ชื่นมื่นกันทั่วหน้า สำหรับงานฉลองวิวาห์ของ “กั๊ท กฤณ 

กับสาวนอกวงการ โดยแม่งานใหญ่และแม่ของเจ้าบ่าวอย่าง “ท็อป ดารณีนุช” ก็ยิ้มไม่หุบทั้งงาน เพราะนอกจากจะปลื้มที่ลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว แต่เพื่อนๆ แม่ก็มาร่วมแสดงความนินดีอย่างคับคั่ง ล่าสุดทั้งคุณแม่และลูกชาย ควงแขนมาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ พร้อมเผยเรื่องความสุขในวันสำคัญของลูกชาย รวมไปถึงรักครั้งใหม่ของตนเองอีกด้วย

ลูกสะใภ้คนนี้เป็นไง?

ท็อป : ลูกสะใภ้คนนี้น่ารัก ตอนนั้นเขาคบกันมีแพลนจะแต่งงานตั้งแต่คบกันยังไม่ถึงปี (ลูกพูดว่า 2 ปีกว่าๆ ไม่ใช่ไม่ถึงปีอ้าว แม่จำผิดเหรอ ตอนนั้นอาจจะคิดว่าเร็วไปไหม เราหวงลูกด้วย จนกระทั่งลูกบอกมันถึงเวลา เราก็โฟกัสเขามากขึ้น เราเห็นลูกสะใภ้ว่าเขาเป็นคนขยัน เป็นเด็กน่ารัก เป็นเด็กใจเย็น เพราะลูกเราใจร้อนมาก

กั๊ท : ตอนนี้ใจเย็นแล้ว มาดีขึ้นตอนอายุ 28 มาคบกับคนนี้ เราก็พยายามใจเย็นขึ้น เขาเป็นส่วนนึงทำให้เราใจเย็นแรกๆ เราทะเลาะกันบ่อย ต่างไม่ยอมกัน จนผ่านไปเรื่อยๆ จนเป็นเขาที่อยู่ข้างเราตลอด เรามองกลับมา เราไม่เคยคิดจะเปลี่ยนตัวเอง แต่เขาก็ยังอยู่ข้างเราตลอด แต่กว่าจะได้แต่งกัน คือเลื่อนไป 3 รอบ

ท็อป : คือเรามีฤกษ์มาแล้ว แต่ด้วยโรคระบาด ก็เจอทุกระลอกเลย ทางบ้านผู้หญิงเขาถือฤกษ์ เขาเลยบอกว่าแต่งกันเลยเถอะ ไม่เลื่อนแล้ว ก็เลยแต่งกันที่บ้านของเจ้าสาว ตามฤกษ์ตามพิธี 

กั๊ท : และพิธีที่เกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้ ทุกคนคิดว่าพิธีมันจบแล้ว แต่ที่เพิ่งจัดฉลองไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่พอเราไปงานล่าสุดมา มันจุดไฟให้เราอยากจัดบ้าง มันอบอุ่นจัง เลยคุยกับแม่ มันมีอะไรให้จดจำ

และมีโมนต์ก่อนงานเริ่ม?

ท็อป : ก็คือตั้งแต่ก่อนวันแต่ง เราไม่เจอเขาเลย และตอนที่เราแต่งหน้าอยู่ เขาเดินเข้ามากอดเรา แม่ก็กอด

กั๊ท : เราอยากเข้าไปหา อวยพร เรารู้สึกว่ามันคืองานที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ถ้าไม่ได้พรจากแม่ เราจะไม่ค่อยมั่นใจ แม่ก็ให้พร ลูบหัว บอกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย 

ท็อป : (น้ำตาไหลเลยไหม?) น้ำตาไหลเรื่องบิล (หัวเราะแต่ตอนบ่าย 3 เราจะเป็นลม เพราะเราทำพิธีช่วงที่ญาติผู้ใหญ่มาอวยพรลูกเสร็จ เรากลับขึ้นมาบนห้อง เราเหมือนจะเป็นลม บวกกับเราเพิ่งหายจากโควิดด้วย เราเลยนอนสักพัก จน 6 โมงเพื่อนโทรมาตาม ให้ลงมาเร็วๆ เราเด้งขึ้นมาเลย หลายจากนั้นเจอแขก เราก็มีพลังขึ้นมาทันที ข้าวก็ไม่ได้กิน เพราะพอลงไปงาน มันไหว มันมีพลัง เราเป็นคนแบบนี้

กั๊ท : จุดเริ่มของกั๊ทตั้งแต่เกิด ก็มาจากผู้หญิงคนนี้ ทุกอย่างในชีวิตเรา มันคือสิ่งที่แม่มอบให้มา มิตรภาพดีๆ ที่เราได้รับ ก็มาจากแม่ทั้งหมด ขอบคุณยังไง อธิบายยังไง มันก็ไม่พอ 

ท็อป : ก็ขอบคุณที่เขาเกิดมาเป็นลูกเรา เราได้ลูกดี ไม่เคยทำให้เราเดือดร้อนใจ ลูกเรารือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่การสร้างแต่เป็นหล่อหลอมขึ้นมา มาเป็นตัวเขา การทำหน้าที่แม่ของเรามันสมบูรณ์แล้ว

กั๊ท : รู้สึกว่ามีบุญมากที่เกิดเป็นลูกแม่ การที่เราได้รับความรักตั้งแต่เด็ก โตขึ้นก็มีเพื่อนแม่ที่รักเรา สิ่งที่พวกนี้คือบุญที่เราได้รับ อย่างเราบวช เราก็ทำเต็มที่ให้แม่

 แต่กั๊ทไม่ให้แม่ขึ้นไปบนเวที เพื่อจะอวยพร?

กั๊ท : ตอนที่นั่งแพลน ทีมงานก็ถามแม่ว่าจะขึ้นไปพูดเวทีไหม แม่ก็บอกให้ประธานพูดไป แม่อยากจะกระชับงาน 

อยากให้พี่ท็อปพูด ถ้าได้ขึ้นไปบนเวที?

ท็อป : อยากจะบอก ว่าลูกเป็นคนมีบุญจริงๆ เราอาจจะไม่ได้ร่ำรวย แต่เราจะให้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา เท่าที่เราจะให้ได้มันจะอยู่กับตัวเขาไปตลอด และวันนึงเราจากไปแล้ว สิ่งที่เราให้เขาไป มันจะอยู่ในตัวเขา ความดีทั้งหมดที่เราจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขา มันก็จะอยู่ในตัวเขา แล้วเขาจะทำตัวยังไง มันแบกความเป็นเราไว้ เพราะพี่ก็แบกความเป็นพ่อแม่อยู่นะ ไม่ใช่แบกเพราะเป็นภาระ แต่แบกด้วยความภาคภูมิใจ

เราสอนลูกยังไงในการใช้ชีวิตคู่

ท็อป : เราไม่ได้บอกโดยตรง แต่เราบอกด้วยการกระทำ เราจะไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบกับชีวิตใคร มันไม่ควร แต่ละคู่มีวิธีของตัวเอง เราก็เฝ้ามองเขา แต่ในส่วนของเรา เขาก็มองเห็นเอง จริงๆ ชีวิตคู่ที่ประสบความสำเร็จมันขึ้นอยู่กับคนสองคน แต่พอมีลูกออกมามันคือโซ่ทอง ทำให้เราตัดสินใจมันยากขึ้นหรือบางทีมันก็ง่ายขึ้น แต่ถ้ามันขาด เราก็ไม่เคยทิ้งลูกเลย เราเชื่อว่าชีวิตคู่หรือชีวิตเดียว แต่ทั้งหมดมันขับเคลื่อนด้วยความรัก มันขับเคลื่อนด้วยความเสียสละทุกการกระทำมันคือคำสอน และชีวิตคู่เราไม่ประสพความสำเร็จ เราอาจจะไม่ต้องพึ่งพาความเป็นคู่ชีวิต แต่เราก็มีเพื่อนฝูงเป็นคู่ชีวิต แต่ของเขาเป็นคู่ชีวิตแบบนี้ เพราะนั้น 2 นาทีเราพูดทำลายคนอื่นมันง่าย แต่ตลอดทั้งชีวิตเรากว่าจะหล่อหลอมมันกลับ ฉะนั้นการใช้ชีวิตต้องให้มีสติตลอดเวลา สำคัญที่สุดเราสอนลูก ว่าต้องรักษาใจให้เป็นกลาง ไม่เหยียบย่ำใจคนอื่นอื่น

มันมีอะไรค้างคาใจไหม เพราะชีวิตแม่ไม่สำเร็จ เราจะไม่สำเร็จไหม?

กั๊ท : จริงๆ อาจจะเรียกว่าปมได้ แต่ไม่ใช่ความกลัว เราแค่ไม่สนใจ ก่อนหน้านี้คือเลิกก็เลิก เพราะไม่จากเป็นก็จากตายอยู่แล้ว ทุกอย่างมันมีคำโซเมท มีคำว่าตลอดไป แต่มันก็เปลี่ยนทัศนคติว่าโซเมท อาจตะสวยหรู แต่มันก็อาจจะมีจริงก็ได้

ได้ข่าวว่าพี่ท็อปมีแฟนใหม่แล้ว?

ท็อป : ไม่ได้มีเป็นตัวเป็นตน แต่ยอมรับมีคนคุยด้วย เป็นนอกวงการ

กั๊ท : เฉยๆ ผมกลางๆ เราไม่ได้สนใจว่าเขาจะมีคนคุยหรือไม่ เพราะยังไงเขาก็คือแม่เรา เราก็รักเหมือนเดิม แต่เราก็รู้คร่าวๆ ว่าเขาคุยกับใคร ถามว่าหวงไหม ก็หวง และเราปัญญาอ่อนมาก อายุจะ 30 แล้ว เราพูดกับแฟนว่า แม่จะรักเราน้อยลงไหมว่ะ เพราะรู้สึกว่าเราคือที่ 1

ท็อป : เราเดินไปบอกลูกเอง ว่าแม่คุยกับคนนี้อยู่ แต่ไม่มีอะไรมาก ไม่มีอะไรเกินเลย (ทีมงานบอกมีคุยด้วยหลายคน?) อันนี้พี่ก็ช็อคด้วย (หัวเราะมีคนเดียว เราเป็นคนนึงถ้าไม่ถูกต้อง เราไม่ทำ ทุกอย่างมันต้องชัดเจน กินเหล้าฉันก็ไม่เอาสูบบุหรีฉันก็ไม่เอา อีกอย่างเราเบื่อ เราเคยมีปัญหาชีวิตแบบนี้มาก่อน ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็ไม่เอา และเรากฌไม่เอาเด็กอายุน้อยกว่า เราก็ไม่เอา ชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่

ตอนนี้ยังไม่ตกลงกับใคร เพราะกลัวผิดหวัง?

ท็อป : ใช่ค่ะ กลัวผิดหวัง เราอาจจะหัวโบราณ ถ้าพัฒนาต่อไป มันต้องดูหลายอย่าง ถ้าไม่ดีก็ไม่เอา 

สุดท้ายคนที่คุยด้วยคือก้อง ปิยะใช่ไหม?

ท็อป : ขอโทษที่ทำลายเธอ เรื่องมันหลุดแล้วปิยะ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ท็อป ดารณีนุชและลูกชาย

https://youtu.be/U4FTu9g62V0

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ