อดีตพิธีกรรายการดัง ปุ๊ย คืนสิทธิ์ เปิดตัวรักครั้งใหม่ น้องอนิล พร้อมเปิดเส้นทางรัก หลังคบหามานานกว่า 10 ปีพร้อมคลียร์ข่าวถูกเม้าท์เป็นพิธีกรตกอับหลังออกจากรายการดัง และจากกันด้วยไม่ดีทั้งยังเล่าถึงเรื่องความเชื่อที่เชื่อมโยงกับแม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์

ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ดาราพิธีกรตกอับ?

ปุ๊ย : ผมเองก็เห็นอยู่นะตามเพจต่างๆ มีเพื่อนส่งให้เราบ้าง ส่วนใหญ่ที่เข้าไปดูไม่มีอะไร แค่จั่วหัวว่าพิธีกรตกอับ ความเป็นจริงก็คือตั้งแต่ช่วงโควิดแล้วที่ผมย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด หนีโควิดไปอยู่บ้านอนิล ยังทำงานเบื้องหลังอยู่ เบื้องหลังซะส่วนใหญ่ กึ่งๆโปรดิวเซอร์ ถ้ามีถ่ายทำก็มาในกรุงเทพ แตาถ้าไม่มีถ่ายก็ดูเป็นออนไลน์ได้

ไปอยู่กำแพงเพชรหนีโควิดหรทอไปทำงานที่นั่น?

ปุ๊ย : หนีโควิดอันดับแรกเลย ผมก็มีโรคประจำตัวนิดๆหน่อยๆไม่อยากเสี่ยงในช่วงที่มันแรงมากๆ ประกอบกับแฟนเค้าอยากไปดูแลคุณยายที่อยู่ที่โน่นด้วย ทีแรกคิดว่าไปอยู่สัก 1-2 เดือน ไปแล้วมันก็เพลินๆดี ตอนนี้ประมาณ 3 ปีแล้ว

อยากกลับมาอยู่หน้าจอมั้ย?

ปุ๊ย : ถ้าเป็นงานที่เราอยากทำจริงๆกฌคิดว่าอยากกลับมาเหมือนกัน ไม่ซีเรียสที่ต้องยึดติดว่าเราจะเป็นพิธีกรตลอดไป จริงๆถนัดทำงานเบื้องหลังมากกว่า เพราะตัวเราเองก็โตมาจากงานเบื้องหลัง เป็นงานครีเอทีฟซะมากกว่า งานพิธีกรมีคนทำได้ดีกว่าเราเยอะแยะ แต่งานประเภทคิดเราถนัดมากกว่า ทำเบื้อองหลังมีเวลาคิด

คบกันมานานเท่าไหร่แล้ว?

อนิล : 6 ปีค่ะ แต่ว่ารู้จักกันประมาณ 10 ปี รู้จักกันหนูไปร้องเพลงที่ดันดารา ไปออดิชั่น เจอครั้งแรกก็ยังไม่ได้คุยกันมาก เพียงแต่มองเค้าแล้วทำไมผู้ชายคนนี้ดูอบอุ่นจังเลย แต่ตอนนั้นเรา 2 คนต่างไม่ว่าง 

ปุ๊ย : ครั้งที่ 2 มาออกอีกครั้งนึง เหมือนแซวกันไปแซวกันมา พอได้มาออกรายการก็มีการแลกไลน์กัน แต่ยังไม่มีอะไรแค่การคุยที่ถูกชะตากัน ตอนเห็นครั้งแรกรู้สึกเหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรที่น่าสนใจอยู่ แต่เราไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่อยากเป็นสมภารกินไก่วัด เราเคยตั้งปณิธานไว้ 

แล้วสานต่อกัน?

อนิล : หนูจีบเค้าค่ะ เราว่างแล้วตอนที่เราไปออกรายการครั้งที่ 2 

ปุ๊ย : เราก็กำลังจะว่าง

รู้มั้ยว่าเค้าแอบชอบเรา?

ปุ๊ย : จะว่ารู้ก้รู้ แต่ยังไม่แน่ใจ เราไม่ำด้ศึกษากันเต็มที่ แต่พอเริ่มคุยกัน ไลน์กัน มันมีเรื่องแปลกๆ บางทีเรากำลังจะทักไลน์ไป เค้าก็ทักมา ส่งสติกเกอร์ตัวเดียวกัน คำพูดคำเดียวกัน เลยรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรที่ปกติละ เรียกว่าเป็นพรหมลิขิตได้เลย

อนิล : หนูชวนพี่ปุ๊ยไปดื่มที่ร้านที่หนูร้องเพลง แต่มีทีมงานไปนะคะ หนูชอบเค้าดูอบอุ่นดีค่ะ เห็นหน้าจอตั้งแต่เด็กๆ ดูมีเสน่ห์มากๆ

ปุ๊ย : ไปนั่งกินข้าวก็มีเรื่องอื่นๆให้คุยมากขึ้น บางเรื่องก็ปัญหาของเค้า บางเรื่องก็ปัญห่ของเราแต่ปรึกษากันได้ ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กันและกันได้

ชอบเลยมั้ย?

ปุ๊ย : ถือว่าชอบแล้วนะครับ แต่เรายังไม่แน่ใจว่าเราจะจีบเค้าได้มั้ย หรือเค้าจะชอบเราจริงมั้ย

อนิลไม่สบายหนักหลังจากนั้น?

อนิล : เส้นเลือดในสมองแตกค่ะ หนึ่งในล้านคนก็ได้ที่จะเป็น หลอดเลือดผิดปกติโดยกำเนิด ตอนนั้นปวดหัวแบบทนไม่ได้ต้องไปโรงพยาบาล สักพักตามองไม่เห็นมัวไปหมด โชคดีที่ผ่าศิริราชทัน 

ปุ๊ย : ผมไปหาเค้าที่โรงพยาบาล ไปถึงพยาบาลฟ้องเลยไม่ถามหาพ่อหาแม่ ถามหาพี่ปุ๊ยอยู่ไหน

 

พี่ปุ๊ยดูแลยังไง?

อนิล : มันทำให้หนูรู้สึกดีกับเค้า ตอนนั้นหนูโกนหัว ค้าเดินจูงมือเราโดยที่ไม่อายคนเลย เราเป็นคนธรรมดาโกนหัวแล้วขี้เหร่มาก เค้าเป็นดาราเค้าไม่แคร์สายตาใครเลย ดูแลมากๆ พี่ปุ๊ยกายภาพบำบัดจนหนูเดินได้เป็นปี 

แต่ตั้งปณิธานสมภารไม่กินไก่วัด?

ปุ๊ย : ช่วงนั้นเราออกมาแล้วพอดีด้วย ก็เลยปลดล็อคประโยคนี้ไปซะเราออกจากวัดแล้ว

ระหว่างที่รักษาตัวที่โรงพยาบาล รักเค้ามากขึ้น?

ปุ๊ย : ใช่ครับมันมีหลายๆอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ความรู้สึกจากการคุย คำพูดของเค้า มันจริงทั้งนั้นเลย เราสามารถพูดเรื่องจริงได้ทุกเรื่อง

ดูแลนานแค่ไหน ตัดสินใจคบกัน?

อนิล : ตอนที่ดูแลกันนั่นก็คือคบกันแล้วนะคะ 

ปุ๊ย : มันนัวๆไป ไม่เป็นทางการ เริ่มมีการเปลี่ยนสรรพนาม ไปไหนมาไหนด้วยกัน

อายุห่าง 14 ปี?

ปุ๊ย : ตอนแรกคิดว่าจะจูนยาก เพราะอายุห่างกันเป็นรอบเลย แต่พอเอาเข้าจริงๆ ง่ายมาก เพราะอนิลเองเหมือนเป็นคนที่กลับไปหาความเก่า เค้าทำงานตั้งแต่เด็ก ฟังเพลงเก่า รู้จักคนเก่าๆ เราไม่ต้องปรับตัว เค้าสามารถปรับมาหาเราได้เลย ในขณะที่เราเองวนไปหาความใหม่เหมือนกัน มีจุดร่วมที่ค่อนข้างไปกันได้โดยที่ไม่ต้องปรับตัวไรมาก

อนิล : ไม่มีค่ะ พี่ปุ๊ยเป็นคนที่เข้าใจง่ายมากๆ คึยอะไรก็เข้าใจกันง่าย 14 ปี คิดว่าจะทันกัน

คบกันเพื่อต่างฝ่ายต่างหาประโยชน์ เพราะรู้จักคนเยอะด้วยกันทั้งคู่?

ปุ๊ย : ช่วยกันทำมาหากินมากกว่า แนะนำคอนเนคชั่นให้กัน เอื้อกัน 

เคยแต่งงานมาก่อน แล้วไม่สำเร็จ ประโยคไหนที่พูดแล้วทำอนิลหน้าชา?

อนิล : ต่อหน้าก็เคย ในโซเชียลก็เคย นั่งทานข้าวอยู่ได้ยินก็มีค่ะ 

ปุ๊ย : เค้ามีภาพจำ แต่งออกทีวีด้วยตอนนั้น

ปลอบยังไง?

ปุ๊ย : ผมบอกว่าเป็นเรื่องในอดีต อะไรที่ไม่ดีก็ปล่อยมัน บางทีผมใช้คำว่าไม่มีใครจำเรื่องแย่ๆของเราไปถึง 100 ปีหรอก 

ที่เคยแต่งงานมาจบสวยมั้ย?

ปุ๊ย : มันไปต่อด้วยกันไม่ได้ จบแบบต่างคนต่างไปตามทางตัวเอง ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้

 

ตอนนั้นกลัวมั้ยจะเริ่มต้นใหม่?

ปุ๊ย : ไม่กลัวเลยครับทุกชีวิตย่อมมีดารเปลี่ยนแปลงอยู่แล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราไปกลัว เราจะไม่รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนบ้าง แล้วไปแก้ปัญหาเอาว่ามีอะไรให้เราแก้บ้างและแก้ได้มั้ย ทุกปัญหามันมีทางแก้หมด ทำให้เข้าใจโลกมากขึ้น บ้างเรื่องเริ่มปลง เริ่มมีสวดมนต์ละ คำติฉิน คำวิจารณ์ ปล่อยหูซ้ายทะลุหูขวาบ้างก็ได้

อนิล : หนูยังไม่มากกับวงการ พออยู่กับพี่ปุ๊ยเริ่มมีคอมเมนท์ ใหม่ๆหนูร้องไห้ มีนอยด์ แต่พี่ปุ๊ยจะปลอบเสมอ ให้สนใจคนที่รักเราไม่ต้องไปฟังคนอื่น ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ 

ปุ๊ย : ยอมรับว่าเค้าใหม่กับการต้องไปเจอสังคม พอมาเป็นแฟนเราก็มีผลพวกนี้ตามมาบ้าง

คบเค้าแล้วเราเฟดออกจากทีวี?

ปุ๊ย : ไม่น่าจะเกี่ยว ไปโทษเค้ามันก็ไม่ใช่ ไม่คิดว่าคำพูดพวกนี้ตะทำอะไรเราได้ 

ความหวาน?

อนิล : เป็นการกระทำมากกว่าค่ะ เค้าจะไม่พูดหวานแต่ดูแลเราทุกอย่าง 

มีแพลนจะมีลูกมั้ย?

ปุ๊ย : ก็เคยคุยกันนะ มีลูกกันมั้ยอยากรู้ว่าจะเป็นเด็กยังไง แต่พอช่วงโควิดเปลี่ยนความคิดเลย มันไม่ได้อยู่แปปเดียว

อนิล : ด้วยเศรษฐกิจด้วย โรคภัยไข้เจ็บมันเยอะ อีกอย่างพี่ปุ๊ย 52-53 แล้ว เลยเปลี่ยนความคิดไปหมดเลย แต่อยากมีนะคะ แต่ไม่มีดีกว่า 

เป็นพิธีกรดัง แล้ววันนึงหายไปเลยจยด้วยดีมั้ย?

ปุ๊ย : ด้วยดีนะครับ เราเองก็อยู่มานานมากเกือบ 20 ปี ไม่เคยทำงานกับใครมากเท่านี้ เราอยากทำอย่างอื่นบ้างอยากมีอิสระมากกว่านี้ เราทำเบื้องหลังด้วยเบื้องหน้าด้วย เราอายุเยอะขึ้นด้วย เก่าไปใหม่มาเป็นธรรมชาติของทุกๆที่ ขอออกไปเป็นอิสระ 

ตัดสินใจลาออก คุณอนิลให้คำปรึกษา?

อนิล : ช่วยผ่อนคงายมากกว่า ทำยังไงให้เค้าไม่เครียด เพราะช่วงนั้นหัวเลี้ยวหัวต่อมากจริงๆ แนะนำว่าอะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็เอาตรงนั้น เพราะอายุมากแล้ว ตัดสินใจเลยไม่ต้องลังเลเพราะเค้าเป็นคนขี้เกรงใจคนมาก ไม่ค่อยเด็ดขาด

เสียดายมั้ยออกจากรายการ?

ปุ๊ย : ไม่นะครับ ผมอยู่ตรงนั้น ถือว่าโชคดีมากๆแล้ว ได้รับความเมตตา ความกรุณา ผมไม่มีวันลืม แต่เราอยากทำอย่างอื่นที่นอกเหนือจากนี้ เพราะเราทำตรงนี้เต็มที่แล้ว 

อนิลเจอเรื่องจำไม่ลืมเกี่ยวกับแม่พุ่มพวง?

อนิล : หนูไปอยู่วงพี่ยุ้ย ญาติเยอะ เวลาตอนนั้นกลับมาจากต่างจังหวัดด้วยกัน อยู่บนรถตู้ตี 2 ผ่านวัดทับกระดาน คุยกันว่าแวะหน่อยมั้ย พี่ยุ้ยบอกประตูปิดแล้ว ก็ไม่มีอะไร พี่ยุ้ยบอกร้องเพลงให้ฟังหน่อย นิลก็ร้องเพลง แล้วมีเสียงร้องต่อขึ้นมา ได้ยินทั้งรถเลย เป็นเรื่องที่พี่ยุ้ยกับหนูจำขนลุก แล้วก็ยกมือไหว้บอกเดี๋ยวมาไหว้นะพี่ผึ้งมันดึกแล้ว พี่ยุ้ยจำได้เลยเสียงเป็นเสียงพี่ผึ้ง

มีฝันถึง?

อนิล : ฝันว่าเธออยู่ไหนเราแค่นี้ไม่เห็นมาไหว้เราเลย ในฝันก็ยังเถียงเค้าเลยว่ามัน 100 กว่าโลเลย พอตื่นมาคิดมาได้ว่าพี่ผึ้งเค้าย้ายรกรากมาอยู่กำแพงเพชรแล้วมีพิพิธภัณฑ์อยู่นั่น อาทิตย์ต่อมาก็รีบไปไหว้เลย

มีเลขเชื่อมโยงด้วย?

ปุ๊ย : พี่ผึ้งเสียวันที่ 13 มิถุนา แม่ผมก็เสียวันเดียวกัน

อนิล : หนูผ่าตัดสมองมีผ่า 2 รอบ รอบแรกเดือนตุลา รอบสองผ่าปิดกะโหลกวันที่ 13 มิถุนา เป็นเลขเดียวกันเลย

ปุ๊ย : ความแปลกอีกอย่างเค้าฝันถึงแม่ผม โดยที่ยังไม่เคยเห็นหน้าแม่ผมด้วยซ้ำ จนมาเจอรูปแม่บอกคนนี้แหละที่ฝัน

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ปุ๊ย คืนสิทธิ์ 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ