MADAME WEB

 

Superhero / Psychological Thriller

Released Date: February 14, 2024

 

(Story Based on the Marvel Comics)

 

“Meanwhile, in another universe…”

In a switch from the typical genre, Madame Web tells the standalone origin story of one of Marvel publishing’s most enigmatic heroines. The suspense-driven thriller stars Dakota Johnson as Cassandra Webb, a paramedic in Manhattan who may have clairvoyant abilities. Forced to confront revelations about her past, she forges a relationship with three young women destined for powerful futures…if they can all survive a deadly present.

Madame Web

มาดามเว็บ

“ณ ขณะเดียวกันในอีกจักรวาลหนึ่ง…”

 

นี่คือประโยคที่แฟนๆ ภาพยนตร์มาร์เวลคงจะคุ้นเคยดี เพราะมันเป็นข้อความที่นำไปสู่การบอกเล่าเรื่องราวตัวละครตัวใหม่ๆ ในอีกจักรวาล  ซึ่งดำเนินคู่ขนานไปกับจักรวาลอื่นๆ

 

อีกไม่นานเกินรอ เตรียมพบกับ มาดามเว็บ ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดระทึกที่บอกเล่าเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหามากที่สุดคนหนึ่งในจักรวาลมาร์เวล  ดาโกต้า จอห์นสัน สาวสวยจาก Fifty Shades of Grey รับบท  “คาสซานดร้า เว็บบ์”  หน่วยแพทย์ฉุกเฉินแห่งแมนฮัตตันซึ่งมีนิมิตพิเศษมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า หลังจากผ่านเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับเธออย่างไม่ทันตั้งตัว และนั่นนำไปสู่การค้นพบเรื่องราวในอดีตของตัวเธอเอง และคาสซานดร้ายังได้พบกับสามสาว

จูเลีย (ซิดนีย์ สวีนีย์ สาวสุดฮอตจาก Anyone But You)

อันย่า (อิซาเบลล่า เมอร์เซด จาก Transformers: The Last Knight)

และแมรี่ (เอ็มม่า โรเบิร์ตส์)

เธอค้นพบว่า  ตัวเธอนั้นเชื่อมโยงกับทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

 

ร้ายกว่านั้น คาสซานดร้ายังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจที่ต้องการปลิดชีวิตเธอและสามสาวด้วยเหตุผลบางอย่างเธอจะต้องปกป้องจูเลีย อันย่า และแมรี่ ที่ต่างก็ถูกลิขิตให้กลายเป็นผู้มีพลังพิเศษในอนาคต…และต้องเอาตัวรอดจากจอมวายร้ายที่จะทำทุกอย่างเพื่อพรากชีวิตของพวกเธอทั้งหมด

สัมผัสความมันส์กับ มาดามเว็บ ภาพยนตร์แอ็คชั่นทริลเลอร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่จาก

โคลัมเบีย พิคเจอร์ส และ มาร์เวล

 

ดาโกตา จอห์นสัน รับบท แคสแซนดรา เว็บ (มาดามเว็บ)ทาฮาร์ ราอิม รับบท เอเซคีล ซิมส์ซิดนีย์ สวีนนีย์ รับบท จูเลีย คาร์เพนเตอร์เอ็มมา โรเบิร์ตส์ รับบท แมรี พาร์คเกอร์อิสซาเบล เมอร์เซด รับบท อันยา โคราซอนอดัม สก็อต รับบท เบน พาร์คเกอร์เซเลสต์ โอคอนนอร์ แมตตี แฟรงกลิน

 

พิสูจน์พลังซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนใหม่และใยของเธอที่โยงทุกพลังเข้าด้วยกัน

อนาคตของจักรวาลแมงมุมอยู่ในมือเธอ!

“ดาโกต้า จอห์นสัน” รับบทเป็น มาดามเว็บ

#MadameWeb

พุธที่ 14 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น.

“MADAME WEB”

ข้อมูลงานสร้าง

 

Madame Web ที่แตกต่างออกไปจากแนวภาพยนตร์ทั่วๆ ไป บอกเล่าเรื่องราวที่แยกเป็นเอกเทศของหนึ่งในนางเอกสาวที่ลึกลับที่สุดในการ์ตูนของมาร์เวล ทริลเลอร์ลุ้นระทึกเรื่องนี้นำแสดงโดยดาโกต้า จอห์นสัน ในบท คาสซานดราเว็บบ์ แพทย์ฉุกเฉินในแมนฮัตตัน ผู้เกิดมีพลังในการมองเห็นอนาคตขึ้นมา…และตระหนักว่าเธอสามารถใช้ภาพนิมิตที่เธอเห็นเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ เมื่อถูกบีบให้ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวจากอดีตของตัวเอง เธอก็ได้สานสายสัมพันธ์กับเด็กสาวสามคน ผู้มีชะตากรรมอันทรงพลัง…ถ้าเพียงแต่พวกเธอทุกคนจะสามารถรอดชีวิตจากปัจจุบันสุดอันตรายได้

โคลัมเบีย พิคเจอร์ส ร่วมกับมาร์เวล ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยดิ โบนาเวนทูรา Madame Web นำแสดงโดยดาโกต้า จอห์นสัน, ซิดนีย์ สวีนนีย์, อิซาเบลา เมิร์ซท์, เซเลสต์ โอ‘ คอนเนอร์, ทาฮาร์ ราฮิม, ไมค์ เอพส์, เอ็มมา โรเบิร์ตส์และอดัม สก็อต ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยเอส.เจ. คลาร์คสันและอำนวยการสร้างโดยลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูรา บทภาพยนตร์โดยแมทท์ ซาซามา & เบิร์ค ชาร์ปเลสและแคลร์ ปาร์คเกอร์ & เอสเจ คลาร์คสัน โดยเรื่องราวโดยคาเรมซานก้าและแมทท์ ซาซามา & เบิร์ค ชารป์เลส เค้าโครงจากการ์ตูนมาร์เวล คอมิกส์ ผู้ควบคุมงานสร้างได้แก่อดัม เมอริมส์, เอสเจ คลาร์คสันและแคลร์ ปาร์คเกอร์ ผู้กำกับภาพคือเมาโร ฟิโอเร, เอเอสซี ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคืออีธาน ท็อบแมน มือลำดับภาพคือลีห์ โฟลซอม บอยด์, เอซีอี ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคือนกิลา ดิ๊คสัน ดนตรีโดยโยฮัน โซเดอร์ควิสต์ ควบคุมดนตรีโดยซีซัน เคนท์

เกี่ยวกับภาพยนตร์

“มาดามเว็บไม่เหมือนกับซูเปอร์ฮีโรคนอื่นๆ” ผู้กำกับเอส.เจ. คลาร์คสัน ผู้กุมบังเหียนภาพยนตร์เรื่องนี้ กล่าว ในการนำหนึ่งในตัวละครที่ลึกลับและยากจะหยั่งถึงที่สุดของมาร์เวลมาสู่จอเงิน คลาร์คสันได้กำกับเรื่องราวต้นกำเนิดที่แยกเป็นเอกเทศของตัวละครตัวหนึ่งที่ใช้พลังจิตของเธอในการร้อยเรียงชะตากรรมของทุกคนรอบตัวเธอเข้าไว้ด้วยกัน “หนึ่งในธีมของหนังเรื่องนี้คือคุณไม่จำเป็นต้องเป็นพวกเหนือมนุษย์ถึงจะมีพลังพิเศษได้” คลาร์คสันกล่าวต่อ“พลังของซูเปอร์ฮีโรส่วนใหญ่มาจากความเข้มแข็งและความคล่องตัว สำหรับมาดามเว็บแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องทางจิตวิทยาค่ะ”

ในตอนที่พลังของเธอพัฒนาขึ้นมา แคสซีจะต้องตัดสินใจว่าภาพนิมิตของเธอได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หรือเป็นเพียงแค่สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น และสามารถปัดเป่า หลีกเลี่ยงหรือเปลี่ยนแปลงได้กันแน่ โควทคำพูดแนะนำ: “เธอได้สัมผัสกับอนาคตราวกับว่ามันเป็นปัจจุบันค่ะ” ดาโกต้า จอห์นสัน ผู้รับบทนี้ กล่าว “มันคล้ายกับสัมผัสแมงมุม แต่ในระดับสูงสุด จริงๆ แล้ว มันคือการมองเห็นและได้ยินสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นค่ะ”

ผู้อำนวยการสร้างลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูราอธิบายว่า ตามตำนานมาร์เวล ตัวละครตัวนี้เป็นนักทอ “การเป็นนักทอหมายความว่าเธอสามารถถักทอกระแสกาลเวลาเข้าด้วยกันได้” เขากล่าว “เธอสามารถมองเห็นเส้นเวลาอนาคตที่แตกต่างกันได้ ว่าพวกมันจะประสานเข้าด้วยกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้นอย่างไร การมองเห็นอนาคตและอาจส่งผลกระทบต่อมันได้เป็นความสามารถที่ทรงพลังมากๆ เลยนะครับ”

สำหรับจอห์นสัน โอกาสในการได้สร้างตัวละครตามแบบฉบับของซูเปอร์ฮีโรมาร์เวล แต่ก็แตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง เป็นอะไรที่เย้ายวนใจ มันเป็นโอกาสในการสร้างภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยแอ็กชันเหมือนภาพยนตร์มาร์เวลเรื่องอื่นๆ แต่เป็นการแวดล้อมทริลเลอร์จิตวิทยาลุ้นระทึก “ฉันสนใจมากๆ ในโอกาสของการที่พลังพิเศษของซูเปอร์ฮีโรหญิงจะเป็นพลังจิตน่ะค่ะ” เธอกล่าว “นอกจากนี้ ฉันยังสนใจความสัมพันธ์ระหว่างเธอก็เด็กสาวสามคนที่อายุน้อยกว่าเธอ ว่าเธอกลายเป็นเหมือนแม่ของพวกเธอระหว่างที่ยกระดับพลังของพวกเธอ โควทคำพูดแนะนำ: ค้นพบธรรมชาติที่แท้จริงของพวกเธอในฐานะสไปเดอร์-วูแมน น่ะค่ะ”

“ฉันคิดว่าสิ่งที่ทำให้ฉันทึ่งที่สุดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้คือความจริงที่ว่าพลังพิเศษคือจิตใจของเธอ” คลาร์คสันกล่าว “บทพูดหนึ่งในหนังเรื่องนี้คือ ‘พลังจิตของคุณมีศักยภาพไร้ที่สิ้นสุด‘ และฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งและทรงพลังเหลือเกิน เป็นสิ่งน่าทึ่งที่เราสามารถล้วงลึกลงไปได้ในหนังเรื่องหนึ่งๆ น่ะค่ะ”

“มันเป็นไอเดียที่แปลกใหม่จริงๆ ในแนวหนังสือการ์ตูน เป็นตัวละครที่แตกต่างไปจากตัวละครตัวอื่นๆ ที่เคยปรากฏมาก่อนอย่างสิ้นเชิง” ดิ โบนาเวนทูรากล่าว “เราเห็นเธอค้นพบพลังของเธอ และใช้พลังพวกนั้นช่วยเหลือเด็กสาวสามคน ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง และทุกคนก็จะ โควทคำพูดแนะนำ: ยอมรับอนาคตของพวกเธอในฐานะสไปเดอร์-วูแมน

เด็กสาวสามคนนี้ – จูเลีย คอร์นวอล, อันยา โคราซอนและแมตตี้ แฟรงค์ลิน – ต่างก็เจอกับความท้าทายของตัวเองในตอนที่ชะตากรรมของพวกเธอมาปะทะแคสซี “มีใยแมงมุมต่างๆ มากมายที่แคสซีได้ โควทคำพูดแนะนำ: ชักใยเอาไว้โดยไม่รู้ตัว” ซิดนีย์ สวีนนีย์ ผู้รับบทจูเลีย อธิบาย

ในหนังสือการ์ตูน มาดามเว็บถูกวาดเอาไว้ว่าเป็นหญิงชราตาบอด นั่งรถเข็น แต่เธอก็เป็นหนึ่งในตัวละครมาร์เวลที่ทรงพลังที่สุดเนื่องด้วยความสามารถในการมองเห็นและเปลี่ยนแปลงอนาคต ในฉบับภาพยนตร์ แคสซี เว็บบ์ ที่รับบทโดยจอห์นสัน เป็นหญิงสาวที่กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว และแข็งแรงในตอนที่เธอค้นพบพลังของเธอเป็นครั้งแรกการนำต้นกำเนิดของตัวละครตัวนี้มาสู่จอภาพยนตร์ในเรื่องราวที่ไม่ถูกผูกมัดกับจักรวาลใดๆ เลยเป็นเรื่องที่ทั้ง “เป็นอิสรเสรีและต้องอาศัยทักษะขั้นสูง” ดิ โบนาเวนทูรากล่าว เขาอธิบายว่า ความอิสรเสรีเป็นเพราะทีมผู้สร้างไม่ถูกผูกมัดกับเส้นเรื่องที่ตีพิมพ์เอาไว้แล้วเรื่องไหนทั้งสิ้น แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ตระหนักดีว่าตัวละครตัวนี้ต้องเดินไปทิศทางไหน (หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ มาดามเว็บสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ แต่ทีมผู้สร้างทำไม่ได้)

ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือเอส.เจ. คลาร์คสัน คลาร์คสันโด่งดังในฐานะหนึ่งในผู้กำกับที่ใครๆ ก็ต้องการตัวสำหรับตัวละครหญิงแกร่ง หลังจากที่เธอเคยกำกับมินิซีรีส์เรื่อง “Anatomy of a Scandal,” “Collateral” และ “Love, Nina” ตลอดจนหลายๆ เอพิโซดของซีรีส์ “Succession,” “Orange Is the New Black” และหลายๆ เอพิโซดของซีรีส์มาร์เวลเรื่อง “Jessica Jones” และ “The Defenders” มาแล้ว สำหรับ Madame Web ผู้กำกับกล่าวว่า เธอต้องการนำเสนอภาพนิมิตของแคสซีในภาพยนตร์เรื่องนี้ในแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น “บางทีการมองเห็นอนาคตอาจจะเหมือนการจดจำบางอย่าง และบางครั้ง ความทรงจำนั้นก็ไม่ชัดเจน มันมักจะไม่ปะติดปะต่อ และก็ไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับเวลาคุณจะไม่เคยเห็นมันจากจุด A ไป B และ C ภาพนิมิตและเสียงไม่ได้ตรงกันเสมอไปค่ะ” เธออธิบาย “ฉันก็เลยคิดว่าเราจะหาวิธีการนำเสนอมันออกมาเป็นภาพยังไง และมันก็เกือบจะเป็นเหมือนกับชัตเตอร์ของกล้อง เป็นภาพชั่วพริบตาน่ะค่ะ”

ในการนำสิ่งที่คลาร์คสันเรียกว่า “ความรู้สึกแบบสลับลาย” มาสู่ซีเควนซ์ภาพนิมิต เธอและผู้กำกับภาพเมาโร ฟิโอเรได้ใช้เลนส์แบบแยกชิ้นเพื่อสร้างลุคที่แตกร้าวขึ้นมา “ตัวค่าสายตาจะเปลี่ยนแปลงระดับโฟกัส โดยมันจะทำให้สิ่งต่างๆ ใหญ่ขึ้นและบิดเบี้ยวมากขึ้น ฉันจะโบกเลนส์นี้ตรงหน้าเลนส์พ็อทเทรท ซึ่งจะทำให้โฟกัสอยู่ที่จุดตรงกลางเฟรมในขณะที่ส่วนอื่นๆ จะเลือนรางไป การผสมผสานแบบนั้นจะทำให้เกิดการผิดเพี้ยนและจะบิดภาพตรงหน้าเราให้กลายเป็นอีกภาพหนึ่งค่ะ” คลาร์คสันอธิบาย “หลังจากนั้น ในขั้นตอนโพสต์โปรดักชัน เราสามารถใช้ช็อตค่าสายตานี้เป็นจุดในการตัดต่อ ด้วยการตัดเข้าและออกจากภาพนิมิตและความเป็นจริงของแคสซี”

ภายใต้การกำกับของคลาร์คสัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำมุมมองที่ขับเคลื่อนโดยผู้หญิงมาสู่การเล่าเรื่องราว “มีธีมของการเพิ่มพลังตลอดทั้งเรื่อง ที่เกิดขึ้นจากความจริงที่ว่า ตัวละครแต่ละตัวได้เดินทางไปตามเส้นทางการเดินทางของตัวเอง” คลาร์คสันกล่าว “แคสซีจะต้องคลายปมบาดแผลจากอดีตของตัวเองในการที่จะยอมรับอนาคตได้อย่างสมบูรณ์และเด็กสาวแต่ละคนก็ได้เรียนรู้ว่าพวกเธอมีความแข็งแกร่งภายในตัวเองที่พวกเธอไม่รู้ว่ามีอยู่น่ะค่ะ”

เกี่ยวกับตัวละคร

หัวใจของภาพยนตร์เรื่องนี้คือผู้หญิงสี่คน ที่แยกตัวเองจากคนอื่นๆ ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ พวกเธอเกลี้ยกล่อมตัวเองว่าพวกเธอสามารถอยู่ตามลำพังได้ ในตอนที่ภาพนิมิตของแคสซีนำพวกเธอมารวมกัน พวกเธอก็ได้ค้นพบว่า อนาคตที่แท้จริงของพวกเธออยู่กับกันและกัน

แคสซีถูกเลี้ยงดูมาในบ้านเด็กกำพร้าและแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับแม่ของเธอ เธอรู้เพียงว่าแม่ของเธอเป็นนักวิจัย ผู้ที่แคสซีเชื่อว่าเสี่ยงชีวิตตัวเอง (และลูกน้อยในท้อง) ด้วยการทำการวิจัยที่อันตรายในป่าของเปรูระหว่างที่ตั้งท้องได้เก้าเดือน และจริงๆ แล้ว เธอเสียชีวิตระหว่างคลอด…แต่ก่อนหน้านั้น เธอได้ถูกกัดโดยแมงมุมที่มอบพลังพิเศษให้กับลูกสาวที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาของเธอ

สถานการณ์ในการถือกำเนิดของแคสซีส่งผลกระทบต่อเธอในแบบที่เกินกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้ “เธอคิดว่าแม่ของเธอไม่แยแสเธอ ว่าแม่ของเธอห่วงเรื่องของงานวิจัยมากกว่าสุขภาพของลูกเธอ” จอห์นสันกล่าว “หลังจากโตขึ้นมาโดยไม่มีแม่ เธอก็เป็นคนเย็นชานิดๆ เธอมีเพื่อนสนิทไม่มากนัก และเธอก็ไม่มีครอบครัว เธอหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดแบบนั้นน่ะค่ะ”

แม้กระทั่งงานของเธฮ ในฐานะแพทย์ฉุกเฉินในนิวยอร์ก ก็เหมาะกับนิสัยฉายเดี่ยวของเธอ คลาร์คสันกล่าว “ในฐานะแพทย์ฉุกเฉิน หน้าที่ของเธอคือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและก้าวต่อไป เธอไม่จำเป็นต้องคอยดูแลคนไข้ของเธอในระยะยาว” เธอกล่าว “มันเป็นอะไรที่รวดเร็ว ซึ่งหมายถึงว่าเธอไม่ต้องผูกมัดกับความสัมพันธ์ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักหรือเรื่องอื่นๆ เธอสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ ซึ่งเป็นสถานะที่เธอรู้สึกสบายใจน่ะค่ะ”

ระหว่างทำภารกิจกู้ชีวิตสุดอันตรายจากรถยนต์ที่กำลังจะตกขอบสะพานอยู่รอมร่อ แคสซีก็ติดอยู่ใต้น้ำ และเสียชีวิตไปชั่วอึดใจหนึ่ง…จนกระทั่งเธอกลับมาชีวิตอีกครั้งได้เพราะเบน คู่หูของเธอ แต่ระหว่างที่เธออยู่ใต้น้ำ เธอมองเห็นภาพนิมิต และระหว่างที่เธอดำเนินชีวิตของตัวเอง ภาพนิมิตพวกนั้นก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย “อุบัติเหตุครั้งนั้นส่งให้แคสซีก้าวสู่การเดินทางเพื่อค้นพบพลังพิเศษของเธอค่ะ” จอห์นสันกล่าว “มันเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดพลังพวกนั้น เธอมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่เธอจำไม่ได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอด้วย เธอไม่รู้ว่ามันเป็นความฝันหรือภาพนิมิต เธอคิดเอาเองว่ามันเป็นเพราะอุบัติเหตุ บางทีเธออาจจะ โควทคำพูดแนะนำ: ได้รับบาดเจ็บที่สมอง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของเธอ ที่เธอคิดว่าเธอกำลังเสียสติ แทนที่จะกำลังกลายเป็นซูเปอร์ฮีโรน่ะค่ะ”

แม้กระทั่งก่อนหน้าที่จะเริ่มเกิดภาพนิมิตขึ้น พลังของเธอก็ปรากฏออกมาในรูปแบบของจิตใต้สำนึก ในตอนที่เธอได้พบกับเด็กสาวสามคน เธอได้พบกับจูเลีย คอร์นวอล (ซิดนีย์ สวีนนีย์) ที่โรงพยาบาล หลังจากส่งภรรยาของพ่อของจูเลียเข้าโรงพยาบาลแบบฉุกเฉิน เธออาศัยอยู่ในตึกเดียวกับอันยา โคราซอน (อิซาเบลา เมิร์ซท์) แม้ว่าพวกเธอจะไม่รู้จักกันก็ตาม และเธอก็เกือบชนแมตตี้ แฟรงค์ลิน (เซเลสต์ โอ’ คอนเนอร์) ในตอนที่เด็กสาวเล่นสเก็ตบอร์ดมาขวางทางรถพยาบาลที่แคสซีขับ

“โชคชะตากำหนดให้พวกเธอมาพบกันครับ” ดิ โบนาเวนทูรากล่าว “มีช่วงเวลาที่เส้นทางของพวกเธอมาเจอกันอยู่เรื่อง เธอก็เลยบังเอิญเจอเด็กสาวพวกนี้แต่ละคน แล้วจู่ๆ พวกเธอก็ได้มารวมตัวกับเธอ เหตุการณ์ที่มาบรรจบกันแบบนั้นเป็นเรื่องน่าพิศวงครับ”

จู่ๆ แคสซีก็พบว่าเธอมีความสุขกับการได้ผูกพันกับคนอื่นๆ “นั่นคือความสนุกของ Madame Web ค่ะ” ผู้กำกับกล่าว“เธอพบว่าจริงๆ แล้ว ความรับผิดชอบในการดูแลคนอื่นๆ เป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจสำหรับตัวเธอเองค่ะ”

 

 

*  *  *

 

ขณะที่แคสซีพัฒนาพลังในการหยั่งรู้อนาคตของเธอ เด็กสาวสามคนนี้ก็พบตัวเองอยู่ด้วยกันบนรถไฟ แคสซีเห็นภาพนิมิตว่าพวกเธอถูกจู่โจมโดยผู้ชายคนหนึ่ง ที่สวมชุดซูเปอร์ฮีโรสีดำ เขาสามารถปีนผนังรถไฟและชิงความได้เปรียบจากด้านบนได้ แคสซีช่วยพวกเธอด้วยการดึงตัวพวกเธอออกมาจากรถไฟก่อนที่เขาจะทำสำเร็จได้

วายร้ายลึกลับคนนั้นคือเอซซีคีล ซิมส์ โควทคำพูดแนะนำ: เขามองเห็นภาพนิมิตว่าเขาเป็นชายชราที่ถูกสไปเดอร์-วูแมนสามคนฆ่าตายน่ะครับ” ดิ โบนาเวนทูราอธิบาย “เขาอยู่ระหว่างการทำภารกิจในการค้นหาพวกเธอและฆ่าพวกเธอก่อนที่พวกเธอจะฆ่าเขา ความคิดของเขาคือถ้าเขาจัดการพวกเธอได้ก่อนที่พวกเธอจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็นสไปเดอร์-วูแมน ก่อนที่พวกเธอจะรู้ว่าพวกเธอมีพลัง เขาก็จะสามารถปราบพวกเธอและช่วยชีวิตตัวเขาเองได้น่ะครับ”

“เขาต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดครับ” ทาฮาร์ ราฮิม ผู้ซึ่งการแสดงของเขาใน A Prophet, The Mauritanian และโปรเจ็กต์อื่นๆ ทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลก กล่าว “เขาเป็นคนที่โตมากับความยากจนและได้เห็นครอบครัวตัวเองต้องอดตายความสะเทือนใจนั้นเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผู้มีชีวิตรอดในท้ายที่สุด เขาจะทำทุกอย่างเพื่อมีชีวิตรอด มันเป็นสัญชาตญาณที่งอกเงยกลายเป็นความหมกมุ่นน่ะครับ”

“ตอนนี้ เขาอาศัยพลังพวกนี้ในการรักษาชีวิตของเขา” ราฮิมกล่าวต่อ “มันทำให้เขามองเห็นอนาคต รวมถึงการตายของตัวเองด้วยฝีมือกลุ่มผู้หญิงลึกลับ เขาเริ่มหมกมุ่นกับการตามหาฆาตกรที่ฆ่าเขา เขาแข็งแกร่ง ฉลาด ไม่ย่อท้อ และเขาก็ไม่ยอมให้อะไรมาหยุดยั้งเขาจากการรักษาพลังของตัวเองและช่วยชีวิตตัวเขาเอง คำถามก็คือ การรู้อนาคตได้ช่วยเหลือเขาจากมันรึเปล่า”

 

การฝึกฝน & สตันท์

ในการเตรียมพร้อมสำหรับบทของพวกเขา เหล่านักแสดงได้เข้ารับการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง นอกเหนือการฝึกความอดทนอย่างหนัก เพื่อช่วยพวกเขาในการสร้างกล้ามเนื้อและความอึดแบบที่จำเป็นต่อฉากของพวกเขา นักแสดงแต่ละคนยังต้องฝึกพิเศษสำหรับตัวละครของพวกเธอแต่ละคนด้วย

ผู้ประสานงานฝ่ายสตันท์ ไบรเซน เคานท์กล่าวว่า พวกนักแสดงต่างก็พร้อมรับมือกับงานดังกล่าวด้วยความที่Madame Web ได้นำเสนอ “ส่วนผสมที่น่าสนใจระหว่างสตันท์จริงๆ สตันท์เวอร์ชันซูเปอร์ฮีโรและสตันท์ขับรถ”

ยกตัวอย่างเช่น ฉากที่แคสซีได้ค้นพบพลังของเธอขณะที่เธอจมน้ำ จอห์นสันต้องฝึกใต้น้ำอยู่หลายชั่วโมง “ฉันได้ฝึกกลั้นหายใจสามนาทีครึ่ง ซึ่งแน่นอนค่ะว่าไม่ได้นานเท่าซิเกอร์นีย์ แต่ฉันก็รับไหว” เธอกล่าว “ฉันรู้สึกดีทีเดียวกับความสำเร็จของฉัน โควทคำพูดแนะนำ: และมันก็คุ้มค่าเพราะวันที่ถ่ายทำใต้น้ำสนุกจริงๆ ค่ะ”

นอกจากนี้ จอห์นสันยังได้ปัดฝุ่นฝีมือการขับรถผาดโผนของตัวเองด้วยเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเรื่องด้วยการที่แคสซีซิ่งรถพยาบาลของเธอไปตามท้องถนนในนิวยอร์ก “เจเรมี ฟราย ผู้ประสานงานฝ่ายสตันท์ที่สองของเราพาดาโกต้าไปที่โรงเรียนสอนขับรถในลอสแองเจลิสและให้เธอขับรถไปรอบๆ ซึ่งเธอเก่งจริงๆ ครับ ผมคิดว่าเธอสนุกกับมัน” เคานท์กล่าว

สำหรับนางเอกอีกสามคน มีการฝึกฝนความคล่องตัวเพิ่มเติม “เราฝึกวิธีการเคลื่อนไหวแบบแมงมุมค่ะ” เมิร์ซท์กล่าว“แล้วเราก็ฝึกเตะ และตีลังกาขณะอยู่บนลวดสลิงด้วย ฉันไม่กลัวความสูงและเป็นพวกเสพติดอะดรีนาลินค่ะ มันก็เลยไปได้สวยทีเดียวสำหรับฉัน”

“เราวิ่งกันเยอะมาก และเตรียมงานสตันท์ประมาณสองเดือน” สวีนนีย์กล่าว “ก่อนที่เราจะไปที่บอสตันเพื่อถ่ายทำ พวกเขาก็ทดสอบทักษะของพวกเรา ทั้งการยึดเกาะ การวิ่ง การต่อย การเตะ…จุดแข็งและจุดอ่อนของเรา จากนั้น เราก็ต่อยอดจากมันและเสริมสร้างจุดแข็งของเราให้กลายเป็นสิ่งที่เราต้องการจะนำเสนอสำหรับตัวละครของเราน่ะค่ะ”