข้าใช้บริการ โดยไม่คิดค่าบริการใดๆ แก่โรงพยาบาล ผู้ป่วย หรือผู้เกี่ยวข้องกับการให้บริการใช้ระบบดูแลติดตามอาการผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล IoMT รวมไปถึงยังให้คำแนะนำหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานให้แก่โรงพยาบาลหรือผู้ป่วยให้ได้เข้าใจถึงวิธีใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพอีกด้วย” นายฤทธิชัย กล่าว