เอาอีกแล้ววงการสงฆ์ ไม่แผ่วข่าวฉาวในกรณีดัง แครอทล่าแต้ม หลังชาวบ้านคาใจพบเจ้าอาวาสมีภาพเปลือยคู่ชายหนุ่ม ตั้งข้อสังเกตการบริหารจัดการเงิน ขอให้ขับไล่ลิ่วล้อออกจากวัด ขณะที่นักวิชาการแนะชาวบ้านร่วมหาทางออกเสนอชื่อเจ้าอาวาส ก่อน พศ.เข้ามาดูแลแต่ล่าสุดหนีหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว เปิดโต๊ะข่าวเคลียร์ให้ชัดในรายการ เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศข่าว เอก-นนทกฤช  กลมกล่อม พร้อมแขกรับเชิญ ท่านที่เข้ามาพูดคุยในรายการ ได้แก่ คุณประสงค์  อิ่มปลับ แกนนำชาวบ้าน ที่ร้องเรียนเจ้าอาวาสวัดดัง ย่านยานนาวา และอาจารย์จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพุทธศาสนา เจาะลึกการกระทำกฎของพระพุทธศาสนา หลังมีข่าวฉาวรายวัน

เอก นนทกฤช : วันนั้นเกิดอะไรขึ้นถึงได้เข้าไปสอบถามครับ?                                                            

คุณประสงค์ : ผมเห็นเขานั่งอยู่ที่วินครับ ผมก็เลยถามว่ามาคอยใคร เขาก็ตอบมาว่าคอยเจ้าอาวาส ผมก็เลยถามว่าเจ้าอาวาสเป็นหรือเปล่า เขาก็ตอบว่าเป็น ก็เลยถามว่ามีคลิปไหม แต่โทรศัพท์เขาเปิดไม่ได้ ผมก็เลยพาเขาไปเดินเรื่องเอาซิมและดำเนินการทุกอย่างจนได้รูปถ่ายมา                                                                                                                       

เอก นนทกฤช : แล้วทำไมไปถามเขาแบบนั้น?                                                                                          

คุณประสงค์ : ผมสงสัยครับ สงสัยพฤติกรรมของเจ้าอาวาส แต่เราไม่มีหลักฐานทำอะไรไม่ได้ แต่พอมีหลักฐานได้ชัดเจนก็ส่งให้เพื่อนรุ่นพี่ไปคุยกับเจ้าคณะเขตและเขามาเรียกไปจัดการอย่างไร ผมก็ไม่ทราบ                                                   

เอก นนทกฤช : พอเรื่องนี้มันเกิดขึ้นก็นำไปสู่การที่จะเจรจาและให้การช่วยเหลือหลังจากที่ชาวบ้านเขารวมตัวกันมาร้องเรียน เมื่อวานนี้ก็เลยมีเจ้าคณะแขวงมาพูดคุย?                                                                  

คุณประสงค์ : มีเจ้าคณะแขวง และเจ้าคณะเขต คือท่านยังไม่ได้พูดอะไร ท่านก็ไม่ให้นักข่าวเข้า ชาวบ้านก็ไม่พอใจ ชาวบางคนก็ยังไม่ได้ฟังท่านพูดเลย ก็โวยวายก็เลยไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย                                                                          

คุณจตุรงค์ : ต้องแยกเป็นสองเรื่อง เรื่องแรกก่อนว่าผิดไหม ก็คือผิด และปฏิเสธไม่ได้ แต่ดุลยพินิจของเจ้าตัวเอง กับดุลยพินิจของเจ้าคณะปกครองก็ดี จะพิพากษาหรือตัดสินกันอย่างไร ถ้าสำหรับก็มีอยู่แค่ สถาน คือ 1.เป็นอาบัติหนัก เกือบจะปาราชิกต้องไปอยู่กรรม 2.ปาราชิก ให้ขาดจากการเป็นพระ ซึ่งขึ้นอยู่กับการสอบสวน จุดต่างมีแค่การสอดใส่และไม่สอดใส่ ถ้ามีเพศสัมพันธ์แค่ภายนอกก็ไม่ต้องสึก แต่ต้องไปอยู่กรรม ต้องไปประจานตัวเอง ทรมานตัวเอง เพื่อลบความอับอายนี้ตามพระวินัย แต่ถ้ามีการสอดใส่อย่างไรก็ต้องลาสิกขา จริง ๆ ต่อให้ไม่ลาสิกขา เขาก็ขาดจากความเป็นพระไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ด้วยภาพด้วยหลักฐานมันชัดขนาดนี้แล้ว ก็ผิดแน่นอน                                                                               

เอก นนทกฤช : ทีนี้อย่างที่อาจารย์บอกปัญหา ณ วันนี้ เรื่องของคลิปฉาว เรื่องของภาพหลุดที่ออกมา อันนั้นเป็นแค่ ปัญหา เพราะสิ่งที่ตามมา มีเรื่องที่ดิน เรื่องระบบการเงินที่วัด มันยังไงครับเรื่องนี้?                          

คุณประสงค์ เรื่องนี้ผมก็ไม่ค่อยทราบเท่าไหร่นะครับ เพราะเกี่ยวข้องกับพวกกรรมการ แต่กรรมการไม่มี ชาวบ้านก็มองว่าตรวจสอบไม่ได้ ในวัดตรวจสอบไม่ได้เลยว่าเอาเงินไปใช้ทำอะไรเท่านั้นเอง                        

เอก นนทกฤช : แล้วอย่างเจ้าอาวาสเขากลับมาไม่ได้แล้วใช่ไหมครับ?                                                 

คุณจตุรงค์ : ไม่มีทางอันนี้ผมพูดเลย ถ้ากลับมาชาวบ้านจะยอมไหม คงไม่มีใครยอม                                                

คุณประสงค์ : เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเสื่อมเสียชาวบ้านเขาไม่ยอมอยู่แล้ว เพราะเขาร่วมกันสร้างศาลา สร้างอะไรภายในวัด คงยากที่เขาจะกลับมา หมดสิทธิ์                                                                                                                       

คุณจตุรงค์ : ตอนนี้มันจะเหนื่อย เพราะเจ้าคณะเขต เจ้าคณะแขวงเขาคงไม่อยากแตะแล้วล่ะ เผือกร้อนกลับไปหาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ผมถามว่าชาวบ้านก็รู้ หรือ คนที่อยู่ในวงการก็รู้คนกลุ่มนี้มาจากสำนักงานของเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพราะฉะนั้นเจ้าคณะกรุงเทพมหานครจะเอาอย่างไร จะจัดการอย่างไรแล้วถ้าแขวงกับเขตทำงานไม่ได้คุณก็ต้องจัดการ ผมว่าเป็นเรื่องที่คนในชุมชนต้องคุยกันได้  ผมเชื่อเลยว่าจริงๆแล้วตัวเจ้าคณะเขตกับคนในชุมชนก็น่าจะรู้จักกันในระดับหนึ่งไม่อย่างนั้นคงไม่เถียงกันแบบนั้น                                                                                                                         

เอก นนทกฤช : อาจารย์ผมยังติดใจว่า ตัดอดีตไป แล้วเขายังเป็นพระอยู่ ยังไม่ได้สึก ตามหลักของศาสนาไม่ต้องสึกให้เรียบร้อยหรือครับ?                                                                                                         

คุณจตุรงค์ : ก็จะเหมือนกับหลวงพ่อที่เอาผ้ารัดศีรษะ อยู่ไม่ได้ ต่อให้กลับมาบวชใหม่ก็ต้องสึก เพราะว่าคนจำได้ ตามหลักคือมันขาดจากความเป็นพระไปแล้วสำหรับผม แต่ย้อนไปเคสหลวงพ่ออ๋อยตอนนั้น เขายอมสึกกี่รอบเขาก็สึก ซึ่งจริง ๆ จะต้องมีการสอบสวนให้สิ้น เมื่อสอบสวนให้สิ้นจนมีประกาศว่าบวชไม่ได้เนื่องจากปาราชิก แต่พอเป็นแบบนี้บางคนก็จะแก้ปัญหาด้วยการสึก ซึ่งการสึกเป็นการแก้ปัญหาที่ด่วนไปนะ ยังไม่ทันตัดสินว่าปาราชิกก็สึกก่อน พอเวลาผ่านไปก็กลับมาบวชใหม่ได้ บางทีการสึกก็ไม่ใช่การตอบโจทย์ในการแก้ปัญหา ซึ่งการเอาออกไปจากชุมชนถูกต้องแล้ว คือการแก้ปัญหาระดับแรก ระดับที่สองตัวเขาจะทำอย่างไรต่อ เพราะตัวเขาเป็นพระที่ไม่มีสังกัดวัดเกิน 30 วัน ก็เท่ากับเป็นพระเร่ร่อนก็ต้องลาสิกขา ขาดจากการเป็นพระอยู่ดี                                      

ติดตามรายการ เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล” (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศ เอก-นนทกฤช  กลมกล่อม” เจาะลึกกันแบบสด ๆ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ทางช่อง MONO29 หรือที่แอปพลิเคชัน MONO29 สามารถรับชมรายการย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/FFfpoe_lrhY

#Mono29 #เอกนนทกฤช #Thedaynewsupdatespecial #เจาะข่าวเด็ดสเปเชียล #พระฉาว #เจ้าอาวาส

ขอขอบคูณข้อมูลและภาพประกอบ