เน็ตไอดอลสายใต้ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่พักหลังๆ มักจะลงรูปชุดว่ายน้ำสุดแซ่บแบบถี่ๆ ทำคนสงสัยหรือสถานะหัวใจกำลังเป็นสีชมพู พร้อมเปิดมูลค่าของขวัญหลังเรียนจบที่พี่สาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เปย์ให้ รวมไปถึงเรื่องที่น้อยใจพี่เพราะไม่ชอบอยู่กรุงเทพฯ และถ้าเลือกได้ขอกลับไปอยู่ใต้เหมือนเดิม ผ่านรายการคุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์หนิง ปณิตา และซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เรียนม.6จบแล้ว?  

ลิลลี่ : ใช่ค่ะ ก็เกือบติด 0 ติด อยู่นะ (หัวเราะ)    

อันนี้พูดจริงหรือพูดเล่น?   

ลิลลี่ : พูดจริงค่ะ เพราะหนูไม่ค่อยมีเวลา คือหนูจะมีเวลาก็ต่อเมื่อไม่มีงานและไปของานจากครูแล้วเอามาเคลียร์ทั้งหมด

ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอย่างที่ทุกคนรู้?  

ลิลลี่ : ใช่ค่ะ เหนื่อยค่ะ เพราะมันไม่ได้เจอแค่เรื่องงานข้างในและข้างนอก แต่มันยังเจอสังคม เคยมีร้องไห้แต่รู้สึกว่าเราร้องไห้ไปก็แค่นั้น เรารู้สึกว่าถ้าร้องไห้เอาเวลาไปทำการบ้านดีกว่า    

เราจัดการเรื่องเรียนกับเรื่องงานและก็ความรู้สึกตัวเองยังไง?  

ลิลลี่ : ถ้าเรื่องงานหนูจะมีพี่เจนช่วยอยู่แล้ว เพราะพี่เจนเป็นคนรับงานทุกอย่าง แต่ถ้าเรื่องเรียนก็จะมีเพื่อนช่วยเหมือนกันเก็บงานอันนั้นให้อันนี้ให้ และถ้าไม่เข้าใจหรืออะไรก็จะถามเพื่อน แต่ถ้างานไม่ไหวก็จะให้พี่แดนซ์เซอร์ช่วยอย่างเรื่องพิมพ์งาน หรือข้อสอบเป็นลิงค์

เรื่องสังคมโรงเรียนคือเรื่องอะไร ที่บอกทำให้หนักใจ?  

ลิลลี่ : สังคมโรงเรียนคือเราไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนเพื่อน คือบางมุมเราก็ต้องเข้าใจว่า บางทีก็ไม่ได้มีใครชอบเราทุกคน เรามองว่าสังคมโรงเรียนเป็นอะไรที่สนุก และสดใส เพราะมันเป็นวัย 13-18 แต่บางมุมของหนูคือเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ก็ไม่ได้ชอบเราเสมอไป และพอมีข่าวเรื่องเสียหายคนที่แชร์ข่าวเราคือคนในโรงเรียนเราก็เลยรู้สึกแย่ เพราะมันคือคนใกล้ตัวเราก็แค่คิดว่าคนใกล้ตัวมันก็ต้องสนับสนุนกันสิ ถ้าไม่สนับสนุนก็ไม่จำเป็นต้องไปแชร์ในเรื่องราวที่ไม่ดีของเรา

ลึกๆ เขาแอบอิจฉาหรือเปล่า?  

ลิลลี่ : คือหนูไม่รู้เหมือนกัน จริงๆ ถ้าหนูไม่ชอบใครหรืออิจฉาใครหนูก็จะอยู่เงียบๆ  

แล้ว วันนี้อโหสิให้เขามั้ยเพราะเรียนจบแล้ว?  

ลิลลี่ : เราก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้มาเป็นเรา ถ้ามาเป็นเราเขาก็จะเข้าใจ

ได้มีโอกาสเคลียร์กับเขามั้ย ลิลลี่ : ไม่ค่ะ เพราะคนไม่ชอบน่าจะเยอะอยู่ (หัวเราะ)  

ในสังคมโรงเรียนที่ลิลลี่กลุ้มใจเพราะคนไม่ชอบเยอะกว่าคนที่ชอบเรา คิดไปเองหรือเปล่า?  

ลิลลี่ : ไม่ได้คิดไปเองค่ะ อย่างแชร์ๆ กันข่าวหนูก็จะเข้าไปดูก็จะมีคนนี้อยู่โรงเรียนเดียวกับเรา อ่าวแล้ววันนั้นยังยิ้มให้กันอยู่เลย ยกมือไหว้กันอยู่เลย ถ้าเกิดถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมายิ้มให้ดีกว่า

ตอนนี้เรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่หรือยัง?  

ลิลลี่ : ก็บางมุมค่ะ บางมุมเป็นเด็กบางมุมเป็นผู้ใหญ่ บางมุมที่เป็นเด็กเพราะเรายังอยากอ้อนแม่อยู่ บางทีไปนอนตัดแม่บอกให้แม่อุ้มหน่อย แม่ยังอุ้มไหว

เรียนจบที่เป็นข่าว เจนนี่กับคุณแม่ให้อะไรเป็นของขวัญบ้าง?  

ลิลลี่ : ก็พี่เจนจะให้เป็นพวกมาลัยเงินหลักหมื่น ส่วนคุณแม่จะให้เป็นสร้อยเล็กๆ คือจริงๆ ไม่ได้หวังว่าจะให้เงินหลักแสนหรือรถอีกคัน เพราะรู้สึกว่าการที่เขาให้ถือว่าเขายินดีกับเราแล้ว เพราะเขาก็ซัพพอร์ทเราเสมอ  คือจริงๆ หนูได้เกรดแต่ละเทอมหนูก็จะเอาไปโม้ แต่ก็ไม่ได้ต้องการให้เขาซื้อของขวัญให้หนูหน่อย แค่จะบอกว่าหนูทำได้แค่นี้นะเพราะหนูทำงาน ถ้าเขาซื้อของขวัญให้มันก็เป็นทั้งกำไรและโบนัส ส่วนของขวัญมูลค่าเกิน 5 หมื่น ก็ถือว่าเยอะมาก

ไม่ได้คาดหวังกับสิ่งที่จะได้ แล้วหนูคาดหวังอะไรมั้ย?  

ลิลลี่ : ไม่ได้หวังอะไรค่ะ แค่ครอบครัวไม่ได้ทะเลาะกันแล้วก็มีกินแบบทุกวันนี้ก็ดีมากแล้ว  

ของขวัญวันเกิดที่มีดราม่าหนัก

ลิลลี่ : รถคันนี้เป็นรถมินิคูเปอร์เอสสีเขียวมะนาว จริงๆ คือหนูไม่ได้อยากได้สีนี้มันแปร๊ดไปไม่คิดว่าพี่เจนกับแม่จะเลือกสีนี้ให้ มันเป็นรถในฝันเพราะอยากได้ตั้งแต่ .2-.3 แล้ว มันเปิดข้างบนได้ และกะทัดรัดสวยงามอ้วนๆ  

ส่วนดราม่ามาได้ยังไง?  

ลิลลี่ : คือหนูอะไปโผล่หัวขึ้นหลังคา แล้วหนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีดราม่า พี่เจนส่งมาหนูก็ตกใจทุกคนด่าหนูหรอ สรุปด่าหนูก็อยู่เฉยๆ รถไม่ได้วิ่ง   

อ่านทุกข้อความคอมเมนต์เลยหรอ?  

ลิลลี่ : อ่านหมดค่ะ ขนาดเรายังไม่รู้เลยว่าเป็นข่าว ไม่มีอันไหนที่ปรี๊ดสุดเพราะพยายามมองข้าม แค่ไม่เก็บความคิดพวกนั้นมาตอนที่เรายังดีใจอยู่ 

ลิลลี่อายุ 14 กับ 18 ทุกวันนี้จัดการความรู้สึกที่โดนคอมเมนต์แรงๆ ได้ดีขึ้นหรือยัง?  

ลิลลี่ : หนูรู้สึกว่าดีขึ้น เพราะเจอมาเยอะ และพี่เจนก็สอนมาตลอด ถ้าเป็นเรื่องนี้เราก็รู้สึกว่าโตกว่าคนอื่น  

คิดมั้ยว่าอะไรที่ทำให้เราโดนว่าอยู่ตลอด?  

ลิลลี่ : อาจจะเป็นเพราะมีคนไม่ชอบ แล้วหลายๆ สื่อที่ออกมาถ้ามีกระแสหรือผลต่อเขาก็ทำออกมาอีก เภราะหนูกับพี่เจนก็จะมีคนไม่ชอบเยอะ    

เคยแอบน้อยใจมั้ยว่าวัยแบบเราแต่ต้องมาเจอแบบผู้ใหญ่ คำด่า คอมเมนต์ที่รู้สึกว่ามันหนักไป เคยน้องใจมั้ย?  

ลิลลี่ : น้อยใจค่ะ การที่หนูเป็นแบบนี้เพราะหนูมีงานมีชื่อเสียง ถ้าหนูไม่มีสองอย่างนี้หนูก็จะไม่มีเงิน

อายุ 14 แล้วดังตู้มเลย ตอนนี้อายุ 18 แล้ว ตอนนั้นรู้สึกยังไง?  

ลิลลี่ : คือหนูก็ยังตกใจกับตอนนั้นเพราะไม่คิดว่าพี่เจนดังไปแล้วคนนึงแล้วมันก็สุดยอดมากแล้ว เพราะพี่เจนได้ซื้อบ้านให้ครอบครัวเพราะเป็นสิ่งที่ครอบครัวอยากได้ มันเหมือนความฝันไม่คิดว่าหนูจะดังอีกคน งานเยอะมาก ยอดวิวเยอะมาก คนชอบเยอะมาก ไม่คิดว่าพี่เจนไปออกคอนเสิร์ตทุกวันหนูจะได้ทำอย่างนั้นด้วย มีคนกรี๊ดด้วย   

สิ่งที่เพื่อนเรามีแต่เราไม่มีคือชีวิตวัยรุ่นหายไป เสียดายมั้ย

ลิลลี่ : ก็รู้สึกเสียดาย เพราะหนูเป็นคนที่แม่หวงด้วย ถ้าจะไปขี่รถเครื่องแม่ก็ห่วงด้วย มีคนมาขอถ่ายรูป แต่ถ้าต้องแลกกับเงินทองที่มาซื้อบ้านและอย่างอื่นให้กับครอบครัวหนูโอเค   

มีช่วงจังหวะเวลาที่เขวหรือหลุดมั้ย พอมีเงินทองชื่อเสียงมา

ลิลลี่ : น่าจะมีช่วงแรกๆ หนูไม่เคยอยู่ในสังคมนี้เลยไม่รู้ต้องทำตัวแบบไหน คือไม่มีคะ ขา ฟังดูเป็นเด็กกร้าวร้าว นิสัยไม่ดี    

เคยคิดว่าลืมตัวมั้ยพอดังขึ้น?  

ลิลลี่ : ไม่เคยนะคะ เพราะพี่เจนกับแม่จะคอยเตือนอยู่ตลอด

 

ช่วงหลังใครตามอินสตาแกรมของลิลลี่ก็จะเห็นลงรูปชุดว่ายน้ำบ่อย?  

ลิลลี่ : หนูคิดว่าคนเราต้องมีหลายร่างในคนเดียวกัน คนอาจจะเห็นเราในชุดนอน ชุดกีฬาเราก็ถ่ายลง พอชุดว่ายน้ำทำไมจะถ่ายลงไม่ได้ เห็นพี่เจนลง เราก็เลยถ่ายบ้าง พอถ่ายเสร็จเราก็ใส่เสื้อกีฬาแล้วก็กางเกงลงเล่นน้ำ เหมือนเราเอาไปหลายๆ ชุดแล้วก็เปลี่ยนถ่ายๆ ไม่ใส่ซ้ำ ใส่เสร็จก็เอาไปขาย    

เคยเจอโรคจิตมั้ย เพราะดาราเจอมาเยอะ เรื่องชุดชั้นในอะไรแบบนี้

ลิลลี่ : คือถ้านางแบบเซ็กซี่มันก็น่าจะมีโรคจิต แต่คือหนูไม่ได้เซ็กซี่เลยไม่โดน   

มีพี่สาวหรือแม่ช่วยสกีนชุดมั้ย?  

ลิลลี่ : จริงๆ ไม่ต้องถึงแม่กับพี่เจนเพราะหนูรู้ควรทำแบบไหนเซฟตัวเองใส่ซัพในทั้งชุดขึ้นคอนเสิร์ตและชุดว่ายน้ำ

เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าถ้าจบ .6 จะมีแฟน ตอนนี้มีแฟนหรือยัง?   

ลิลลี่ : ยังไม่มี  

มีคนมีจีบมั้ย

ลิลลี่ : ถ้าคนเข้าหาเยอะ ไม่มีจีบ ถ้าสเปกที่คิดไว้อายุหรือมากกว่าไม่เกิน 3 ปี สูงกว่า ชอบคนผิวคล้ำ ไม่ 15 ก็ 21 ไม่ผอมและไม่อ้วน นิสัยอบอุ่นเข้าใจ และรับตัวเราได้ เพราะเราไม่เหมือนคนอื่น   

ที่ไม่เหมือนคนอื่นคือยังไง

ลิลลี่ : คือหนูทำงานเยอะด้วยและไม่ค่อยมีเวลาด้วย ถ้าสมมตว่าเข้าใจและรับข้อนี้ได้ เราก็น่าจะคุยกันได้ ถ้าจะเปิดรับคือถ้ามีเวลาค่อยไปดูหนังด้วยกัน ไม่ถึงขนาดต้องตามไปถึงเฝ้าขอบเวทีคอนเสิร์ต แต่ถ้าอยากมาดูก็มาดูได้

เรียนจบแล้ว แพลนที่จะไปเรียนต่อที่ไหน?  

ลิลลี่ : ก็แอบคิดกรุงเทพฯ 10% แต่ที่บ้านดีกว่า ไม่ชอบรถติด คนเยอะ สั่งอาหารมาทานที่บ้านค่าส่งแพง    

พี่เจนอยากย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ลิลลี่ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร?  

ลิลลี่ : ไม่เห็นด้วยค่ะ เหตุผลที่หนูบอกไป แม้จะใช้ถนนเรายังต้องจ่ายค่าทางด่วนเลย แล้วกรุงเทพฯ รถติด แค่ชาไทยที่กรุงเทพฯ ยังสู้ที่บ้านหนูไม่ได้เลย รสนิยมเด็กบ้านๆ เราอยากอยู่แบบนั้น คืออยู่ทางนั้นของถูกกว่า ทำงานมาได้เราก็อยากเก็บเงิน     ถ้างานเราอยู่ที่นี่มากขึ้น อาจต้องย้ายมาก็มาได้แต่ถ้าต้องให้เลือกก็อยากอยู่ที่นู้น เดือนนี้ก็มาที่กรุงเทพฯ 2-3 สัปดาห์แล้ว อยู่บ้านพี่เจน 

ถ้าต้องมาทำงานที่นี่อยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองมั้ย?  

ลิลลี่ : อยากมีเพนเฮ้าส์ เพราะมันสูงแล้วสวยดี     

น้อยใจพี่สาวรุนแรงมาก เรื่องอะไร?  

ลิลลี่ : เป็นเรื่องที่พี่เจนมาอยู่กรุงเทพฯ เนี่ยแหละ เพราะหนูกับแม่จะชอบที่ใต้เพราะของราคาถูก แต่พี่เจนจะบ่นเสมอว่าอยากให้ทุกคนกินข้าวพร้อมหน้า เราก็คุยแต่พี่เจนบอกว่าจำเป็นต้องอยู่เพราะงานเขาอยู่ที่นี่มากกว่า ก็คุยกันจริงๆจังๆ ค่ายก็ให้ลิลลี่ช่วยดู จะมาเมื่อไหร่เดี๋ยวพี่จองตั๋ว ก็มาได้ตลอด 

ถ้าพี่สาวดูอยู่อยากบอกอะไรกับพี่สาว?   

ลิลลี่ : ก็ขอบคุณที่ดูแลน้องอย่างดีมาตลอด รู้ว่าพี่มีภาระหลายอย่างแต่ก็ยังคอยหางานให้น้อง และยังดูแลน้องหลายอย่างขนาดมีลูกและสามีแล้ว

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น 

https://youtu.be/LyGIIrAL1Ok

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ