ประเภท: ครอบครัว

ความยาว: 92 นาที

ผู้กำกับ: ชาลส์ มาร์ติน สมิธ

เขียนบท: แกร์รี่ เจนกินส์

นักแสดง: ลุค เทรดาเวย์, เจ้าแมวบ็อบ, คริสติน่า ทอนเทอรี่-ยัง, ฟาลดุต ชาร์มา

Synopsis: สร้างจากหนังสือขายดีระดับโลก และภาคต่อของหนังฮิตขวัญผู้ชม A Street Cat Named Bob (2016) ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ เจมส์ และเจ้าแมวเพื่อนซี้ที่สุดของเขา บ๊อบ ในการเดินทางครั้งใหม่ด้วยกัน

ตั้งแต่วันที่ เจมส์ โบเวน ได้ช่วยเหลือแมวจรที่ถูกทิ้งไว้บริเวณโถงทางเดินในที่พักอาศัยของเขา เจมส์และบ๊อบก็ได้เริ่มต้นมิตรภาพที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา นำไปสู่เรื่องราวที่กินใจผู้คนนับล้านทั่วโลก

ใน A Gift from Bob (2020) นั้นจะเล่าถึงเรื่องราวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่เขาและบ๊อบได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบนท้องถนน บ๊อบได้ช่วยให้เขาผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่ง ด้วยการมอบทั้งมิตรภาพและแรงบันดาลใจ อีกทั้งทั้งคู่ยังได้ร่วมกันสัมผัสและเข้าใจถึงความหมายและจิตวิญญาณที่แท้จริงของเทศกาลคริสต์มาสนี้ไปพร้อมกัน

 

เกร็ดน่ารู้

– ภาพยนตร์ภาคแรกนั้นมีเนื้อหาที่อ้างอิงมาจากในหนังสือสองเล่มแรกอย่าง A Street Cat Named Bob และ The World According to Bob ส่วนเวอร์ชั่นทีวีซีรีส์แอนิเมชั่นสำหรับผู้ชมก่อนวัยเรียน อ้างอิงมาจากชุดหนังสือสำหรับเด็ก My Name is Bob และ Bob To The Rescue ส่วนหนังภาคนี้ หยิบเรื่องราวและเนื้อหาจาก

หนังสือเล่ม A Christmas Gift from Bob มาดัดแปลง ที่เล่าถึงตอนที่เจมส์และบ๊อบใช้เวลาร่วมกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ก่อนที่เจมส์จะได้ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนหนังสือขายดีในที่สุด

– โดยหนังภาคนี้ได้ ชาลส์ มาร์ติน สมิธ นักแสดงที่ปัจจุบันผันตัวมาทำงานเบื้องหลังในตำแหน่งผู้กำกับภาพยนตร์ เข้ามารับหน้าที่ผู้กำกับแทน โรเจอร์ สปอตติสวู้ด ผู้กำกับจากภาคแรก ซึ่งชาลส์มีเครดิตผลงานที่โดดเด่นในภาพยนตร์แนวครอบครัวและมีสัตว์เป็นตัวละครหลัก เช่น จากหนังอย่าง Dolphin Tale 1 & 2 (2011 & 2014) และ A Dog’s Way Home (2019) ซึ่งเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จบนตารางบนบ็อกซ์ออฟฟิศ

– ด้านตัวละครสำคัญอย่าง บ๊อบ ที่มีอายุมากขึ้นสี่ปีและยังมีความขี้กังวลอยู่เล็กน้อย บ๊อบจึงต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ก่อนที่จะมาร่วมจอในภาพยนตร์ สำหรับเจ้าแมวในหนังนั้นรับบทโดยทั้งตัวจริงอย่างบ๊อบ รวมถึง ลีโอ, จัฟฟา และตัวอื่นๆ ที่เคยรับบทแทนเป็นบ๊อบมาแล้วในภาคแรก ซึ่งทุกๆ ตัวได้รับการฝึกฝนโดย จิลล์ คลาร์ก ผู้ฝึกสอนแมวที่ร่วมงานมาตั้งแต่ภาคที่แล้วด้วยเช่นกัน

– มีการถ่ายทำทั้งภายในสถานที่และภายนอกสถานที่ ณ รอบๆ กรุงลอนดอนตะวันตกอยู่หลายแห่ง รวมถึงการสร้างฉากขึ้นมาภายในสตูดิโอทวิคเคนแนม อีกทั้งสถานที่หลักที่ได้รับการกล่าวถึงในหนังสือและหนังภาคแรกอย่าง คอนแวนต์ การ์เดน (Covent Garden) และ แองเจล อิสลิงตัน (Angel Islington) ก็ยังคงใช้เป็นส่วนของสถานที่ในเรื่องราวภาคต่อนี้เช่นกัน

– ส่วนเรื่องจริงของเจมส์กับบ๊อบนั้น เจมส์ โบเวน เคยเป็นคนขับรถบัส และได้เข้ารับบำบัดจากการติดยาเสพติดในปี ค.ศ. 2007 เขาได้ช่วยเหลือ บ๊อบ แมวที่บาดเจ็บและถูกทอดทิ้งไว้ให้มันกลับมามีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นอีกครั้ง เจมส์และเจ้าแมวบ๊อบได้กลายเป็นภาพจำของผู้คน ด้วยการที่ทั้งคู่มักจะอยู่ด้วยกันชนิดตัวแทบติดกันเสมอๆ

– ในปี ค.ศ. 2012 เจมส์ได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า A Street Cat Named Bob ที่เป็นบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับมิตรภาพของเขาและบ๊อบ จนได้กลายเป็นหนังสือขายดีระดับโลก และได้รับการดัดแปลงมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2016

– ปัจจุบันเจมส์ยังคงอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ซึ่งเขาแต่งเพลงและเป็นผู้สนับสนุนด้านการกุศลแก่บุคคลไร้บ้าน และองค์กรด้านสวัสดิภาพของสัตว์

– อย่างไรก็ตาม ช่างน่าเศร้าที่ บ๊อบ เจ้าแมวแสนโด่งดังอันเป็นที่รักของคนทั่วโลกได้จากเราไปในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2020 เรื่องราวของมันจะเป็นที่จดจำตลอดไปผ่านในภาพยนตร์ และในช่วงคริสต์มาส 2020 นี้แฟนๆ จะได้เห็นบ๊อบในผลงานชิ้นสุดท้ายอย่าง A Gift from Bob ที่จะเข้าฉาย 24 ธันวาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

– เจมส์ โบเวน ได้กล่าวถึงการจากไปของบ๊อบไว้ว่า “บ๊อบได้ช่วยชีวิตผมไว้ บ๊อบเป็นมากกว่าแค่ความเป็นเพื่อน ด้วยการที่มีเขาอยู่เคียงข้างทำให้ผมได้พบกับเส้นทางของชีวิตและบรรรลุจุดหมายบางอย่างที่ผมมักพลาดไป การประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามของเราผ่านหนังสือและภาพยนตร์นั้นมหัศจรรย์มาก ผู้คนนับล้านได้สัมผัสกับเรื่องราวของบ๊อบ ไม่เคยมีแมวตัวไหนเหมือนเขา การจากไปของบ๊อบให้ความรู้สึกเหมือนแสงสว่างที่เกิดดับลงในชีวิต และผมจะไม่มีวันลืมเขา”