**หมายเหตุ: ชื่อแบรนด์ที่ถูกต้องของบริการสตรีมมิ่งคือ Prime Video (ไม่ใช่ Amazon Prime Video)**
สิงคโปร์, 20 สิงหาคม 2567 – ผู้กำกับคิมจองชิก ร่วมด้วยทีมนักแสดงนำอย่าง ชินมินอา, คิมยองแด, อีซังอี และ ฮันจีฮยอน เข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ No Gain No Love (รักนี้ไม่มีขาดทุน) ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดย No Gain No Love เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้เรื่องราวของ ซนแฮยอง (รับบทโดย ชินมินอา) หญิงสาวที่ไม่ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบไม่ว่าจะเรื่องไหนของชีวิต แต่เธอกลับต้องโคจรมาเจอกับชายหนุ่มซึ่งเป็นเหมือนขั้วตรงข้ามของเธออย่าง คิมจีอุก (รับบทโดย คิมยองแด) ผู้ที่ไม่ยอมเอาเปรียบคนอื่น แม้ตัวเองจะต้องกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็ตาม นอกจากนี้ยังมี CEO หนุ่มอย่าง บกกยูฮยอน (รับบทโดย อีซังอี) ผู้ที่เบื่อหน่ายและไม่สนใจเรื่องความรัก แต่กลับต้องมาพัวพันกับ นัมจายอน (รับบทโดย ฮันจีฮยอน) นักเขียนนิยายออนไลน์ที่เชี่ยวชาญการเขียนเรื่องโรแมนติกติดเรท แต่ตัวจริงกลับไร้ซึ่งประสบการณ์ใดๆเกี่ยวกับความรัก เรื่องราวความสัมพันธ์ที่บวก ลบ คูณ หาร ไม่ค่อยจะลงตัว แต่กลับทำให้ใจเต้นตึกตัก เป็นความโรแมนติก อบอุ่นหัวใจ และความน่ารักสนุกสนาน ที่รับรองว่าคนดูไม่มีขาดทุน เตรียมรับชมซีรีส์ No Gain No Love (รักนี้ไม่มีขาดทุน) ได้ที่ Prime Video ในประเทศไทย และอีกมากกว่า 240 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก วันที่ 26 สิงหาคม นี้
หากคุณคิดถึงรอมคอมเรื่องเยี่ยม ที่จะทำให้ทั้งยิ้ม หัวเราะ ฟิน จิ้นและอินไปกับตัวละคร…เราขอแนะนำว่าห้ามพลาด ซีรีส์ No Gain No Love…มาเช็คเหตุผลไปพร้อมกันว่าทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงเป็นรอมคอมที่ทั้งถูกต้องและถูกใจ
1. เพราะเรื่องนี้มี “ชินมินอา”
เมื่อตัวแม่แห่งแนวโรแมนติกคอเมดี้อย่าง ชินมินอา ขอส่งซีรีส์เรื่องนี้เข้ายึดตำแหน่งในหัวใจผู้ชมทั้งที มีหรือจะทำให้ผิดหวัง ด้วยดวงตาสดใส รอยยิ้มมีเสน่ห์ และความสามารถด้านการแสดงที่เคมีเข้ากับพระเอกทุกคนที่ร่วมงานด้วย เตรียมเช็คลิสต์ให้ถูกตั้งแต่ข้อแรกได้เลย ผู้กำกับคิมจองชิกเล่าถึงการได้มาร่วมงานกับชินมินอาว่า “ตอนได้อ่านบท ผมนึกถึงแต่ชินมินอาแค่คนเดียวที่จะมารับบทเป็น ซนแฮยอง เป็นคนอื่นไม่ได้จริงๆ ถึงเธอจะเล่นรอมคอมมาหลายต่อหลายเรื่อง แต่เธอไม่เคยทำให้ผู้ชมเบื่อเลย และเหมือนจะเปล่งประกายมากกว่าเดิมอีกด้วย”
2. ตัวละครต่างขั้ว แต่ลงตัว
ตัวละครในเรื่องนี้มีลักษณะนิสัยและพื้นเพต่างกันสุดขั้ว แต่เป็นความต่างที่เหมือนแม่เหล็ก ดึงดูดเข้าหากันอย่างลงตัว…สาวเก่งที่ไม่ยอมเสียผลประโยชน์ให้ใครและสิ่งใด – หนุ่มฮอตเนิร์ดแสนดีที่พร้อมยื่นมือช่วยเหลือทุกคน – หนุ่มนักบริหารผู้ไม่เชื่อในความรักและตั้งปณิธานที่จะครองโสดตลอดไป – สาวใสผู้ไม่เคยออกเดท แต่กลับเขียนเรื่องรักได้เร่าร้อน…เมื่อพวกเขาเหล่านี้ได้มีวงโคจรที่หมุนมาเจอกัน บางคนขาด บางคนเกิน บางคนมีล้น หรือบางคนอาจจะแหว่งไปบ้าง แต่กลายเป็นสมการที่สมดุล
3. รูปแบบความสัมพันธ์ที่หลากหลาย
ความสัมพันธ์ในซีรีส์นอกจากจะนำเสนอในแง่มุมความรักหนุ่มสาว ที่ผู้ชมจะฟินไปด้วยกัน ยังมีความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ ทั้งอบอุ่น ปลอบประโลมใจ ในบางมุมก็อาจห่างเหิน…รักแต่ไม่เข้าใจ แต่ยังมีสายใยแห่งครอบครัวที่ถักทอโยงใยกันไว้ ความสัมพันธ์ของเพื่อนสาวที่แนบแน่นสนิทสนมราวกับคนในครอบครัว รักกัน ตีกัน โกรธกัน แล้วก็กลับมากอดกัน แต่ไม่ว่าสถานการณ์ไหนเราจะยังมั่นใจว่ามีเพื่อนสาวเหล่านี้เสมอ ความสัมพันธ์เจ้านายกับลูกน้องที่มองตาก็รู้ใจ ไม่ทันเอ่ยปากก็รู้ว่าอยากได้อะไร…เพราะชีวิตไม่ได้มีเพียงมุมเดียว ความสัมพันธ์ที่ร้อยเรียงเราไว้ ก็ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว ผู้คนรอบตัวล้วนเป็นความสัมพันธ์ที่มีความหมาย…และเติมเต็มให้ซีรีส์เรื่องนี้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
4. เชื่อมโยงกับตัวละครได้ง่าย
5. สูตรคำนวณที่พอดี ระหว่างความโรแมนติกและความคอเมดี้
###