“กาย ฮารุ สุประกอบ” พ่อแม่สายลุย วันนี้หอบลูกๆ สามยอดกุมาร “น้องคิริน-น้องไนร่า-น้องเอเดน” มาเปิดใจหลังย้ายลูกๆ ไปโรงเรียนใหม่ค่าเทอมคนละล้าน!! เปิดความแสบขั้นสุดของสามพี่น้อง หลังได้กระทบไหล่นักฟุตบอลระดับโลก “เดวิด เบ็คแฮม” พร้อมนาทีระทึก น้องคิริน โดนฟุตบอลเตะอัดร่วงกลางสนาม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา, บูม สุภาพร และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 เป็นบ้านที่เลี้ยงลูกเป็นธรรมชาติ ตอนนี้แต่ละคนอายุเท่าไหร่?

คิริน :  อายุ 9 ขวบครับ

 ไนร่า : อายุ 8 ขวบค่ะ

เอเดน : อายุ 7 ขวบครับ

ติดกันเลย แม่ได้นอนตอนไหน?

ฮารุ : ช่วงแรกๆ ไม่ค่อยได้นอน ได้นอนช่วงนี้แหละ ไม่ได้พักเลยค่ะ

กาย :   คนจะเข้าใจว่าฮารุท้องลูกคนแรก 3 ปี (หัวเราะ) เจอหน้าทีก็ท้องอีกแล้ว เหมือนไม่คลอดสักที แต่จริงๆ คลอดแล้วท้องใหม่

 ตั้งใจ?

กาย : ตั้งใจจะมีลูกเยอะๆ แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจให้มากันไวขนาดนี้ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีศักยภาพเพียงพอทำให้มันต่อเนื่อง (หัวเราะ)

 เพิ่งตัดสินใจย้ายน้องๆ ออกจากโรงเรียน?

กาย : ย้ายออกจากโรงเรียนเหมือนไม่เรียนอีกต่อไป (หัวเราะ)

ฮารุ : ไม่ได้ดราม่าอะไรเลยทั้งสิ้น แค่ตัดสินใจว่าเราอยากย้ายโรงเรียนให้เหมาะกับพลังที่มันล้นของเขา ถ้าเปรียบเป็นปลา เหมือนปลาพลังเยอะมาก อยากให้เขามีพื้นที่โรงเรียนที่เหมาะกับพลังเขา มีกิจกรรมหลากหลายมากมาย เลยตัดสินใจย้าย

 อะไรส่งสัญญาณว่าต้องย้ายน้อง?

ฮารุ : เขาอยากลองหลายๆ อย่าง เขาอยากทำโน่นทำนี่ทำนั่น จริงๆ ส่วนนึงเราอยู่บ้าน พ่อแม่ก็ต้องพาไปทำ แต่อีก 8 ชม. เขาต้องอยู่โรงเรียน ก็ต้องเอื้อกับความต้องการเขา

เป็นเรื่องใหญ่ ปรึกษาคุณพ่อมั้ยจะมีการย้าย?

กาย : ก่อนปรึกษาพ่อ ต้องปรึกษาลูกก่อน เพราะมันต้องเป็นการตัดสินใจของเขา ว่าเขาแฮปปี้มั้ยที่จะย้ายโรงเรียน เราพาเขาไปโรงเรียนใหม่ ไปดูว่าอยู่ตรงนี้นะ หน้าตาโรงเรียนเป็นแบบนี้ มีกิจกรรมแบบนี้ ไปเจอคุณครูที่รับเข้าว่าเขาชอบมั้ย มีกิจกรรมอะไรบ้าง ให้เขาตัดสินใจเองว่าจะมาหรือไม่มา

 ฮารุ : เราห่วง เพราะวัยนี้เขาจะติดเพื่อน กลัวว่าพ่อแม่อยากย้าย แต่ลูกไม่อยากย้าย แล้วจะกลายเป็นบังคับจิตใจเขา เลยต้องถามเขาเป็นหลักว่าโอเคหรือเปล่า

 โอเคมั้ย?

คิริน : โอเคครับ กับเพื่อนเก่าเรามีไลน์เพื่อน

คุยอะไรกับเพื่อน?

ไนร่า : เล่นเกม เราชวนเพื่อน

กาย : โรงเรียนใหม่เป็นแบบไหน ทำไมโอเคกับการไปโรงเรียนใหม่

ไนร่า :   มันใหญ่มาก ขับรถทีหลงทาง

วิ่งรอบโรงเรียนหรือยัง?

เอเดน : เคยครับ

กาย : โรงเรียนอยู่ในหมู่บ้าน แล้วหมู่บ้านนั้น 6 พันไร่

ได้ข่าวว่าค่าเทอมปีละล้านต่อคน?

ฮารุ : เกือบๆ ถ้าคิดเลขกลมๆ ก็ 3 ล้านต่อปี

กาย : รวมทุกอย่างแล้วประมาณ 3 ล้าน ก็เอาเรื่องอยู่

ฮารุ : การเรียนเป็นอย่างหนึ่งที่เรายอมลงทุน เรายอมกัดฟัน เพราะไม่ว่าจะมีเงินมากมายก่ายกองในอนาคต แต่ถ้าไม่มีการศึกษาติดตัว ฮารุรู้สึกว่าเราซื้อความรู้ สังคมสนุกๆ ใดๆ ให้เขา วันนึงเราไม่อยู่ ก็คิดว่าสิ่งที่เราให้เขาได้คือการศึกษา

ดูจากโหงวเฮ้ง ขาดบาทเดียวพันล้าน?

ฮารุ : ไม่ๆ (หัวเราะ)

ค่าเทอมเป็นการลงทุนของพ่อแม่ เท่าไหร่ก็ให้ได้ แต่บางครอบครัวลูกต้องเกรด 4 นะ ให้คุ้มกับค่าเทอม บ้านคาดหวังอะไรกับลูกบ้าง?

กาย : ขอแค่สนุกกับการไปเรียน แค่นั้นเลยครับ สมมติมีการบ้าน ขอให้มีความตั้งใจ พยายามที่จะทำ ทำผิดทำถูก สอบได้ไม่ได้ ขอให้พยายามและมีความสุขกับตรงนั้น

ฮารุ :   เราคาดหวังกับเกรดยาก แต่เอาความพยายามดีกว่า บางคนไม่ได้เหมาะกับวิชานี้จริงๆ ตั้งใจแค่ไหนก็คงไม่ได้ 4 แต่ถ้าลูกบอกว่านี่คือพยายามที่สุดแล้ว นี่คือสุดของความพยายาม มันก็ได้เท่านั้น เขาอาจไม่ได้เอ็กเซลด้านการเรียนอาจไปด้านอื่นก็ได้ ขอแค่ตั้งใจ พยายาม และมีความสุขแค่นั้นก็พอ

กาย : เกรดไม่ได้เท่ากับเด็กดีไม่ดี ผมเห็นบ่อยมาก เด็กคนนี้ดีมากเลยนะ เขาเป็นเด็กดี เรียนได้เกรด 4 ตอนเรียนผมก็เป็นเด็กดีนะ แต่ผมได้ 2 (หัวเราะ) ผมคิดว่าถ้าเขาเป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพ เป็นมนุษย์ที่ดี เป็นมิตรต่อคนอื่นๆ ไม่เหยียบหัวคนอื่นเพื่อขึ้น ผมก็แฮปปี้มากแล้วครับ

พ่อแม่เคยมีประสบการณ์ตอนเรียน ส่งลูกครั้งนี้เลยไม่คาดหวัง ไม่กดดันเขา?

กาย : อยากให้เขารู้สึกว่าอยากไปโรงเรียน เพราะไม่ว่าครูดีแค่ไหน แต่เด็กจะไม่เปิดรับถ้าไม่อยากไปโรงเรียน

ให้เลือกเรียนกับเล่นกีฬาเลือกอะไร?

คิริน-ไนร่า-เอเดน : (ตอบพร้อมกัน) เล่นกีฬา ชอบเตะฟุตบอล

แต่บ้านนี้พ่อแม่เล่นฟุตบอลไม่เป็นนะ ไปค้นเจอได้ไงว่าลูกชอบฟุตบอล?

ฮารุ : คิรินเป็นคนขอก่อน ขอเตะฟุตบอล ฮารุก็บอกว่าได้สิ คิดว่าไปซื้อลูกฟุตบอลมาเตะหน้าบ้าน ก็เลยไปซื้อ จำได้เลยลูกฟุตบอลที่ตลาดซื้อมา 400 ซื้อมาเขาก็เตะหน้าบ้าน พ่อแม่ก็เตะไม่เป็น เขาก็เตะกับคนขับรถ

กาย : เขาเตะกับคนขับรถ จนพี่เขาไม่ไหวแล้ว เริ่มเตะอัดกำแพง ต้นโมกข์ในหมู่บ้านก็หักไปเรื่อยๆ เขาก็ขอไปเรียนฟุตบอล ก็ให้ไปเรียน ไปๆ มาๆ เริ่มจริงจังขึ้น

 ไปสามคนไม่ว่า พ่อแม่เปิดอะคาเดมี่ด้วย?

กาย : ต้องบอกว่าลูกๆ พวกเราไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรหรอก เขาชอบเล่น เขาต้องการอยากเก่งขึ้นเพื่อเล่นกับเพื่อนได้ เราก็หาโค้ชที่คิดว่าเหมาะสมกับลูกเราที่สุด พอเราศึกษาเรื่อยๆ เราก็อยากให้ลูกทำร่างกาย ผมว่าการยืดหยุ่นข้อต่อและกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความเร็วของการประมวลในสมอง ต้องเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราหาโค้ชมาเต็มไปหมดเลย รู้ตัวอีกทีโค้ชในบ้านมี 7-8 คน

 ฮารุ : เหมือนเล่นออกกำลังกาย แล้วลูกก็บอกตึงบ้าง เราก็ไปหานักกายภาพ พอเสร็จปุ๊บ นักกายภาพบอกว่ากล้ามเนื้อเขาไม่แข็งแรงพอ ก็ต้องไปหาวิทยาศาสตร์การกีฬา ไปๆ มาๆ โค้ชเลยหลายแขนงมาก เพื่อดูแลเขา เรามีโค้ชขนาดนี้ แล้วมีหลายคนเขาอยากทำ บ่นว่าค่าใช้จ่ายมันสูง เราก็เลยคิดว่า ไหนๆ เรามีโค้ชแล้ว เราชวนโค้ชมาทำมั้ย พอมาทำด้วยกัน ปรากฏว่าเด็กๆ ได้หารหัว มันก็เบาลง ทุกคนได้ออกกำลังกายดีๆ เด็กๆ ได้เรียนและทำทุกอย่างเหมือนลูกเราเป๊ะ

กาย : ใช้โค้ชเดียวกันด้วย โค้ชระดับนักกีฬาทั้งทีมชาติ ทั้งติดเวิลด์ แรงกิง อาจารย์ภาคก็มาสอนที่อะคาเดมี่ด้วย เด็กๆ ได้ยืด เจอวิทยาศาสตร์การกีฬา นักกายภาพ

ฮารุ : เราไม่ได้วางเป้าหมายว่าลูกต้องเป็นนักกีฬา นักฟุตบอล เพราะรู้สึกว่าวันนี้เขาตั้งใจ อีก 3 5 10 ปี ไม่รู้เขาจะไปถึงเป้าหมายที่วางมั้ย หรือจะล้มเลิกกลางทาง แต่สิ่งที่เราทำ สิ่งที่ลูกทำ มันไม่มีผลเสีย เพราะกีฬาไม่ใช่แค่เรื่องกีฬา มันคือวินัย ความอดทน ความมุ่งมั่น ฝึกหลายอย่าง เลยรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำวันนี้ไม่มีคำว่าเสียนะ ถึงแม้เขาไม่ได้ไปตามเป้าหมายที่สูงสุดก็ได้

กาย : เหตุผลที่ทำได้ เพราะกายกับฮารุ ถึงเป็นเจ้าของอะคาเดมี่เอง แต่เราไม่ได้ทำเพื่อเงิน คุณพ่อคุณแม่มาสมัครเรียน มาค่าใช้จ่ายนะ แต่กายกับฮารุ เอาทุกบาททุกสตางค์ที่มี เอามาปรับปรุง ทำให้อะคาเดมี่มันดียิ่งขึ้น เราเพิ่งเปิด 4 เดือน มีเด็ก 100 คนแล้ว ที่เรียนกับเราทุกเดือน ตั้งแต่รุ่น 4-5 ขวบ ยัน 13 กายคิดว่าเราทำงานที่อื่น ไม่ต้องหาเงินจากตรงนี้ เราอยากให้ลูกๆ และเด็กคนอื่นๆ ได้เต็มที่ เราเลยเปิด Opti One ฟุตบอล อะคาเดมี่ขึ้นมา

คนมองว่าจัดแบบนี้ เว่อร์หรือเปล่า?

กาย : ทำมาเพื่อให้ลูกและเด็กคนอื่น กายกับฮารุไม่ได้ต้องการจากเด็ก เดี๋ยวดีมากๆ วันนึงจะขายสนับแข้งเอง ไปหากินจากทางอื่น

ทำไมถึงชอบเล่นฟุตบอล?

คิริน :   ไม่รู้ มันเด้งขึ้นมาเอง อยากเล่นฟุตบอล

ชอบใครมาก่อนหรือเปล่า?

เอเดน : เห็นเมสซี่เขาเล่นกัน

คิริน : เล่นแล้วสนุกมาก ไม่กลัวเจ็บ

 เจ็บสุดตอนไหน?

ไนร่า : ตาตุ่มแตก โดนเตะค่ะ

กาย : ได้ข่าวว่าขี่หลังเพื่อนแล้วร่วงลงมาไม่ใช่เหรอ คอนเทนต์อีกแล้ว

ไนร่า : (ยิ้มหวาน)

ร้องมั้ย?

ไนร่า : ไม่ร้อง ขำ

กาย : ยืนเต้นอยู่หน้าห้องเอกซเรย์

มีกายภาพฉีกขา เจ็บมั้ย?

เอเดน : เจ็บมาก

ไนร่า : ไม่เจ็บ

คิริน : ไนร่าเป็นคนเดียวที่ไม่เจ็บ (ฉีกขาโชว์)

กาย : เอเดนไม่เก่งเรื่องตึง แต่เรื่องกล้ามจะเก่ง (เอเดนโชว์กล้ามท้อง วิดพื้น ก่อนจะทำกันทั้งสามคน)

ตั้งแต่เล่นกีฬา มีเหตุการณ์อะไรที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่เล่นฟุตบอล?

เอเดน : เดวิด เบ็คแฮม ผูกเชือกรองเท้าให้ครับ

กาย : เป็นบุญมากของเดวิด เบ็คแฮม ได้มาผูกเชือกรองเท้าให้เอเดน จะมีสักกี่คนบนโลกได้ผูกเชือกรองเท้าลูกกาย

สลับกัน จะมีกี่คนที่เขามาผูกให้ก่อน?

กาย : (หัวเราะ)

ตอนเขาผูก เอเดนรู้มั้ยเขาคือเดวิด เบ็คแฮม?

เอเดน : รู้ครับ

ได้แท้งกิ้วมั้ย?

เอเดน : ไม่ ก็ดีใจที่เขามาผูกให้ ไม่รู้อะไร

กาย : มันงงๆ อยู่ รองเท้าไปไหน

เอเดน : เก็บไว้ครับ

ไนร่า : ต้องซื้อรองเท้าใหม่ ต้องเก็บอันนั้นไว้

กาย : ขายมั้ยรองเท้า

เอเดน : ไม่

เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง?

กาย : เดวิด เบ็คแฮมเขามาเมืองไทย เขาจัดซ้อมบอลและมีมีตแอนด์กรี๊ด เราก็ส่งคลิปสมัครเข้าไป เขาเป็นคนเลือกว่าเอาใครมา เขาเลือก 30 คน คิริน ไนร่า เอเดนก็ส่งคลิป

ฮารุ :   ตอนผูกเชือกรองเท้า เห็นแค่เดวิด เบ็คแฮมกวักมือเฉยๆ แล้วเห็นเดนทำหน้างงๆ เขาก็ก้มลงไปผูกเชือก แค่นั้นเลยค่ะ

พ่อแม่พยายามสะกดจิต บอกให้ลูกที่เหลือแกะเชือกรองเท้า?

กาย : เราก็ไนร่า คิรินๆ ดึงเชือกรองเท้าออกๆ (หัวเราะ)

ฮารุ : หล่อมาก เห็นแล้วกรี๊ดมาก

มีเหตุการณ์ที่พ่อแม่เกือบช็อก คิรินถูกลูกบอลปึ้งใส่หัว สลบไปเลย?

ฮารุ : ถ้านักมวยก็เหมือนถูกน็อกเอาต์

คิริน : เขาคัตแบ็กโดนหน้า ปึ้งๆ ก็สลบเลย

ไนร่า : คิรินบอกยายว่าเหมือนตกหมอน

กาย : ประมาณตีสี่เขาก็ลุกขึ้นมา น่าจะเริ่มอักเสบ เขาก็ร้องไห้ จะให้นอน เขาลงไม่ได้ ก็ลากเก้าอี้มา เขานั่งหลับบนเก้าอี้นั่นแหละ ให้เขาเอาเท้าขึ้นเตียง ตอนเช้ามาก็พาไปรพ. เขาค้างอยู่ท่านี้ แล้วต้องตัดเสื้อทิ้งไปเลย

หมอบอกว่าเป็นอะไร?

ฮารุ : กล้ามเนื้อคอกับตรงไหล่อักเสบ ตอนแรกคิดว่าจะหนักมากๆ แต่ก็โอเค กายภาพทุกอย่าง

กาย : กินยา กายภาพคอ แป๊บเดียว 2-3 วันก็กลับมาเตะบอลแล้ว ถ้าเป็นเราคง 3 เดือน

ตอนเห็นลูกล้มหลับหมดสติไปที่พื้นสนาม พ่อแม่รู้สึกยังไง?

ฮารุ : เหมือนแบล็กเอาต์ไปแป๊บนึง

กาย :   ถ้ารุ่นเดียวกันเตะจะไม่เป็นแบบนี้ แต่อันนั้นซ้อมเล่นๆ กัน น้องเขาอายุ 14 แล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก เขาเล่นกันมันก็มั่วซั่ว แต่พอร่วงไปแล้ว เราก็คิดว่าลูกเราจะลุกเมื่อไหร่ว้า แต่อันนี้นาน

ฮารุ : ส่วนมากถ้าเขาล้มแล้วเขาไหวเราก็จะบอกให้เขาลุก แต่รอบนี้ไม่ลุก ก็เลยคิดว่าไม่ไหวแล้ว (หัวเราะ)

ถ้าเจอแบบนี้อาจเข็ด ไม่กล้ากลับไปเล่น คิรินเข็ดมั้ย?

คิริน : ไม่ ไม่กลัว เจ็บเดี๋ยวก็หาย

ไนร่า-เอเดน ห่วงพี่มั้ย?

เอเดน : ไม่!

ไนร่า : ตอนนั้นเอเดนอยู่บ้าน

กาย : เห็นพี่เป็นแบบนี้เป็นห่วง สงสารมั้ย

ไนร่า-เอเดน : ไม่! เดี๋ยวก็หาย ตอนนั้นมีแข่งบอล พี่คิรินเขาอยากแข่งบอล

รู้สถานการณ์ว่าพี่ต้องฟื้นเร็วเลย เราไม่สงสารเหรอ?

ไนร่า : ไม่

เอเดน :   มันตลก ตอนคอพับก็ขำ พี่คิรินเคยเตะหัวเย็บมาแล้ว 53 เข็ม

ไนร่า : 25

เอเดน : ห๊ะ 53

ล่าสุดไนร่าขอแม่ทำอะไร?

ไนร่า : แต่งหน้าอโศกา เมคอัพ ทำไปวันนึง

ฮารุ : 4 ชม. นานมาก เขาบอกฮารุก่อนว่าอยากทำ เขาอยากแต่งหน้าอินเดีย ฮารุเห็นเทรนด์มันเยอะ ก็บอกว่ามันยากนะ บางคนทำหลายชม.เลย ก็บอกเขาว่าถ้าอยากทำจริงๆ ต้องร้องได้ เต้นได้ แล้วเดี๋ยวมาคุยกัน สามวันกลับมา มาเต้นมาร้องให้ดู

เป็นผู้หญิงคนเดียว แต่เป็นสายไฝว้นะ เป็นตัวแม่ ผู้ควบคุมในบ้าน เวลาทะเลาะใครจัดการใคร?

คิริน :   ไนร่าจัดการเอเดน

เวลาทะเลาะกันสามคน ใครไฝว้ใคร?

คิริน :   คิรินกับเอเดน

เอเดน : ไนร่ากับคิริน ไนร่ากับเอเดน

ไนร่าจะชนะตลอดจริงมั้ย?

ไนร่า : ไม่จริงค่ะ

ทะเลาะสิบครั้ง ไนร่าชนะกี่ครั้ง?

ไนร่า : 6

คิรินกับเอเดนยอม?

ฮารุ : เขาเป็นเจ๊ พี่ชายก็แพ้น้องสาว แต่เวลาทะเลาะกับน้องชายกันเองจะไม่มียอมกัน แต่กับไนร่าจะน่ากลัว ไม่ใช่เกรงใจนะ กลัว (หัวเราะ)

กาย : เราไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น กลายเป็นว่าพี่น้องต้องเสมอกันหมด ไม่จำเป็นต้องมีกรรมการ การทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติการเจริญเติบโตอยู่แล้ว เขาก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาของเขากันเอง ว่าจะแก้ยังไง

ถ้าพ่อแม่สวีตกัน เด็กๆ ทำยังไง?

คิริน : ปล่อยเขาไว้ครับ

ไม่เขินเหรอ?

คิริน : ไม่เขินครับ

เข้าใจว่าพ่อแม่เป็นแฟนกัน?

คิริน : เข้าใจครับ

ฮารุ : คิรินเป็นคนขี้อ้อนที่สุด

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/6Rot4RiyZBk?si=xAosxOIagNE2rSc7