สมฉายาตัวตึงประจำพรรคก้าวไกล สำหรับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล  ที่ไม่ว่าไปดีเบตที่ไหน ก็ล้มคู่วาทะแบบมีเหตุผลได้เสมอ ล่าสุดรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8  ขอเชิญเจ้าตัวมานั่งสอบถามว่า ทำไมพรรคก้าวไกล ถึงพลิกโฉมปรากฎการณ์เรื่องตั้งในประเทศไทยได้ โดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานครที่ชนะไปถึง 32 เขต จาก 33 เขต งานนี้เจ้าตัวพร้อมตอบแบบเคลียร์ทุกเรื่อง พร้อมข่าวลือที่หลายคนอยากรู้เช่น การปฏิรูปกองทัพ, ประเทศชาติต้องการเทคโนโลยี เพื่อปกป้องประเทศ, หลังเลือกตั้งยังคงติดดินเหมือนตอนหาเสียงจริงไหมฯลฯ แฟนๆสามารถติดตามคำสัมภาษณ์เต็มๆได้ทางยูทูบช่อง 8  https://www.youtube.com/live/T6m8IuDb-4E?feature=share

   เท่านั้น

เดี๊ยนอยากจบเรื่องไข่ต้ม คุณวิโรจน์ไปวางระเบิดอะไรเรื่องกินไข่ต้มคะ?

            ผมว่า ณ วันนี้ก็น่าจะจบแล้วนะครับ แต่ว่ามันมีเรื่องที่เราจะต้องทำงานต่อก็คือว่า การดูหนังสือในระบบกระทรวงศึกษาธิการทั้งหมด มันเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสมเหตุ สมผลหรือไม่ อันนี้ต้องเป็นเรื่องที่เราต้องทำงานต่อ เพราะการทำให้เด็กยอมรับการอัตคัดขัดสน ยอมรับกับชะตากรรมของตัวเอง ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นวิถีการศึกษาของโลกยุคใหม่

ที่คุณพิธาเคยประกาศนะคะ “วันใหม่ของประชาชน มาถึงแล้วครับ” คำพูดมันสื่อถึงอะไร?

            เราก็เจอปัญหากับเรื่องเศรษฐกิจ กับยุทธศาสตร์กับชาติ 20 ปีที่ผ่านมา เราก็พบแล้วว่าเราต้องเจอกับนายทุนผูกขาดควบรวม ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก ค้าส่งก็ดี หรือจะเป็นนายทุนเกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคมก็ดี ล่าสุดอย่างอินเทอร์เน็ต และการควบรวมผูกขาดที่ประชาชนทุกคนได้รับผลกระทบในเรื่องของนายทุนโรงไฟฟ้ามั้งครับ ที่เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟแทน พอบรรยากาศที่เราอยู่ในการผูกขาดแบบนี้ โอกาสคนรุ่นใหม่ กิจการเล็ก กิจการน้อยมันก็อยากถูกไหมครับ ปัญหาเศรษฐกิจมันก็พัวพันเกี่ยวกับการเมืองอย่างที่แยกกันไม่ออก สุดท้ายมันทำให้ประเทศเราขาดโอกาสสำหรับคุณตัวเล็กๆ สำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน คราวนี้คุณพิธาก็พูดถึงว่า มันเป็นโอกาสที่ทำให้ประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน ปัญหาความเหลื่อมล้ำก็จะได้การแก้ไขเสียทีครับ

คะแนนเสียงไม่น้อยนะคะมันมากพอที่จะตั้ง ค.ร.ม ไหมคะ?

            จริงๆพออยู่แล้วครับ เป็นตัวเลขที่เพียงพอแล้ว พอสำหรับอำนาจบริหาร และทำให้ฝ่ายค้านไม่ด้อยในประสิทธิภาพในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลด้วย สมมุตว่าเรารวมถึง 400 เสียง ด้วยความกลัวสมาชิกวุฒิสภา เพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว. โดยที่เราลืมไปว่าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลด้วย 400 ต่อ 100 เราจะรู้สึกเลยว่า เสียงขอฝ่ายค้านมันน้อยมาก แสดงว่าเรากลัว สว.จนกระทั่งเรา ไปทำลาย หรือทำร้ายระบบตรวจสอบถ่วงดุลของสภาผู้แทนราษฎรเสียเองถูกไหมครับ ดังนั้นผมว่ากับการรวมตัวอย่างเหนียวแน่นกับพรรคที่มีอุดมการณ์ที่ใกล้เคียงกัน มีแนวคิดเชิงนโยบายที่ ใกล้เคียงกัน และเคยทำงานร่วมกันมาก่อนด้วยส่วนนึง ผมเชื่อว่ามันจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ การมีเสียงมากเกินไป แต่มีพรรค หรืออุดมการณ์ที่แตกต่างกันมากเข้ามารวมกัน บางครั้ง จำนวนเสียง ส.ส.ที่มาก แต่การรวมกลุ่มกันเหมือนแบบต่างคนต่างความคิด บางทีมันเป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนรัฐบาลด้วยซ้ำ

ขออนุญาตถาม ขอโทษนะคะ เป็นสว.ที่ได้รับเกียรติ นั่งอยู่ตรงนั้น 250 ท่าน การที่จะลุกขึ้นมาออกความเห็นอะไร ไม่ดูกาลเทศะในช่วงชั่วโมงนี้ พูดเสร็จแล้วชาวบ้านด่ากันทั่วบ้านทั่วเมือง คุณว่าสมควรไหมคะ?

            สำหรับคนนั้นแล้วกันนะ ผมว่าก็ไม่ควรพูดหรอก เพราะล่าสุดก็มีการพูดถึงจระเข้พันเล็ก ออกอากาศเลยถูกไหมครับ ผมว่า สว.หลายท่านที่นั่งฟังอยู่ ก็ไม่เห็นด้วยหรอกนะครับกับเจ้าพฤติกรรมกับส.ว.ท่านนั้น

คำว่าเสียงส่วนใหญ่ คะแนนส่วนมากมันคือทำอะไรก็ได้หรือเปล่าคะ?

            เรื่องนี้ สังเกตว่าคุณพิธา จะพูดย้ำอยู่เสมอว่า คุณพิธา จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชนทุกคน ทั้งคนที่เลือกและคนที่ไม่เลือกก้าวไกล ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งเลือก และไม่เลือกก็เป็นเจ้านายของพวกเราทุกคน ผมมองอย่างนี้ด้วยซ้ำไป การที่ประชาชนยังไม่ได้เลือกเรา จริงๆแล้วเป็นหน้าที่เรา อาจจะสื่อสารยังไม่ได้พอ ยังพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ดีพอ ถ้าเราสามารถอธิบายถึงความตั้งใจดีของเรา แล้วเราทำงานให้เขาเห็นประสิทธิภาพการทำงานจริงๆ ผมเชื่อว่าคนก็จะเลือกเรามากขึ้น เพราะฉะนั้นเวลาคำว่า ส.ส.ก้าวไกล ก็ต้องเป็น ส.ส.ของประชาชนทุกคน นายกฯก็ต้องเป็นนายกฯของทุกคน รัฐมนตรีในอนาคตก็ต้องเป็นของทุกคน ทางกรรมการบริหารพรรค และคุณพิธาย้ำกับพวกเราทุกคนอยู่เสมอ

อดกังวลไม่ได้นะคะ เรื่องไอทีวี เดี๊ยนกลัวเรื่องเอกสารวันเก่าๆ จะลงเล่นการเมืองทำไมไม่เคลียร์เอกสารให้เรียบร้อย มันคือเผอเรอ หรือพลาด?

            ไม่ได้พลาดหรอกครับ คือเรื่องไอทีวี คนชอบใช้คำว่าขุด มันไม่ขุดนะครับ คุณพิธาเปิดเผยให้กับ ป.ป.ช. ทราบโดยเปิดเผยอยู่แล้วครับ การได้มาซึ่งหุ้นไอทีวี ไม่ได้ไปซื้อมา หามา แต่มาจากการที่คุณพ่อเสียชีวิต แล้วคุณพิธาอยู่ในฐานะผู้จัดการมรดก เราต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน ถ้าเราเอาจุดนี้ยึดว่าผิด นั้นหมายความว่าอนาคตส.ส. รัฐมนตรีคนใด คุณพ่อหรือคุณแม่เสียชีวิต แล้วต้องมาเป็นผู้จัดการมรดก เผอิญว่ามีหุ้นสื่อจะต้องผิดกฎหมาย ต้องเด้งจากตำแหน่งทันที ผมว่ามันก็คงไม่ใช่ ประการที่ 2 ก็คือว่าจำนวนหุ้นที่คุณพิธาถือ 42,000 หุ้น เข้าใจว่าจาก 1,200 ล้านหุ้นจากไอทีวี ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ถือว่าสัดส่วนน้อยมาก ซึ่งศาลฎีกาก็เพิ่งมีพิพากษาเด็ดขาดกรณีของคุณชาญชัย อดีต ส.ส.นครนายกว่า ถ้าสัดส่วนในการถือหุ้นน้อย จนไม่สามารถแทรกแซงหรือสั่งการให้บริษัทสื่อ เอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองได้ ก็ถือว่าไม่ได้มีความผิด การตัดสินก็ต้องดูเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญด้วย ดังนั้นในกรณีของคุณพิธา ถ้าอ้างอิงตามคำพิพากษาศาลฎีกา เราเลยสบายใจมาก แล้วต่อให้ว่าสั่งการได้ ไอทีวีก็ยุติกิจการไปตั้งแต่ 2550 แล้วครับ หุ้นก็ถูกถอนจากตลาด 2557 มั้งครับ เราไม่ได้มองว่าบริษัทอยู่หรือไม่ แต่มีเอกสารที่เป็นนิติกรรมอยู่ ทำไมไม่จัดการทำลาย หรือจัดการลาออกปิดจ็อบ? มันก็คงมีกระบวนการ ในเรื่องของการเป็นผู้จัดการมรดกครับ แต่ว่าพอมีกระบวนการตรงนี้ คุณพิธาเลยตัดสินใจเปิดเผยเลยครับ กับ ป.ป.ช. คือไม่ได้ขุด เปิดเผยเลย และมีการหารือกับ ป.ป.ช.มาโดยตลอด ดังนั้นเรื่องนี้ผมคิดว่าสบายใจได้

การเลือกตั้งที่ผ่านมา ก้าวไกล เป็นปรากฎการณ์เลือกตั้งไทย เทกันไปหลายจุด คุณคิดว่านโยบาย แผนการที่ทำ และวางมาตลอดระยะเวลานั้นประสบความสำเร็จอย่างไรบ้างคะ?

            ผมว่าความสำเร็จมันเกิดจากหลายๆส่วนครับ อย่างทีมงานเบื้องหน้า เบื้องหลังที่ทำหน้าที่ในการสื่อสารนโยบาย เขาก็ทุ่มเทและใช้ความคิดสร้างสรรค์กันมาก ต้องยอมรับว่าคลิป และการสื่อสารต่างๆ เรามีงบประมาณที่จำกัดมากนะครับ แต่ด้วยความตั้งใจ สมัครใจ และไอเดียความคิดสร้างสรรค์ ของทีมงานทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ก็ทำให้งบประมาณที่จำกัด และเวลา ทรัพยากรที่จำกัด กลายมาเป็นการสื่อสารที่ประสิทธิภาพ อาสาสมัครเยอะ? เยอะครับ มาด้วยใจเยอะ ประเด็นที่ 2 ที่คุณพิธาพูดว่าผู้สมัครคราวนี้ เราคัดสรรมาอย่างดี ทุกคนก็มีความขยันในพื้นที่อย่างมาก เรื่องไอที? เรื่องไอที อาจารย์รู้ไหมว่าทุกคนคิดว่าเราใช้ไอทีโซเชียลมีเดีย แต่เชื่อผมไหม เราพยายามบอกให้ผู้สมัครเราลงพื้นที่ เคาะประตูบ้าน ให้เอาตัวเอาหน้ามาให้ประชาชนเจอ หรือเอาเบอร์ไปบอกกับตัวเองให้ได้มากที่สุด ที่ผ่านมาเราก็ได้รับความชื่นชม จากประชาชนหลายพื้นที่ว่า ไอ้ ส.ส. ไอ้ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลนี้แหละ มันขยันจังนะ มันลงพื้นที่จังนะ รถหาเสียงก็มีน้อย 2-3 คัน บางพื้นที่ คันเดียวด้วยซ้ำไป เพียงแต่ว่าเราใช้การเดินครับ พอประชาชนเห็นความขยัน คนไทยก็ชอบชื่นชมคนขยันอยู่แล้วใช่ไหมครับ เขาเลยเทคะแนนให้? ครับ

ตอนเดี๊ยนวัยรุ่นก็มีแบบนี้มาเดินๆ พอได้ก็หายไปเลย หวังว่าพรรคก้าวไกลยังจะเดินไปเยี่ยมเขานะ?

            อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราบอกเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ การไปพบประชาชนก็ต้องทำอย่างต่อเนื่อง คงจะไปเยี่ยม และรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ เพื่อมาทำงานด้วยครับ

อยากทราบนะคะ กทม. ไม่เคยได้เยอะขนาดนี้ 33 ได้ 32 ?

            ผมว่าส่วนนึงมาจากความขยันครับ ผู้สมัครของกทม. ผมพูดได้มากหน่อย เพราะส่วนใหญ่ ผมจะรู้จัก 1. มีความขยัน 2.การเสนอนโยบายก็พยายามไปเล่า ไปชี้แจงความเข้าใจผิดด้วยตัวเอง ที่สำคัญที่สุดก็ต้องขอบคุณประชาชนที่ทำหน้าที่หัวคะแนนธรรมชาติ  อันนี้คือปัจจัยสำคัญอันนึง ซึ้งผมต้องใช้พื้นที่ตรงนี้ขอบคุณหัวคะแนนธรรมชาติ และประชาชนผู้สนับสนุนทุกคน แต่เดิมผู้สนับสนุนส่วนใหญ่กับการทำพรรคการเมืองของพรรคอื่นๆก็จะบอกว่า ถ้าสนับสนุนเรา ก็ให้ไปกากบาท แต่สำหรับก้าวไกล ด้วยความที่เราจะสร้างพรรคด้วยประชาชนเป็นเจ้าของ พอทุกคนรู้สึกเป็นเพื่อนเรา เป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน เขาก็จะไปเชียร์ ไปบอกต่อ ไปอธิบาย ปากต่อปาก ในยุคปัจจุบัน ในเฟซบุ๊ก และ TIKTOK ทุกคนสามารถผลิตคอนเทนต์ เพื่อประชาสัมพันธ์หรือชี้แจงให้กับพรรคด้วยกันเอง

เดี๊ยนเห็นพื้นที่บางพื้นที่เต็มไปด้วยทหาร แต่สีส้มก็ยังได้คะแนนนะคะ?

            ก็ชนะเยอะครับ เพราะเหตุผลแบบนี้ครับว่า แสดงข้อความที่ใส่ร้ายว่าเราไม่เอาทหาร ไม่จริงครับ เพียงแต่เรา ต้องใช้คำว่าไม่เห็นด้วย ในการกดขี่ทหารชั้นผู้น้อย ทหารระดับปฏิบัติการ  เราไม่เห็นด้วยกับการจัดสวัสดิการนายทหารอย่างไม่เป็นธรรม แล้วก็ระบบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยการทุจริตคอร์รัปชันในกองทัพ แล้วเอารัดเอาเปรียบนายทหารชั้นผู้น้อย ตรงนี้เราไม่เห็นด้วย

สรุปว่าก้าวไกล ชนะและสำเร็จครั้งนี้เพราะ?

            เพราะประชาชนช่วยกันครับ จริงๆนะ

การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร บ้านเมืองเราจะปลอดภัยในยามมีศึกไหมคะ?

            ผมคิดว่าการมั่นคงในการปกป้องประเทศ ใน ณ วันนี้ ทหารมีหน้าที่ต่อเรื่องที่สำคัญคือปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ด้วยซ้ำไป ถูกไหมครับ ดังนั้นทหารเกณฑ์ เราลองจินตนาการนะครับว่า ถ้าเราเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ แล้วมีสวัสดิการที่ดี มีการลงทุน มีการเพิ่มงบประมาณทางด้านเทคโนโลยีในด้านป้องกันประเทศ มันจะทำให้ความมั่นคงของประเทศที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ที่ทุกวันนี้ห่วงเรื่องยาเสพติด มาเฟียจีนสีเทา การค้ามนุษย์ บ่อนเถื่อนต่างๆ รวมทั้งความไม่ปลอดภัยทางด้านไฟเบอร์ ซึ่งล่าสุดผมเพิ่งดูข่าว  ปรากฎว่าเราขาดบุคลากรความมั่นคงทางด้านไฟเบอร์อย่างมาก แล้วเราลองดูการทำสงครามการโจมตีในโลกยุคใหม่ครับ เขาเจาะเข้ามาในฐานข้อมูลระบบพลังงาน ซึ่งประเทศเราก็เจออยู่แล้ว แต่เราขาดงบประมาณที่เพียงพอ ขาดบุคลากรที่เพียงพอ ไม่ใช่เราขาดบุคลากรที่เก่งนะครับ บุคลากรที่เก่งมี แต่เราขาดการจ้างบุคลากรให้เพียงพอ ซึ่งดูแลความมั่นคงของไซเบอร์ สำคัญมากนะครับ การเกณฑ์ทหารเราก็ทราบอยู่ครับว่ามีการเกณฑ์ทหารไปรับจ้าง เป็นเด็กปั๊มบ้าง รับจ้างทาสีบ้าง คนรับใช้บ้านนาย ฯลฯ ถ้าเราดึงตรงนั้นออกมา เอางบประมาณมาดูแลสวัสดิการเพิ่มเติม ขวัญและกำลังใจทหารดีขึ้น มีเทคโนโลยีดีขึ้น สวัสดิการโปร่งใสมากขึ้น กรณีการ์ดยิงโคราชก็มาจากเรื่องของส่วย ฯลฯ

แฟนๆสามารถติดตามรายการ คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27  และรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น!  

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ