• ชื่อเรื่อง: The Idea of You (ภาพฝัน ฉันกับเธอ)
  • นักแสดง: Anne Hathaway (แอนน์ แฮทธาเวย์), Nicholas Galitzine (นิโคลัส กาลิตซีน), Ella Rubin (เอลลา รูบิน), Annie Mumolo (แอนนี่ มูโมโล), Reid Scott (รีด สก็อตต์), Perry Mattfeld (เพอร์รี แมตต์เฟลด์), Jordan Aaron Hall, Mathilda Gianopoulos, Raymond Cham Jr., Jaiden Anthony, Viktor White, Dakota Adan
  • กำกับภาพยนตร์โดย: Michael Showalter (ไมเคิล โชวอลเตอร์)
  • บทภาพยนตร์โดย: Michael Showalter (ไมเคิล โชวอลเตอร์) และ Jennifer Westfeldt โดยอ้างอิงจากนิยายเรื่อง The Idea of You ของ Robinne Lee
  • ผู้อำนวยการสร้าง: Cathy Schulman p.g.a., Gabrielle Union p.g.a., Anne Hathaway p.g.a., Robinne Lee, Eric Hayes, Michael Showalter (ไมเคิล โชวอลเตอร์), Jordana Mollick
  • ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร: Douglas S. Jones, Jason Babiszewski, Jennifer Westfeldt, Kian Gass
  • ประเภท: โรแมนติก ดราม่า
  • ความยาว: 115 นาที
  • เรท: R
  • กำหนดสตรีม: วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 (สตรีมพร้อมกันทั่วโลก บน Prime Video เท่านั้น)

เรื่องย่อ

จากนิยายว่าด้วยความรักร่วมสมัยในชื่อเดียวกัน The Idea of ​​You บอกเล่าเรื่องราวของโซแลน (แอนน์ แฮทธาเวย์) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 40 ที่เริ่มต้นความสัมพันธ์แบบไม่คาดคิดกับเฮย์ส แคมป์เบลล์ (นิโคลัส กาลิทซีน) วัย 24 นักร้องนำแห่ง August Moon บอยแบนด์ที่ฮอตที่สุดแห่งยุค

เมื่อโซแลนต้องก้าวเข้ามาเป็นผู้ดูแลและพาลูกสาวของเธอมาทริปเทศกาลดนตรีโคเชลลาในนาทีสุดท้าย ที่นั่นเธอบังเอิญได้พบกับเฮย์ส และในทันทีทันใดนั้นหัวใจทั้งคู่ก็เกิดอาการสปาร์ค ขณะที่ทั้งคู่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก ไม่นานนักสถานะซูเปอร์สตาร์ของเฮย์ส ก็กระทบกับความสัมพันธ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และโซแลนก็พบว่าชีวิตภายใต้การจับจ้องและเป็นจุดสนใจในแสงสปอตไลท์ของเขา อาจเป็นมากกว่าที่เธอต้องการ

Amazon MGM Studios ภูมิใจเสนอ The Idea of ​​You นำแสดงโดยนักแสดงหญิงเจ้าของรางวัล ออสการ์ Anne Hathaway (Les Misérables), Nicholas Galitzine (Red, White & Royal Blue, Purple Hearts), Ella Rubin, Reid Scott และ Annie Mumolo พร้อมด้วยนักแสดงหลักอย่าง Nina Bloomgarden, Raymond Cham Jr., Mathilda Gianopoulos, Jordan Aaron Hall, Chandler Lovelle, Cheech Manohar, Perry Mattfeld, Meg Millidge, Jaiden Anthony, Viktor White และ Dakota Adan ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Michael Showalter (The Big Sick) บทภาพยนตร์โดย Showalter และ Jennifer Westfeldt และอ้างอิงจากนิยายของ Robinne Lee อำนวยการสร้างโดย Cathy Schulman, Gabrielle Union, Anne Hathaway, Robinne Lee, Eric Hayes, Michael Showalter และ Jordana Mollick  ผู้อำนวยการสร้างบริหารประกอบด้วย Douglas S. Jones, Jason Babiszewski, Jennifer Westfeldt และ Kian Gass  ทีมผู้สร้างภาพยนตร์เบื้องหลัง ได้แก่ Jim Frohna ผู้กำกับภาพ, Amy Williams ผู้ออกแบบงานสร้าง, Peter Teschner ผู้ตัดต่อลำดับภาพ และ Jacqueline Demeterio ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ร่วมด้วย Frankie Pine รับหน้าที่ผู้ดูแลด้านดนตรี และ Siddhartha Khosla ผู้ประพันธ์ดนตรี

 

The Idea of You มีกำหนดสตรีมทั่วโลกในวันที่ 2 พฤษภาคม 2024 บน Prime Video

เกี่ยวกับโปรดักชั่น

 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแค่ “ดี” ยังไม่พอ?

 

ชีวิตของโซแลน (Solène) สุขสบายและเป็นระเบียบเรียบร้อยดี เธอหย่าร้างมาหลายปีและเป็นโสด โซแลนให้ความสำคัญอิสรภาพ เพื่อน ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับอิซซี่ (Izzy) ลูกสาววัยรุ่น และความมุ่งมั่นในงานของเธอ นั่นคือการดูแลแกลเลอรีศิลปะในย่านซิลเวอร์เลคของลอสแองเจลิสเพื่อแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่น ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่ได้ละทิ้งจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยไปเสียหมด เพราะโซแลนวางแผนทริปตั้งแคมป์คนเดียวในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 40 ปีของตัวเอง ในขณะที่แดเนียล (Daniel) อดีตสามีของเธอ จะพาอิซซี่และเพื่อนของเธออีกสองคนไปเทศกาลดนตรี Coachella ด้วยบัตรวีไอพีที่มาพร้อมสิทธิ์เข้าชมบอยแบนด์ August Moon ซึ่งแดเนียลจำได้ว่าเป็นวงโปรดของอิซซี่ที่มี เฮย์ส แคมป์เบลล์ (Hayes Campbell) เป็นนักร้องนำ ถ้ามีใครถามโซแลนว่าชีวิตเธอเป็นยังไงบ้าง เธอคงจะตอบว่า ทุกอย่างปกติดี ขอบคุณ

 

แต่ที่ว่า ‘ดี’ นั่นดีพอหรือยัง?

 

ไมเคิล โชวอลเตอร์ (Michael Showalter) ผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับ The Idea of ​​You จากบทภาพยนตร์ที่เขาร่วมเขียนกับ Jennifer Westfeldt กล่าวว่า “นี่คือเป็นเรื่องราวโรแมนติกที่ยอดเยี่ยม มันเซ็กซี่ ตลก และเร่าร้อนหน่อยๆ เป็นเรื่องของคนสองคนที่ไม่น่าจะได้อยู่ด้วยกันแต่พวกเขาก็รักกันมาก และเราก็หวังว่าคุณจะอยากติดตามเส้นทางรักครั้งนี้ในขณะที่พวกเขาฝ่าฟันกับอุปสรรคทุกรูปแบบ ทั้งความเห็นของสังคม และความคิดของพวกเขาเองว่าคนแบบไหนที่พวกเขาควรหรือไม่ควรจะใช้ชีวิตด้วย”

ผู้อำนวยการสร้าง เคธี่ ชูลแมน (Cathy Schulman) เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการซึ่งมีผลงานภาพยนตร์ที่น่าประทับใจ เธอมักจะเลือกโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ที่มีตัวละครหญิงที่แข็งแกร่ง และนั้นคือสิ่งที่ทำให้เธอสนใจโซแลน “สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซแลนก็คือ เรื่องราวของเธอเป็นตัวอย่างของสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงจำนวนมากเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน มันค่อนข้างง่ายที่พวกเธอจะพูดว่า ‘เฮ้ ฉันโอเคแล้ว ฉันแต่งงานแล้ว และอาจจะหย่าแล้ว ฉันเลี้ยงลูก ฉันมีงานทำ แล้วทำไมต้องแสวงหาอะไรมากกว่านี้อีกล่ะ?’ แบบว่า ฉันสบายดี จบเรื่องแล้ว แต่การที่จะเปิดใจให้ความรักอีกครั้ง และแสวงหาสิ่งที่มากกว่าหลักประกันว่าจะมีชีวิตที่ปลอดภัยนั้น โซแลนจะต้องเสี่ยงที่จะอกหักอีกครั้ง เธอต้องผลักดันตัวเองให้อยากได้มากกว่าแค่สิ่งที่ดี”

แอนน์ แฮทธาเวย์ (Anne Hathaway) ผู้รับบทโซแลน และหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเพิ่มเติมว่า “เราต้องการสร้างหนังที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกดี ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครที่ผู้ชมรู้สึกยินดีที่ได้รู้จัก และสนุกที่ได้เห็นพวกเขาด้วยกัน ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเป็นใคร หน้าตาเป็นยังไง หรือนำเสนอออกมาแบบไหน หรือเรื่องอะไรแบบนั้นเลย มันเป็นเรื่องของความรักอย่างเดียว”

 

เมื่อโซแลนเริ่มสานสัมพันธ์กับเฮย์ส จู่ๆ ทุกอย่างก็น่าตื่นเต้นและแปลกใหม่ไปหมด แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? แม้จะยังไม่มั่นใจ แต่โซแลนก็สนุกกับการใช้เวลาร่วมกับหนุ่มเจ้าเสน่ห์และจริงใจคนนี้ และต้องยอมรับว่าพวกเขาทั้งคู่มีเคมีเข้ากันอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ การพูดคุยกับเฮย์สเป็นเรื่องง่ายและเขาก็ทำให้เธอหัวเราะ มันเป็นความสัมพันธ์ที่หอมหวาน และในบางมุมก็คือสิ่งที่โซแลนต้องการในชีวิตในตอนนี้ แต่เธอยังมีสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เธอต้องการชีวิตที่ไม่ซับซ้อน และลูกสาวของเธอต้องมาก่อนเสมอ นอกจากนี้เธอยังมีงานในแกลเลอรีที่เธอทุ่มเทสร้างขึ้นมากับมือ รวมถึงศิลปินและพนักงานที่เธอต้องดูแล และในทางกลับกัน เฮย์สกำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งชื่อเสียง แฟนเพลง การแสดง โรงแรมหรู และปาปารัสซี่ โลกที่เกือบเหนือจริงและต้องเดินทางตลอดเวลา พวกเขาทั้งสองอยู่ในโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอายุ…เขาอายุ 24 ส่วนเธออายุ 40 คนต้องพูดถึงเรื่องนี้แน่

 

“เราคุ้นเคยกันดีว่าเมื่อความสัมพันธ์ไหนมีช่องว่างระหว่างวัย ก็มักจะเป็นผู้ชายที่อายุมากกว่า” นิโคลัส กาลิทซีน (Nicholas Galitzine) ผู้รับบทเฮย์ส แคมป์เบลล์ ตั้งข้อสังเกต “ผมรู้สึกว่ามันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้เห็นเรื่องราวความสัมพันธ์ในมุมนี้ และได้นำเสนอว่าตอนนี้สังคมของเรายืนอยู่ตรงไหนและกำลังก้าวไปทางไหน เรามองความรักและความสัมพันธ์อย่างไร รวมถึงการที่เคมีระหว่างคนสองคนก้าวข้ามเรื่องของอายุ คนสองคนในสองช่วงเวลาของชีวิตที่แตกต่างกัน สามารถมีสิ่งที่เหมือนกันและเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ”

 

ในที่สุด โซแลนก็ตัดสินใจเชื่อสัญชาตญาณของเธอและพร้อมรับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย ขณะที่อิซซี่ไปเข้าค่าย เธอก็ตอบรับคำเชิญของเฮย์สให้ออกทัวร์คอนเสิร์ตกับเขา แต่เธอยังไม่พร้อมที่จะบอกเรื่องนี้กับใคร

ภาพยนตร์พาไปติดตามพวกเขาทั้งคู่ ผ่านภาพฟุตเทจสวยงามของการออกเดินทางในต่างแดน เสียงเชียร์ของฝูงชน และการแสดงคอนเสิร์ตที่เร้าใจ ควบคู่ไปกับภาพมื้อค่ำแบบลับๆ และยามเย็นที่เป็นส่วนตัวของคู่รัก The Idea of ​​You หยิบจับแก่นแท้ของนวนิยายจากปลายปากกาของ Robinne Lee มานำเสนอ ให้ผู้ชมหลีกหนีจากความเป็นจริงและเพลินใจไปกับเรื่องรักโรแมนติกอย่างแท้จริง นิยายเรื่องนี้สร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านด้วยเรื่องราวของคนสองคนซึ่งแม้จะมีชีวิตที่แตกต่าง แต่ก็กล้าที่จะเสี่ยงเปิดใจให้กันในรูปแบบที่ซื่อสัตย์จริงใจ และสร้างแรงสั่นไหวในหัวใจของกันและกัน และด้วยส่วนผสมขององค์ประกอบนี้เอง ที่ทำให้แอนน์รู้สึกอินไปกับตัวละครเอกในภาพยนตร์เรื่องนี้

“ฉันรู้สึกเชื่อจริงๆ” แอนน์ แฮทธาเวย์ กล่าว “ฉันชอบสร้างภาพยนตร์ที่มีกลิ่นอายโรแมนติกหน่อยๆ แต่บางครั้งมันก็ยากที่จะหาหนังที่คุณเชื่อและรู้สึกว่ามันเข้าถึงความรู้สึกบางอย่างจริงๆ มีบางอย่างในเรื่องราวของโซแลนกับเฮย์สและความรักของพวกเขา ที่ให้รู้สึกว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ”

 

นอกจากนี้ The Idea of ​​You ยังพูดถึงธรรมชาติของการมีชื่อเสียง และผลกระทบที่ของมันที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ส่วนตัว ในแง่มุมที่ทำให้เห็นชัดเจนว่าเพราะอะไรคนอย่างเฮย์สที่ดูเหมือนมีพร้อมทุกอย่าง จึงรู้สึกว่าอยากจะสานสัมพันธ์ใครบางคนที่อยู่นอกวงการ รวมถึงความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง เคธี่ ชูลแมน ผู้อำนวยการสร้าง ตั้งข้อสังเกตว่า “โซแลนและเฮย์สถูกแยกออกจากกันด้วยหลายปัจจัย ทั้งอายุ ระยะทาง และการที่คนหนึ่งเป็นคนมีชื่อเสียง ระยะทางสามารถเอาชนะได้ด้วยการเดินทาง อายุจะไม่ใช่ปัญหาเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง ดังนั้นชื่อเสียงจึงกลายเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด เมื่อความลับของพวกเขาถูกเปิดเผย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าความคิดเห็นของสาธารณชนพิพากษาตัดสินว่านี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่พวกเขาสนับสนุน พวกเขาอาจจะโจมตีโซแลน เพราะทุกคนอยากจะเชื่อว่าตัวเองเป็นเจ้าของเฮย์ส หรืออยากจะเชื่อว่าเขายังอยู่ตรงนั้นเพื่อทุกคน มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ง่ายเลย”

“ชีวิตของเขามันแปลกมาก เป็นสิ่งที่น้อยคนนักที่จะได้สัมผัส” นิโคลัส กาลิทซีนพูดถึงตัวละครที่เขารับบท “ลองนึกภาพว่าการที่ไม่สามารถออกจากบ้านไปซื้อนมโดยที่ไม่มีใครจำคุณได้ดูสิ แล้วคุณจะพบรักได้ยังไง มันยากที่คุณจะไว้ใจใครได้ คุณไม่อาจเชื่อใครได้เลยว่าจริงๆ แล้วพวกเขาต้องการอะไรจากคุณ”

 

ท้ายที่สุดแล้ว โซแลนต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะดำเนินไปในทิศทางไหน เธอจะยินดียอมรับผลกระทบที่ตามมาและขอให้คนรอบตัวยอมรับมันเช่นกัน เพื่อที่เธอจะได้ทำตามหัวใจตัวเองหรือเปล่า

ในความเห็นของไมเคิล โชวอลเตอร์ ผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับ The Idea of ​​You ไม่เพียงจะทำให้ผู้ชมได้รับความรู้สึกดีๆ จากองค์ประกอบที่โรแมนติก ตลก และเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยม “ภาพยนตร์ยังพูดถึงประเด็นอื่นๆ ด้วย ด้วยวิธีการสอดแทรกประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ในแบบของเรา เรายังแสดงให้ผู้ชมเห็นด้วยว่า สังคมในวันนี้มองทางเลือกของผู้อื่นแล้วด่วนตัดสิน และต้องการมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจของคนอื่นในเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขายังไงบ้าง ผมคิดว่าตราบใดที่การตัดสินใจนั้นไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ผู้คนควรจะเปิดกว้างมากกว่านี้ และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ชี้ให้เห็นว่าสังคมของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถโหดร้ายได้มากขนาดไหน”

 

เคมีระหว่างนักแสดงและตัวละคร

แอนน์ แฮทธาเวย์ และ นิโคลัส กาลิทซีน

 

 

สำหรับผู้กำกับ ไมเคิล โชวอลเตอร์ รวมถึงแอนน์ แฮทธาเวย์ และ นิโคลัส กาลิทซีน พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่โซแลนและเฮย์ส แม่เลี้ยงเดี่ยวและป๊อปสตาร์ จะต้องไม่ถูกมองว่าเป็นคนประเภทที่ชอบหว่านเสน่ห์หรือเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น แต่เป็นคนสองคนที่เผชิญกับสถานการณ์ ความรู้สึกไม่มั่นคง และความปรารถนาที่ต่างกัน ผู้ชมจะได้เฝ้าดูพวกเขาเติบโต ต่อสู้ และตระหนักรู้ด้วยตัวเองในขณะที่เรื่องราวดำเนินไป

ในทำนองเดียวกัน นักแสดงทั้งสองรู้สึกเข้ากันได้ดีตั้งแต่การพบกันครั้งแรกที่แอนน์เสนอตัวอ่านบทร่วมกับนิโคลัสในการออดิชั่นของเขา “คุณสามารถบอกได้เสมอจากการออดิชั่นว่าใครแสดงได้หรือไม่ได้ แต่คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าใครจะเป็นยังไงเวลาอยู่หลังกล้องหรือเวลาถ่ายหนัง” แอนน์อธิบาย พร้อมกับกล่าวต่ออย่างมีความสุขว่า “ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยว่าการร่วมงานกับนิคเป็นเรื่องดีขนาดไหน เขาทำให้กองถ่ายเต็มไปด้วยความอบอุ่น จริงใจ และสนุกสนานในทุกๆ วัน”

นิโคลัสตอบกลับคำชมของแอนน์โดยบอกว่าเขาได้เรียนรู้หลายอย่างจากประสบการณ์ในวงการภาพยนตร์ของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง “วิธีที่เธอเข้าถึงและสร้างตัวละคร พร้อมๆ กับพยายามรักษาความสดใหม่ในการแสดง เพราะคุณคงไม่อยากแสดงออกมาแล้วดูเหมือนซ้อมมามากเกินไป แอนน์ค้นหาความจริงในตัวละครของเธออยู่เสมอ และนั่นคือเหตุผลที่เราทุกคนมาที่นี่ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่ซื่อสัตย์จริงใจที่ผู้คนรู้สึกอินตามไปด้วย”

 

 

วง August Moon

 

 

ทีมผู้สร้างตั้งใจให้ทีมนักแสดงหนุ่มที่แสดงเป็นสมาชิกวง August Moon นั้น ดูเป็นบอยแบนด์ซูเปอร์สตาร์จริงๆ

“มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราทุกคนที่ August Moon จะต้องเป็นวงดนตรีที่ยอดเยี่ยม เราไม่ได้จะล้อเล่นเรื่องปรากฏการณ์บอยแบนด์ แต่เราต้องการเฉลิมฉลองเรื่องนี้” ไมเคิล โชวอลเตอร์ กล่าว “ดังนั้นเราจึงรวบรวมชายหนุ่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่เมื่อมาอยู่รวมกันแล้วเป็นวงดนตรีที่ดูสมจริง พร้อมด้วยบทเพลงที่มีความพิเศษ เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ในการร่วมเดินทางครั้งนี้”

 

เมื่อคัดเลือกนักแสดงทั้งหมดที่จะมารับบทแล้ว เคธี่ ชูลแมน เล่าว่า “เราจัดค่ายฝึกหัดให้พวกเขามาอยู่ด้วยกัน เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับการออกทัวร์คอนเสิร์ต พร้อมกับเพลงต้นฉบับชุดหนึ่งที่จะใช้แสดงตั้งแต่ต้นจนจบและสร้างความประทับใจให้ผู้ชมจริงๆ ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายมากๆ เรามีผู้ดูแลด้านดนตรีที่ยอดเยี่ยม แฟรงกี้ ไพน์ (Frankie Pine) ซึ่งเพิ่งปิดโปรเจ็กต์มินิซีรีส์มิวสิคัล ‘Daisy Jones & The Six’ และเคยทำค่ายฝึกลักษณะนี้มาก่อน” ดังนั้น ก่อนการถ่ายทำภาพยนตร์จะเริ่มขึ้น หนุ่มๆ วง August Moon จึงต้องฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นเป็นเวลาหลายเดือนร่วมกับไพน์และนักออกแบบท่าเต้น Dani Vitale ผู้ซึ่งเคยสร้างความประทับใจให้กับชูลมานเป็นครั้งแรกด้วยการแสดงที่โดดเด่นของ Halsey ในงาน VMA (MTV Video Music Awards) ปี 2021

ดานี วิทาลี (Dani Vitale) นักออกแบบท่าเต้น เล่าว่า “เด็กหนุ่มอีกสี่คนเป็นนักเต้นมืออาชีพที่สามารถแสดงได้ แต่นิคเป็นนักแสดงและเขาจำเป็นต้องฝึกเต้นอย่างจริงจัง แน่นอนว่าเขามีความรู้พื้นฐานมาก่อนแล้ว แต่การที่ต้องสอนท่าเต้นแนวป๊อป/ฮิปฮอป ในขณะที่เขาต้องร้องเพลงและใช้ไมโครโฟนให้ถูกต้อง รวมถึงคุมเวทีไปด้วย…มันเป็นอะไรที่มากกว่าแค่การเต้นเยอะเลย”

“ดานีเป็นคนสำคัญมากสำหรับผม” นิโคลัสกล่าว “เธอมีวิธีการทำงาน และสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผมได้ปลดปล่อยอย่างเป็นอิสระจริงๆ การมีความมั่นใจในเรือนร่างของตัวเอง การแสดงอารมณ์ และการกระตุ้นผู้ชมเป็นทักษะเฉพาะทางที่ท้าทายมาก และผมก็ต้องถูกรายล้อมด้วยผู้ชายอีกสี่คนที่ผ่านการฝึกฝนเพื่อเป็นนักเต้นมาแล้ว ดังนั้นส่วนนั้นของหนังจึงเป็นสิ่งที่ผมค่อนข้างกลัว” จริงอยู่ว่านี่อาจเป็นโอกาสที่น่ากังวล แต่ผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมานับว่าคุ้มค่าสำหรับความพยายามทั้งหมด

 

เจย์เดน แอนโธนี (Jaiden Anthony) หนึ่งในผู้รับบทสมาชิกวง August Moon เล่าถึงความทรงจำช่วงที่กำลังถ่ายทำฉากในเทศกาล Coachella ว่า “เราตื่นเต้นมากที่ได้ขึ้นเวทีและในที่สุดก็จะได้แสดงจริงๆ”

“แค่พลังของเวทีและการฉายภาพบนนั้น…มันดูเหนือจริงมากๆ” เรย์มอนด์ แชม จูเนียร์ (Raymond Cham Jr.) กล่าว และเมื่อถึงคิวที่เฮย์สต้องนำเข้าหนึ่งในเพลงฮิตของวง นิโคลัส กาลิทซีน ก็ร้องเพลงเองด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขายังแสดงเพลงโซโล พร้อมกับเล่นกีตาร์อะคูสติกคลอไปด้วย จนทำให้แฟรงกี้ ไพน์ (Frankie Pine) ผู้ดูแลด้านดนตรีถึงกับบอกว่า “ฉันประทับใจความมุ่งมั่นและจรรยาบรรณในการทำงานของนิคมากๆ คุณสามารถโยนอะไรก็ได้ให้เขา แล้วเขาก็พร้อมจะโดดเข้าไปรับ ‘เฮ้ เล่นกีตาร์สิ เล่นเปียโนด้วย ฉันอยากให้นายร้องเพลงด้วยนะ’ เขายินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวละครของเขาดูเหมือนจริงขึ้น และเขาก็มีเสียงที่ชวนฝันสุดๆ!”

 

สำหรับการสร้างสรรค์บทเพลง ทีมผู้สร้างได้ติดต่อ ซาวาน โคเทชา (Savan Kotecha) ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตที่เขียนเพลงและโปรดิวซ์ให้กับศิลปินชื่อดังระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิ One Direction, Britney Spears, Nicki Minaj, Katy Perry และ Ellie Goulding ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัล BMI, ASCAP และ Billboard Awards รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่หลายครั้ง แม้จะมีเวลาทำงานค่อนข้างจำกัด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ไพน์เล่าว่า “ซาวานเป็นคนน่าทึ่งมาก เขามักจะจะส่งโครงร่างสั้นๆ ให้ฉันเรื่อยๆ เช่น ‘คุณคิดว่าอันนี้เป็นยังไงบ้าง?’ แล้วฉันจะตอบไปว่า ‘เยี่ยมเลย ทำต่อไปนะ’ การทำงานกับเขาทำให้ฉันรู้สึกถึงความร่วมแรงร่วมใจเพื่อให้ดนตรีสำหรับเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ เรานั่งฟังเพลงเยอะมาก และพูดคุยกันเรื่องคอนเซ็ปต์ต่างๆ มากมายที่จะทำให้ August Moon มีเอกลักษณ์ เพราะเราต้องการให้ดนตรีในเรื่องมีความแข็งแรงในตัวมันเอง”

พวกเขาทำเพลงใหม่สำหรับ August Moon ออกมา 5 เพลง เพื่อใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ (เผยแพร่โดย Arista Records) แต่ละเพลงมีศักยภาพที่จะติดอันดับเพลงฮิต 40 อันดับแรกได้ไม่ยาก ทั้ง “Dance Before We Walk,” “Taste,” “I Got You,” “Guard Down” ” รวมถึง “Closer” ซึ่งเป็นเพลงที่เฮย์สร้องให้โซแลนในงาน Coachella หลังจากที่ทั้งสองพบกันโดยบังเอิญ เนื้อเพลงที่พูดถึงความรู้สึกอยากใกล้ชิดให้มากกว่าเดิมดูเหมือนจะบอกใบ้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีเพลงเดี่ยวของเฮย์ส แคมป์เบลล์อีกหลายเพลง ซึ่งรวมถึงเพลงที่เล่นในชื่อ “The Idea of ​​You” ด้วย

เนื้อเพลงในบทเพลงต้นฉบับเหล่านี้เน้นย้ำถึงพล็อตสำคัญและจังหวะอารมณ์ในเรื่องแบบเป็นนัย ดึงดูดผู้ชมให้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวและพลังการแสดงไปพร้อมกับตัวละคร

 

 

การเนรมิตเวที

 

 

มีวงดนตรีแล้ว ก็ต้องมีเวที ทีมผู้สร้างได้คัดเลือก ผู้ออกแบบงานสร้าง (production designer) เอมี่ วิลเลียมส์ (Amy Williams) ให้เนรมิตฉากในเทศกาล Coachella ที่ทั้งยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความโกลาหลขึ้นมาจากความว่างเปล่า “เราถ่ายทำหนังเรื่องนี้ในแอตแลนต้าและซาวานนาห์” โชวอลเตอร์กล่าว “แต่เรื่องราวเกิดขึ้นในลอสแอนเจลิส นิวยอร์ก โคเปนเฮเกน ลอนดอน แซงต์-โตรเปซ์ … และเอมี่ก็สามารถนำทั้งหมดนั้นมาไว้ในเรื่องได้”

แน่นอนว่า Coachella เป็นฉากสำคัญในเรื่อง อย่างที่ที่เอมี่ วิลเลียมส์ อธิบายว่า “เทศกาลนี้เกิดขึ้นนอกแอลเอ มันเป็นสถานที่ที่กว้างใหญ่และวุ่นวาย และโซแลนก็เหมือนหลุดออกมาจากสถานที่เงียบสงบและถูกโยนเข้ามาในโลกที่จัดจ้านด้วยสีสัน เรานำสีพาสเทลและสีรุ้งที่สื่อถึงวัยเยาว์ออกมาใช้ งานประติมากรรมนิดหน่อย และงานศิลปะจัดวางขนาดใหญ่ รวมถึงเต็นท์จำนวนมาก รถบรรทุกอาหาร ห้องน้ำเคลื่อนที่ รถพ่วง และเวทีขนาดใหญ่ เราทำงานร่วมกับบริษัทวิชวล เอฟเฟ็กต์ Nimblist เพื่อสร้างเวทีและและการออกแบบแสง ดังนั้นนี่จึงเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่างหลายฝ่ายเพื่อนำองค์ประกอบเหล่านี้มารวมเข้าด้วยกัน”

เคธี่ ชูลแมน (ผู้อำนวยการสร้าง) เล่าว่า “เราทุ่มเทเวลาและพลังงานมากมายไปกับมัน เราออกแบบเวที รวมถึงการจัดแสงและวิดีโอแบ็คกราวด์และบันทึกการแสดงสดทั้งหมด เราเตรียมเพลงสำรองไว้ แต่เราก็แสดงอย่างเต็มที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก มันเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและน่าตื่นเต้นมาก” จากนั้น เธอกล่าวเสริมพร้อมหัวเราะว่า “เราพาวงนี้ไปออกทัวร์กันไงล่ะ”

จริงๆ แล้ว เมื่อการถ่ายทำฉาก Coachella เสร็จสิ้น เอมี่ วิลเลียมส์ก็เปลี่ยนฉากใหม่ให้ดูเหมือนสถานที่ต่างๆ ในยุโรป โดยเปลี่ยนภาพพื้นหลังที่เต็มไปด้วยต้นกระบองเพชรและต้นปาล์มในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ เป็นทิวทัศน์ต่างๆ ที่ปรากฏในเมืองต้นฉบับจริงๆ “เราเปลี่ยนเวที เปลี่ยนแสง และพื้นหลัง แค่นั้นเราก็เหมือนข้ามมาที่ยุโรปแล้ว” เธอพูดให้ทุกอย่างดูเหมือนง่ายกว่าความเป็นจริง “เราใช้พาเลทสี ฉาก และองค์ประกอบบนเวทีที่แตกต่างกัน เช่น การเพิ่มหรือถอดแคตวอล์กออก การเพิ่มบันไดที่สว่างไสวเข้าไป หรือใส่ประกายไฟและกองไฟเข้าไป เป็นการทัวร์คอนเสิร์ตในยุโรปที่ยิ่งใหญ่มาก”

 

————————————————————————————

 

The Idea of ​​You นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์และควาามคาดหวัง และอาจเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้หันกลับไปมองทางเลือกและประสบการณ์ที่ผ่านมาของตนเองอีกครั้งในมุมใหม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก