เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่ไม่ค่อยควงคู่กันออกสื่อสักเท่าไหร่ สำหรับ พิธีกรมากความสามารถ อั๋น ภูวนาท และภรรยาคนเก่งจ๋า อลิสา เจ้าของเวทีการประกวดมิสทิฟฟานี่ แต่ล่าสุด ทั้งคู่ควงกันมาเปิดใจถึงเส้นทางความรักที่กว่าจะมีวันนี้ได้เล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกัน เพราะคุณจ๋าเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝน แต่อะไรที่ทำให้เธอยอมตัดสินใจแต่งาน งานนี้ต้องติดตามผ่านทาง รายการ ฮัลโหลซุปตาร์ ทางช่อง7 HD กดหมายเลข 35 ผลิตโดย บริษัท นีโน่ บราเดอร์ส ของผู้จัด นีโน่เมทนี และ หนิง ปณิตา

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่มาเจอกัน?

อั๋น : เรื่องงาน

จ๋า : มิสทิฟฟานี่ไง

อั๋น : คือเขาพยายามหาพิธีกรที่ต่อราคาได้ ก็เลยเริ่มต้นจากเพื่อนแนะนำว่า อั๋น สิ

จ๋า : ไม่หรอก อันนี้พูดกันเล่นๆ แต่สิ่งที่หาพิธีกร คือเข้าใจสิ่งที่เราทำแล้วก็อีกอันผู้ชายก็ไม่ยอมรับที่จะมาเป็นพิธีกร

อั๋น : ในยุคนั้นนะ ซึ่งเขาโทรมาคุยปุ๊บ ตั้งแต่ไหน แต่ไร พี่คิดว่าพี่เป็นผู้ชายที่สนับสนุนความเท่าเทียมกันของสิทธิสตรี  แล้วไม่ใช่แค่สิทธิสตรี ตั้งแต่ตอนนู้น 10 กว่าปีที่แล้วมันยังไม่ได้เป็นเรื่องที่คนพูดกันเยอะแยะ พอเขาโทรมาพี่ก็ได้ เก็ทเลย เขาก็บอกว่าดีเลยไม่ต้องบรีฟเยอะ

คู่นี้เขาเรียนโรงเรียนเดียวกัน?

จ๋า : แต่ไม่เคยเจอกันเลย

อั๋น : เหมือนผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา

จ๋า : เราเรียนที่เตรียมอุดมฯ

อั๋น : เพื่อนเขาเป็นเพื่อนเรา เพื่อนเราเป็นเพื่อนเขา แต่เราไม่เคยเจอกัน แล้วอยู่จุฬาฯ คณะติดกัน พอเจอกันเพื่อนๆรู้จักกันหมด แต่ทำไมเราไม่เคยเจอกัน

ครั้งแรกที่เจอกันปิ๊งกันเลยไหม?

อั๋น : ไม่เลย ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ทำงาน

จ๋า : งานล้วนๆ

แล้วอะไรทำให้อยู่ดีๆ ปิ๊งกัน?

อั๋น : ผมเริ่ม ผมพูดตรงๆ นะ ตอนที่ผมเริ่ม ผมเริ่มด้วยความตั้งใจในการลองดู มันไม่ได้เหมือนแบบปิ๊งๆ ชอบๆ ไม่เลยแบบ เห้ย…โสดมาเกือบ 10 ปี ไม่สนใจอะไรเลย ทำแต่งาน แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งแม่พูดขึ้นมา นี่ตกลงจะไม่มีแฟนจริงๆเหรอ เราก็นึกในใจว่า อ่อ เหรอ ลืมคิดเรื่องนี้ ทำแต่งานจริงๆ คือจังหวะที่พูดเขาอยู่ในทีวี เป็นงานที่เราไปเป็นพิธีกรเราก็เลยบอก มามี๊นี่ไง งานที่อั๋นไปเป็นพิธีกรออกทีวีพอดี แล้วเห็นเขายืนอยู่ ไม่เคยมองหน้าเลย สวยดี แต่งตัวสวยแล้วหยิบโทรศัพท์เลย แล้วส่งข้อความคุย แล้วเริ่มลุยเลย

พี่ทักไปยังไง?

อั๋น : พี่จำประโยคแรกไม่ค่อยได้ น่าจะสวัสดีครับ แต่ประโยคที่พี่เข้าเกมเลยคือ ถามว่ามีแฟนหรือยัง

จ๋า : ตอนนั้นเฉยๆ จ๋ารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ มีเพื่อนมาคุยด้วย จ๋าไม่เคยรู้สึกว่าเขาจีบ แต่รู้สึกว่าเขาเป็นคนคุยสนุก

อั๋น : อั๋นไม่ได้จีบแบบขอออกเดท ส่งดอกไม้ ไม่ได้มาแพทเทินนั้น พี่เข้าไปคุย เพราะเราไม่แน่ใจว่าเราชอบหรือเปล่ามันเป็นช่วงของการ เห้ย..ไปได้ป่ะวะ เข้ามาแล้วจะแย่กว่าเดิมหรือเปล่า หรือว่าวุ่นวาย ไม่ชอบคนจิก คนตาม คนขี้หึงคนขี้งอน แต่พอคุยปุ๊บ ครั้งแรกที่โทรคุยที่ไม่ใช่เรื่องงาน คุยกันเกือบเช้า

จ๋า : จริง เขาเป็นคนคุยสนุก เม้าท์เรื่องนู้น เรื่องนี้ เรื่องนั้น อยู่ดีๆ ไม่รู้ว่าเวลากี่โมง แต่ว่ารู้สึกประหลาดดี คุยได้นาน

อั๋น : ทันทีที่วางหู ตอนนั้นเกือบเช้าแล้ว เรารู้สึกว่าโอเค ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราทำแบบนี้ได้อยู่  และไม่ได้เป็นความพยายามด้วยนะ เรารู้สึกว่ามันไม่หมดเรื่องคุย

แล้วนานขนาดไหนที่พี่จ๋าเปิดใจ?

จ๋า : หลายปีมาก แล้วก็รู้สึกว่าฉันไม่เคยเปิดใจเลย เหมือนว่าไม่รู้จัก ภูวนาท เขามาจีบเล่นๆ หรือว่ายังไง พอทุกสิ้นปีก็จะบอกว่า โนๆ ฉันไม่โกออน

อั๋น : จริง เลิกกันทุกปีวันคริสต์มาส

จ๋า : เป็น 7-8 ปีอะ

อั๋น : เขาเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนเข้าใจไหม แต่เรารู้สึกว่าเขารักเรา

แล้วยังไงถึงพาเจ้าสาวที่กลัวฝนแต่งงานได้?

จ๋า : ที่เคยบอกว่าเราแต่งงานกันไม่ได้หรอก เพราะว่าพี่ต้องทำงานพัทยา แล้วเราเป็นคนรักการทำงานมาก เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ก็พูดกับเขา เขาบอกว่าอะไรพัทยานี่มันไกลมากเหรอเธอ ไม่รู้สิ เรารู้สึกว่ามันห่วงถ้าสมมติว่าเรามีครอบครัวที่อยู่กรุงเทพ หรือเราจะต้องไม่อยู่พัทยา เรารู้สึกว่าเราเป็นคนพัทยา เราเป็นคนต้องอยู่กับครอบครัวที่พัทยา เราจะบอกว่าไม่ได้หรอก เราแต่งงานไม่ได้เลย เราอยากอยู่แค่พัทยา เราไม่อยากมาอยู่กรุงเทพ

อั๋น : อั๋นอธิบายนะว่าพัทยาไม่ไกล คือเขาเห็นแต่อุปสรรคทุกครั้งที่พูด  แต่พี่ไม่เห็นอุปสรรคเลย พี่บอกถึงเวลาอยู่ได้เอง พี่จะเป็นอีกแบบ เขาก็นั่น นี่ไปเรื่อยๆ จนแบบถ้าเห็นแต่อุปสรรคนั่นเลิก เป็นคนชัดเจนมาก

จ๋า : พอเลิกกับเขาไปเกินครึ่งปี เกือบปี เลิกกันไปนานมาก เราก็เล่นโยคะทุกวันเลย ซึ่งมันต้องใช้สมาธิมาก แต่วันนั้นเล่นยังไงก็เล่นไม่ได้เลย แล้วเรามานั่งถามตัวเองว่าเราควรจะเข้าใจตัวเองหรือเปล่าว่าเราชอบเขาหรือเปล่า หรือเราจะต้องปฏิเสธแบบนี้ เพราะว่าเราแค่คิดว่ามันไม่เหมาะไม่ควร ไม่ทุกอย่าง จนโยคะเป็นสิ่งที่เตือนสติเรา ไม่ได้เว่อร์นะ นี่เรื่องจริงเลย เล่นโยคะไม่ได้เลย จนต้องมาง้อเขาเลย

อั๋น : คิดถึงความแซ่บของอั๋นไง

จ๋า : เรารู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไปแล้ว

เกือบ 9 ปีแล้วใช่ไหมที่ตอนนั้นไปง้อ?

อั๋น : พี่ไม่คุยจริงๆ เลย ถ้าเขาคุยงานพี่คุย ถ้าเขาขอคำปรึกษาที่เป็นเรื่องซีเรียสพี่คุย แต่พี่รู้ว่าเป็นข้ออ้าง

ในขณะที่พี่จ๋าบอกเลิกทุกปี แต่ปีนั้นพี่จ๋าง้อพี่อั๋น?

อั๋น : พี่หนี พี่ไม่คุยแล้ว เขานัดกินข้าวพี่ก็ไม่ไป ไม่เอา ไม่เจอ

จ๋า : คือเธอจะต้องแต่งงานกับฉันเท่านั้นถึงจะดีด้วย

อั๋น : ขอมา 9 ปีแล้ว เขาบอกว่าขอเวลาคิด ทุกครั้งที่ขอเวลาคิดก็ขอปีนึง ฉันให้โอกาสนี้มาถึง 9 ครั้ง ตั้งแต่หนุ่มจนแก่

จ๋า : ที่ตลกมาก คือพอบอกว่า ยังไงเธอต้องแต่งงานกับฉัน จ๋าคิดในใจ เอาแล้ว ฉันถูกกับดักแล้ว

อั๋น : แต่พี่ไม่ได้บังคับ

จ๋า : เหมือนรู้สึกว่าฉันโดนมัดแล้ว เสร็จเขาทำไงรู้ไหม ไปออกคลับฟายเดย์เลย คือเหมือนมัดสุด

อั๋น : วันที่อยู่ดีๆ เขากลับมา เขาส่งข้อความมา ประมาณว่า กลับมาคุยกันเถอะ พี่ก็บอกไม่ ไม่มีประโยชน์อีกแล้ว มันจบแล้วจริงๆ แล้วเขาบอกว่า เธอไม่คิดเหรอว่าฉันกลับมาคุยกับเธอครั้งนี้ เหมือนกับฉันได้ตัดสินใจแล้ว พี่หยิบโทรศัพท์โทรเลย นี่ขนาดไม่คุยกันเลย 6-7 เดือน พี่ถามว่าแน่ใจเหรอ เขาบอก อืม เขามั่นใจแล้ว ประมาณว่า เขาพร้อมแต่งงานแล้ว เขาบอกพี่วันอังคาร พี่บอกว่า นัดพ่อ แม่ เสาร์ อาทิตย์ นั้นเลย พี่ก็นัดพ่อ แม่ พี่เสาร์ อาทิตย์นั้นแล้วขอเลย เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นเขาหนี

จ๋า : ขนาดนัดพ่อ แม่ นะเรายังหนีต่อเลย

ตอนนี้แต่งมากี่ปีแล้ว?

จ๋า : 5 ปี

อั๋น : 6 ปี

ลูก 2 คนแตกต่างกันไหม?

จ๋า : แตกต่างกันมาก คนพี่แบบแก่นมาก คนน้องเรียบร้อย แต่ไม่ใช่ไม่แก่นนะ แต่เขาฟังมากกว่า

คาแรคเตอร์พี่อั๋นเวลาอยู่บ้านเป็นยังไง เหมือนกับที่เราเห็นในโทรทัศน์ไหม?

จ๋า : ไม่เนี๊ยบเลย ชอบใส่เสื้อกล้ามเก่าๆ มีรู

อั๋น : แล้วใส่ซ้ำด้วยนะ สมมติใส่เสื้อกับกางเกงตัวนั้นก็ใส่อาทิตย์นึง

จ๋า : ไม่ยอมเอาลงไปซักผ้า เปลือง

อั๋น : ผมเป็นคนไม่มีเหงื่อ

จ๋า : กินข้าวกล่อง ข้าวเย็นขออุ่นให้หน่อยได้ไหม ไม่ต้องอุ่นกินได้ แบบนี้แหละ เย็นๆ

อั๋น : เป็นคนง่ายมากจริงๆ

แล้วพี่จ๋าอยู่บ้านเป็นยังไง?

อั๋น : ก็โอเคนะ พี่ไม่เคยอยู่กับคนอื่นนะ แต่พี่คิดว่าอยู่กันได้ ถ้าเทียบกับพี่เขารกกว่าพี่

จ๋าเป็นผู้ช่วยผู้จัดการบริษัททิฟฟานี่ หน้าที่เราต้องทำอะไร?

จ๋า : เมื่อก่อนเป็นผู้ช่วยคุณพ่อ แต่ตอนนี้คุณพ่อเสียแล้วก็เลยเป็นกรรมการผู้จัดการแล้ว ก็ดูแลธุรกิจทั้งหมดของครอบครัว

ทิฟฟานี่กี่ปีแล้ว?

จ๋า : 48 แล้วนะคะ เราก็มาเป็นเจนเนเรชั่นที่2 ทั้งธุรกิจโรงแรม แล้วก็ทิฟฟานี่ มาช่วยต่อให้เจริญเติบโตขึ้น

อั๋น : เคยถามเขาถ้าไม่ได้ทำธุรกิจฝันอยากทำอะไร เขาบอกอยากเป็นแดนซ์เซอร์อาชีพ

จ๋า : ตอนเด็กๆ ชอบเต้นมากจนไปเรียนแจ๊ส แอบแม่ไปเรียน ใช้เงินที่เราเก็บไปจ่าย แต่พอมาปัจจุบันไม่ได้เต้นเลย แต่เวลาดูนักแสดงเต้นแล้วเรารู้สึกว่าเราคอมเมนต์ได้

การประกวดมิสทิฟฟานี่เว้นมากี่ปีแล้ว?

จ๋า : 2 ปีช่วงโควิด

 

ช่วงโควิดมีปัญหาไหมสำหรับโชว์?

จ๋า : ปิดเลยค่ะ ปิดไป 2 ปี อยู่ดีๆ ก็ถูกสั่งให้ปิดนะ เพราะว่าพอช่วงต้นปี 2020 ที่รุนแรงมากๆ แล้วก็ปิดมาจนเพิ่งเปิดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ลูกน้องทำยังไง?

จ๋า : ก็ต้องดูแลกันไป บางคนทำอาชีพโรงละคร จะไปทางอื่นก็ยาก เราเองเป็นเจ้าของธุรกิจก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ จ๋ายังมาฝึกในเรื่องวิธีขายของออนไลน์กับภูวนาทเลย แล้วจ๋าก็รวบรวมพนักงานทั้งหมดลงเป็นแอดมินกรุ๊ปเลย ขายของทันที ตอนที่โควิดเนี่ยเป็นเหมือน HR เมเนเจอร์คนหนึ่ง คือโยกย้ายพนักงานแต่ละที่ที่ไปทำ ที่ที่มันพอมีงาน จากทิฟฟานี่ไปอยู่โรงแรม ไปอยู่ในครัว ไปอยู่แม่บ้าน คือโยกย้ายทุกคน จนแบบเขาต้องรู้แล้วแหละว่าเราเป็น HR

อั๋น : อั๋นก็โดน อั๋นทำเรือสำราญเจ้าพระยา ครูซ โดนสั่งปิดเหมือนกัน

จ๋า เราก็นั่งมองหน้ากันว่าจะเรียนรู้เรื่องอะไรเพิ่มดี

ติดตามชมรายการ “ฮัลโหล ซุปตาร์” ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 17.00 น. ทาง ช่อง 7HD กด 35 และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวรายการต่างๆ ได้ทางช่อง 7HD กด 35 ทางโซเชียล Facebook, IG, Twitter : Ch7HD และ Ch7HD Entertainment และ ทาง เว็บไซต์ : www.ch7.com หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง Bugaboo.tv

คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง 

https://youtu.be/ZSbLm6pBwdA