ละครเด็กน้ำดี นักสืบสายรุ้ง” ผลิตโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ บริษัทแฟลทไฟว์ อินเตอร์ มีเดีย จำกัด จัดกิจกรรมปิดกล้องละคร “แบ่งปันความห่วงใย ส่งต่อกำลังใจให้มูลนิธิบ้านนกขมิ้น” บริจาคสิ่งของจำเป็นช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อน รวมทั้งเด็กด้อยโอกาส ณ โรงเรียนเกษมพิทยา เขตวัฒนา กรุงเทพ

นำทีมโดย ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ , รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม , อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับละคร ร่วมด้วยเหล่านักแสดง น้ำหวาน-พิมรา เจริญภักดี พร้อมด้วย น้องๆแก๊งค์นักสืบสายรุ้ง ด.ช.พงษ์พิสิฏฐ์ เพ็ชรโยธินด.ญ.ศิรินทร์ชญา บุญสุวรรณ , ด.ช.วิกร ธนากรอัครกุล , ด.ญ.ธมกร เมอร์ไกวร์ และด.ญ.แก้วกล้า พิพัฒน์โรจนกมล ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความประทับใจในการทำงาน และบอกเล่าความแตกต่างของละครเด็กที่เสนอมุมมองที่แปลกใหม่กว่าเดิม ในเรื่องของการสร้างเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชน

ได้เปิดกล้องถ่ายทำในช่วงกลางปี 2564 และปิดกล้องไปแล้วเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งละครนักสืบสายรุ้งจะออกอากาศทั้งหมด 10 ตอน มีกำหนดการเผยแพร่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีกำหนดการออนแอร์ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ และยังเผยแพร่ออนไลน์ทางเพจเฟซบุ๊กและช่องยูทูบของละครนักสืบสายรุ้ง @rainbowkidsseries และช่องTPTV สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาและช่องทางเผยแพร่ของกระทรวงศึกษาธิการ

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า “การสนับสนุนผลิตสื่อที่พึงประสงค์สำหรับเด็กและเยาวชน เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของสังคม เพื่อปลูกฝังแนวคิดพื้นฐานเรื่องความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ร่วมกันในพหุวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างหลากหลาย การไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้อื่นเพียงเพราะความแตกต่างด้านสถานภาพทางสังคม เชื้อชาติ ศาสนา หรือเพศสภาพ รวมทั้งการรับมือกับการกลั่นแกล้งรังแกเพื่อรักษาสิทธิพื้นฐานของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์บัจจุบัน ที่อุบัติการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ ในสังคม ที่ปรากฎผ่านสื่อมีความน่ากังวัลมากขึ้น การสนับสนุนให้เกิดสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์เป็นการสร้างเกราะกันภัยให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้เป็นอย่างดี

 

ทางด้าน รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น ที่ปรึกษาและนักแสดงรับเชิญในละคร กล่าวว่า “ละครสร้างสรรค์สังคมจะช่วยสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็ก เยาวชนและครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงอยากแนะนำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้ดูกัน จะได้เข้าใจเด็กมากขึ้น ได้สาระในความบันเทิงไปด้วย ติดตามชมด้วยนะครับ