รถตกแต่งเคลื่อนที่แบบโปร่งใสโชว์คอลเลคชั่น INES DE LA FRESSANGE ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2020

31 สิงหาคม 2563 – กรุงเทพฯ  ในขณะที่หลาย ๆ แบรนด์ปรับตัวเพื่อให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้หลายแบรนด์ต้องปรับตัวเข้าหาช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่สำหรับยูนิโคล่ที่มีการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัวคอลเลคชั่น อิเนส เดอ ลา เฟรซองจ์ (Ines de la Fressange) ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2020 กลับใช้กลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดที่ผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) มากยิ่งขึ้น

แม้ว่าในปัจจุบันเราจะเห็นว่าแบรนด์ต่าง ๆ จะมีการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก เพราะความสะดวก รวดเร็ว และง่ายในการเข้าถึงผู้บริโภค แต่ยูนิโคล่ยังคงให้ความสำคัญกับช่องทางออฟไลน์ เพราะถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้คนได้เห็นสินค้าจริง หรือได้รับการนำเสนอสินค้าอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับการมองผ่านจอมือถือเพียงอย่างเดียว ดังนั้นยูนิโคล่จึงได้นำเทรนด์การตลาดแบบ O2O มาใช้ในการดำเนินกลยุทธ์ โดยล่าสุด ได้ใช้สื่อออฟไลน์อย่างการตกแต่งรถเพื่อนำเสนอคอลเลคชั่นใหม่ อย่าง อิเนส เดอ ลา เฟรซองจ์ ควบคู่ไปกับการใช้ช่องทางดิจิทัลของยูนิโคล่ เพื่อสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น เพราะการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโลกออนไลน์และโลกออฟไลน์เป็นการสะท้อนปรัชญา LifeWear (ไลฟ์แวร์) ของยูนิโคล่ ซึ่งให้ความสำคัญกับการออกแบบเสื้อผ้าที่เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตและสามารถเข้าถึงได้ทุกคนได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถชมคอลเลคชั่นอย่างเต็มรูปแบบได้ที่ https://www.uniqlo.com/ines/20fw/th/

#####

 

เกี่ยวกับ UNIQLO LifeWear

ไลฟ์แวร์ (LifeWear) มีที่มาจากค่านิยมของชาวญี่ปุ่นในเรื่องความเรียบง่าย คุณภาพ และความยืนยาว LifeWear ได้รับการออกแบบให้เป็นเสื้อผ้าแห่งยุคสมัยและเพื่อยุคสมัย และถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างสง่างามทันสมัยจนกลายเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการสร้างสรรค์สไตล์เฉพาะตัวของแต่ละบุคคล เสื้อเชิ้ตที่ดีเลิศอยู่แล้วยังได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นอยู่เสมอ การออกแบบที่เรียบง่ายที่สุด แฝงไว้ด้วยรายละเอียดที่บ่งบอกถึง ความใส่ใจและทันสมัยที่สุด ทำให้รูปทรงและเนื้อผ้าที่ดีที่สุดกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถซื้อหาและเข้าถึงได้ง่าย LifeWear คือเสื้อผ้าที่มุ่งสร้างสรรค์ สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบความอบอุ่น ความเบา การออกแบบที่ดี และความสบายสู่ชีวิตของผู้คนให้ได้มากยิ่งขึ้น

เกี่ยวกับ ยูนิโคล่ และ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง

ยูนิโคล่เป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ทั้ง 8 แบรนด์ ซึ่งแบรนด์ที่เหลือได้แก่ GU, Theory, Helmut Lang, PLST (Plus T), Comptoir des Cotonniers, Princesse tam.tam และ J Brand บริษัทฯ มียอดจำหน่ายทั่วโลกประมาณ 2.2905 ล้านล้านเยนในปีบัญชี 2019 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2019 (ประมาณ 21.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ ต่อ 106.4 เยน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2019) ฟาสต์ รีเทลลิ่ง เป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกสินค้าเครื่องแต่งกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยูนิโคล่เป็นแบรนด์ค้าปลีกสินค้าเฉพาะทางชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น

ยูนิโคล่ยังคงเดินหน้าเปิดร้านสาขาขนาดใหญ่ในเมืองใหญ่และในทำเลที่สำคัญต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในฐานะแบรนด์ระดับโลก ในปัจจุบันยูนิโคล่มีจำนวนร้านสาขากว่า 2,200 แห่งใน 25 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เบลเยียม แคนาดา จีน เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน ไต้หวัน ไทย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม นอกจากนี้ ในปี 2010 ยูนิโคล่ยังได้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคมขึ้นร่วมกับธนาคาร Grameen Bank ในบังกลาเทศ ซึ่งในปัจจุบันมีร้าน Grameen-UNIQLO เปิดดำเนินงานอยู่หลายสาขาในกรุงธากา

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง มีพันธกิจที่จะเปลี่ยนโฉมเสื้อผ้า พลิกโฉมหน้าของภูมิปัญญาเดิมๆ และเปลี่ยนแปลงโลก โดยบริษัทฯ ทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์เสื้อผ้าชั้นเยี่ยมด้วยค่านิยมใหม่ที่พิเศษไม่เหมือนใคร เพื่อร่วมสร้างสรรค์ชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คนทุกหนแห่ง ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิโคล่และฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้ที่เว็บไซต์ www.uniqlo.com และ www.fastretailing.com